ถึงแม้ยังเหลือเวลาอีกเกือบปี กว่าจะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน 2563 แต่เสียงปี่เสียงกลอง หรือกระบวนการทางเมืองในระบอบประชาธิปไตยตรงนี้ก็ได้เริ่มขึ้นมาหลายเดือนแล้ว เมื่อบรรดาผู้สมัครของพรรคเดโมแครตต่างเริ่มทยอยเปิดตัวให้ชาวอเมริกันได้ยลโฉมหน้ากัน เพื่อเป็นตัวแทนของพรรคไปสู้กับพรรครีพับลิกันที่ยังคงส่งแชมป์เก่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ (73 ปี)ลงป้องกันตำแหน่งอีกสมัยตามประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมา
แคนดิเดตของเดโมแครตนั้นมีตั้งแต่รุ่นใหญ่อย่าง นายโจ ไบเดน (77 ปี) อดีตรองประธานาธิบดี สมัยรัฐบาลโอบามา นางเอลิซาเบธ วอร์เรน (70 ปี) วุฒิสมาชิก รัฐแมสซาชูเซตส์ นายเบอร์นี แซนเดอร์ (78 ปี) วุฒิสมาชิก รัฐเวอร์มอนต์ เรื่อยลงมาถึงรุ่นเล็กอย่าง Pete Buttigieg (พีท บูทิเช็ค) นายกเทศมนตรี เมืองเซาท์ เบนด์ รัฐอินเดียนา ซึ่งอายุเพียง 37 ปี
ความน่าสนใจของ พีท บูทิเช็ค ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องการเป็นแคนดิเดตอายุน้อยที่สุดเท่านั้น ในเรื่องชีวิตสมรสบูทิเช็ค ยังได้ประกาศอย่างชัดเจนต่อสาธารณะว่าตนเองเป็น เกย์ (Gay) หรือเป็นคนรักร่วมเพศ (Homosexual)สามีของบูทิเช็คคือนาย Chasten Glezman โดยทั้งคู่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วนี้เอง
อย่างไรก็ตาม การเลือกเดินในเส้นทางนักการเมืองเพศที่สามควบคู่ไปกับการมีเป้าหมายทางการเมืองสูงสุดไปถึงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ง่ายๆ แม้ว่าด้านหนึ่ง บูทิเช็คจะมีต้นทุนในโปรไฟล์ชีวิตที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่ง แต่ก็ต้องรอจวบจนอายุ 33 ปี จึงได้ออกมาเปิดเผยในเรื่องนี้ต่อสาธารณะ โดยก่อนหน้านั้นบูทิเช็คได้พยายามปิดปังเรื่องดังกล่าวตลอดมาในช่วงชีวิตวัยหนุ่มของเขา ทั้งด้วยการออกไปเดทกับเพื่อนสาวไปจนถึงสมัครเข้ารับราชการเป็นทหารในกองทัพเรือสหรัฐฯ และยังถูกส่งไปประจำการอยู่ที่อัฟกานิสถานเป็นระยะเวลาถึง 7 เดือน
บูทิเช็ค จบปริญญาตรีเกียรตินิยม ด้านประวัติศาสตร์และวรรณกรรมจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในปี 2547หลังจากนั้นก็ได้ทุน Rhodes Scholar ไปเรียนด้านปรัชญา การเมืองและเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดอีกสามปี ระหว่างเรียนอยู่ที่ออกซฟอร์ด แมวมองจาก McKinsey & Company ก็เข้ามาทาบทามให้ไปร่วมงานด้วย ในตอนนั้น McKinsey & Company ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางคัดสรรพนักงานใหม่โดยจากแต่ก่อนที่มักจะเลือกนักศึกษาที่ผ่านโรงเรียนธุรกิจชั้นนำอย่างฮาร์วาร์ด สแตนฟอร์ด วอร์ตัน หรือเคลล็อก มาเป็นนักเรียนทุน Rhodes Scholar แบบบูทิเช็คที่มีทั้งความเฉลียวฉลาด เชาวน์ปัญญาและไหวพริบมากกว่าปริญญาด้านการบริหารธุรกิจ (M.B.A)
McKinsey & Company เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนชั้นนำของโลกที่มีสำนักงานกว่า 130 เมือง ใน 65 ประเทศทั่วโลก โดยผลการสำรวจบริษัทที่ทำงานในอุดมคติของบรรดาเด็กหัวกะทิ(Whiz kids) ที่จบจากสถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วโลกพบว่า McKinsey & Company เป็นหนึ่งในบริษัทอันดับต้นๆ ที่พวกเขาเหล่านี้อยากเข้าทำงานด้วยเช่นเดียวกับอีก 4 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง FAGA (Facebook, Apple, Google และ Amazon)
“…เขาเป็นคนเดียวที่สามารถต่อชิ้นส่วนทุกชิ้นเข้าได้ด้วยกัน…” เจฟฟ์ เฮลบลิง (Jeff Helbling) หนึ่งในหุ้นส่วนของ McKinsey & Company พูดถึงบูทิเช็คภายหลังการสัมภาษณ์เมื่อปลายปี 2549 ช่วงเวลาเดียวกับที่วิกฤตการณ์ซับไพรม์ที่สหรัฐอเมริกากำลังค่อยๆ เริ่มก่อตัวขึ้น
“…ทั้งๆ ที่ (เขา) ไม่ได้มีพื้นฐานด้านการบริหารธุรกิจ การเงินหรือกฎหมาย มากนัก…” เฮลบลิง เล่าต่อไปถึงความประทับใจที่มีต่อบูทิเช็คเมื่อคณะผู้สัมภาษณ์สร้างสถานการณ์จำลองให้บูทิเช็คสวมบทบาทเป็นที่ปรึกษาของ McKinsey & Company ซึ่งมีหน้าที่ต้องไปบริการให้คำปรึกษาทั้งในด้านกลยุทธ์ การบริหารองค์กรนโยบาย การจัดการต้นทุนผลกำไรและขาดทุนกับซีอีโอขององค์กรที่อยู่ในสภาวะกำลังจะล้มละลายจากวิกฤตการณ์การเงินในสหรัฐที่กำลังจะเกิดขึ้นเต็มตัวอย่างจริงๆ ในอีกไม่ถึงสองปีข้างหน้า
ทันทีที่เรียนจบจากออกซฟอร์ด ในปี 2550 บูทิเช็คก็ได้รับการคัดเลือกเข้าทำงานที่ McKinsey &Company สำนักงานที่เมืองชิคาโก ในตำแหน่งพนักงานที่ปรึกษาด้านการบริหารธุรกิจที่ครอบคลุมไปทั้งธุรกิจพลังงาน ค้าปลีก พัฒนาเศรษฐกิจ การขนส่งและโลจิสติกส์อย่างไรก็ตาม บูทิเช็คทำงานที่ McKinsey & Companyได้เพียง 3 ปี ก็ลาออกเมื่อเขารู้สึกว่ามันไม่ใช่งานที่เขาต้องการจะทำไปทั้งชีวิต
ปี 2553 ขณะที่อายุได้เพียง 28 ปี บูทิเช็คลงสมัครในการเลือกตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ของรัฐอินเดียนา แต่ก็ต้องพ่ายแพ้แก่เจ้าของตำแหน่งเดิมจากพรรครีพับลิกัน แต่ต่อมาในปีถัดไปบูทิเช็คเบนเข็มไปลงเลือกตั้งในสนามเล็กและก็ประสบความสำเร็จได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี เมืองเซาท์ เบนด์เมืองที่เขาเกิดมาเมื่อ 29 ปีที่แล้ว และได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งเป็นสมัยที่สอง ในปี 2558 และปีเดียวกันนี้บูทิเช็คได้ตัดสินใจเปิดเผยต่อสาธารณะว่าเขาเป็นเกย์เมื่ออายุได้ 33 ปี
อย่างไรก็ตาม เส้นทางการไปถึงดวงดาวของบูทิเช็คดูแล้วไม่น่าจะเป็นหนทางที่ง่ายนัก แม้ว่าในตอนนี้คะแนนของเขาจะเพิ่มมากขึ้นจากผลโพลล์ในหลายๆ สำนักอันมาจากการพูดจาดีเบตที่ฉะฉานและเฉลียวฉลาด นับตั้งแต่ที่เขาประกาศตัวเพื่อเป็นแคนดิเดตของเดโมแครตในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ลึกๆ ในความจริงแล้วคนอเมริกันจำนวนหนึ่งนั้น ยังไม่พร้อมที่จะมีประธานาธิบดีที่เป็นเพศทางเลือก (LGBT)
ธิติ สุวรรณทัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี