เหตุใดโครงการของท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ที่จะสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ที่เรียกว่าอาคาร “เทอร์มินอล 2” ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงมีองค์กรวิชาชีพถึง 12 องค์กร ออกมาคัดค้านกันอย่างต่อเนื่องจนย่างเข้าปีที่ 2 แล้ว โดยล่าสุดเมื่อ 14 พ.ย. ที่ผ่านมานี้ องค์กรวิชาชีพของวิศวกรอันเก่าแก่ที่สุดคือ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือที่คนรู้จักกันทั่วไปในชื่อย่อว่า วสท. ได้จัดเสวนาวิชาการ เรื่อง “เทอร์มินอล 2 ตัดแปะ…หายนะสุวรรณภูมิ?” ในงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2562 โดยมี ดร.สมเจตน์ ทิณพงษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด และ ดร.สามารถราชพลสิทธิ์ วิศวกรผู้ร่วมจัดทำแผนแม่บทสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นวิทยากร โดยมีผลสรุปออกมาว่า “อาคารเทอร์มินอล 2 ตามแผนที่ทอท. ผลักดันนั้น ราคาแพงกว่าการสร้างส่วนต่อขยายจากเดิมเกือบ 4 เท่า และใช้เวลาก่อสร้างนานกว่าถึง 2 เท่า”
บทสรุปนี้มาจากข้อมูลว่าหากเลือกที่จะสร้างส่วนต่อขยายเทอร์มินอล 1 ในอาคารเดิม ทางปีกฝั่งทิศตะวันออก และปีกทิศตะวันตก จะใช้งบประมาณเพียง 12,000 ล้านบาท เท่านั้น จะสามารถจุผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้อีก 30 ล้านคนทันที อีกทั้งจะทำได้เสร็จรวดเร็วเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น
แต่หากเลือกพัฒนาเทอร์มินอล 2 เป็นอาคารขึ้นมาใหม่ทั้งอาคาร ตามที่ ทอท. ผลักดันมาตลอดนั้นจะต้องใช้งบสูงถึง 42,000 ล้านบาท
ทั้งนี้แม้ว่าการสร้างเทอร์มินอล 2 จะมีข้อดีคือมีการขยายพื้นที่เพื่อการขายสินค้า เพิ่มความสะดวกและช่องทางการจับจ่ายใช้สอยให้กับผู้โดยสารที่มาใช้เวลารอเครื่อง แต่สำหรับผู้โดยสารที่จะขึ้นเครื่องจากอาคารผู้โดยสารเดิม จะไม่สะดวกในการเดินทาง เพราะจะต้องขึ้นลงรถไฟฟ้าอัตโนมัติถึง 3 สายที่จะต้องสร้างขึ้นใหม่กว่าที่จะไปถึงเครื่องบินลำที่จะเดินทางได้
ผมในฐานะอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ต้องขอบอกว่าความเคลื่อนไหวของ วสท. ในครั้งนี้ผมถือเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญมาก เพราะตลอดเวลา 90 ปีของ วสท. องค์กรให้การสนับสนุนด้านวิศวกรรมของประเทศอย่างตรงไปตรงมาเสมอ โดยไม่เคยมีผลประโยชน์หรือเป้าหมายแอบแฝงทางการเมืองมาเกี่ยวข้องทำให้องค์กรจะไม่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเรื่องอะไรง่ายๆ ยกตัวอย่างครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ที่ประชาชนเคยมีความกังวลเรื่องความแข็งแรงของสนามบินสุวรรณภูมิ ในกรณีความชำรุดเสียหายของทางวิ่งขึ้นลงของสนามบินในช่วงเปิดสนามบินใหม่ๆ ร้ายแรงถึงขั้นมีกลุ่มมวลชนออกมาบีบให้รัฐบาลในขณะนั้นปิดสนามบินเลยทีเดียว วสท. จึงได้ส่งคณะนักวิชาการอิสระ ที่เป็นที่ยอมรับนับถือ มาเจาะสำรวจ ตรวจสอบทางวิชาการโดยอิสระ ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้นและชี้แจงผลอย่างตรงไปตรงมาว่า ความเสียหายเป็นเฉพาะที่ชั้นผิวของลานวิ่งของสนามบินเท่านั้น ไม่พบความเสียหายหนักในชั้นฐานรากอย่างที่หวั่นเกรงกันตามความเชื่อคนส่วนใหญ่ในขณะนั้น
การยืนยันโดยใช้วิชาการเป็นหลักในการอ้างอิงในครั้งนั้น แม้จะขัดกับความเชื่อของประชาชนจำนวนมากในขณะนั้น ทำให้ผมซึ่งผู้เป็นแถลงผลนี้ถูกสื่อบางสำนักโจมตีอย่างหนักถึงขั้นว่ารับเงินจากผู้รับเหมามาบิดเบือนความจริงแต่ด้วยผมมีรายงานจาก วสท. เป็นหลักให้อ้างอิงได้ จึงมั่นใจที่จะแถลงข่าวตามความจริง สนามบินสุวรรณภูมิจึงสามารถเปิดดำเนินการมาได้ตลอดมาถึง 17 ปีอย่างไร้ปัญหา ไม่ยุบไม่พังลงอย่างที่เคยเชื่อกันในขณะนั้น
มาถึงในวันนี้ วันพุธที่ 27 พ.ย. 2562 ตัวแทนของ 12 องค์กรวิชาชีพได้รับเชิญจากกรรมาธิการติดตามงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ให้เข้าไปให้ข้อมูล ในโครงการของ ทอท.ที่จะก่อสร้าง “เทอร์มินอล 2” แห่งใหม่นี้ หวังว่า ทอท. จะมีผู้แทนที่จะมาร่วมฟังและร่วมซักถามวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ต่อหน้าคณะกรรมาธิการอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา สมดังความภูมิใจของ ทอท. ที่ได้ประกาศไว้ใน Core Value ขององค์กรว่าจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิด “ความโปร่งใสและสำนึกในความรับผิดชอบ การปฏิบัติงานด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ และสำนึกในความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น ต่อลูกค้า ต่อสังคมและประเทศชาติ” และ ทอท. ต้องไม่ลืมเรื่องจริยธรรมขององค์กรที่ได้ประกาศออกมาใน “ประมวลจริยธรรมของผู้ปฏิบัติงาน พ.ศ. 2554” ที่มีทั้งหมดรวม 9 ข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อที่ 6 ที่มีใจความสำคัญที่สุด ที่ต้องถือปฏิบัติว่า“การให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง และไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง”
รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค และดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี