สถานการณ์ของโลกกำลังเกิดภาวะตึงเครียดอย่างรุนแรงใกล้จะเกิดเป็นมหาสงครามโลกครั้งที่ 3 เนื่องจากสหรัฐอเมริกาที่เป็นมหาอำนาจหมายเลข 1 ในยุคปัจจุบันเกิดความขัดแย้งกับสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน กรณีพิพาทระหว่าง 2 ประเทศนี้ มีสืบเนื่องมายาวนานนับตั้งแต่ปี 1979 เมื่อสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านเกิดการรัฐประหารโค่นล้มระบอบราชาธิปไตยของพระเจ้าชาห์ มะหะหมัด เรซา ชาห์ ปาเลวี โดยผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ นามว่า อะยาตอเลาะห์ รูฮุลลอฮ์ โคไมนี่
อิหร่านไม่ใช่ชาติอาหรับแต่เป็นที่ตั้งของอารยธรรมเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเมื่อประมาณ 8 พันปีที่แล้วเริ่มต้นด้วยการตั้งราชอาณาจักรก่อนรัฐเอลามและรัฐเอลามใน 3200-2800 ปีก่อน ค.ศ. ชาวมีดส์ อิหร่านรวบรวมพื้นที่เป็นจักรวรรดิแห่งแรกๆ ในช่วง 625 ปีก่อนคริสตกาลหลังจากนั้น ชาวมีดส์กลายเป็นชาติวัฒนธรรมและการเมืองที่ครอบงำในภูมิภาคเป็นอิหร่านเรืองอำนาจถึงขีดสุดระหว่างจักรวรรดิอะคีเมนิดสมัยพระเจ้าไซรัสมหาราชก่อตั้งใน 550 ปีก่อน ค.ศ. ซึ่งเมื่อแผ่อาณาเขตไพศาลที่สุดนั้นล้วนกินส่วนสำคัญของโลกโบราณ ตั้งแต่บางส่วนของคาบสมุทรบอลข่านแคว้นเธรซ มาซิโดเนีย บัลแกเรีย พีโอเนีย และยุโรปตะวันออกทางทิศตะวันตก จดลุ่มแม่น้ำสินธุทางทิศตะวันออก ที่อินเดีย ทำให้เป็นจักรวรรดิใหญ่สุดในโลกในยุคนั้น
จักรวรรดิเปอร์เซียล่มสลายใน 330 ปี ก่อนคริสตกาลหลังการพิชิตของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาซิโดเนีย จากนั้นจักรวรรดิพาร์เธีย ได้กำเนิดขึ้นจากเถ้าถ่านแล้วต่อด้วยราชวงศ์แซสซานิดใน ค.ศ. 224 ซึ่งอิหร่านกลายเป็นชาตินำในโลกอีกครั้งร่วมกับจักรวรรดิโรมันตะวันออก หรือไบแซนไทน์ เป็นเวลากว่า 4 ศตวรรษ ปี ค.ศ. 633 มุสลิมรอชิดีนบุกครองอิหร่านและพิชิตได้ในปี ค.ศ. 651 ซึ่งเข้าแทนที่ความเชื่อพื้นเมืองศาสนามาณีกีและศาสนาโซโรอัสเตอร์ที่บูชาไฟเป็นส่วนใหญ่ อิหร่านเป็นชาติที่มีส่วนสำคัญต่อยุคทองของอิสลามแม้จะมิใช่ชาวอาหรับและเติร์กโดยผลิตนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ ศิลปินและนักคิดทรงอิทธิพลจำนวนมาก การสถาปนาราชวงศ์ซาฟาวิดในปี ค.ศ. 1501ซึ่งส่งเสริมนิกายอิสนาอะชะรียะห์เป็นศาสนาประจำชาติ เป็นเครื่องหมายจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดจุดหนึ่งในประวัติศาสตร์อิหร่านและมุสลิม เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1736 ภายใต้ชาห์นาเดอร์
อิหร่านมีอาณาเขตกว้างขวางที่สุดนับแต่จักรวรรดิแซสซานิด โดยเป็นจักรวรรดิที่แย้งได้ว่าทรงอำนาจที่สุดในโลกในเวลานั้นช่วงสั้นๆ ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 อิหร่านเสียดินแดนหลายส่วนในแคว้นคอเคซัส ซึ่งถูกทำให้เป็นส่วนหนึ่งของมโนทัศน์อิหร่านหลายศตวรรษแก่จักรวรรดิรัสเซียเพื่อนบ้านความไม่สงบของประชาชนลงเอยด้วยการปฏิวัติรัฐธรรมนูญเปอร์เซีย ปี 1906 ซึ่งสถาปนาราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญและมาฮ์จิส หรือรัฐสภาแห่งแรกของประเทศ หลังรัฐประหารที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลังในปี 1953 อิหร่านค่อยๆ กลายเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตก การปฏิวัติอิสลามโดยอะยาตอเลาะห์ โคไมนี่ ในปี 1979 ซึ่งทำให้มีการสถาปนาสาธารณรัฐอิสลาม เมื่อวันที่ 1 เมษายน ปี 1979
สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน หรือเปอร์เซีย เป็นประเทศในเอเชียตะวันตก มีเขตแดนติดกับอาร์เมเนีย สาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัค โดยพฤตินัยและอาเซอร์ไบจาน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับคาซัคสถานและรัสเซีย โดยมีทะเลสาบแคสเปียนคั่นติดเติร์กเมนิสถาน ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดอัฟกานิสถานและปากีสถานทางทิศตะวันออก ติดอ่าวเปอร์เซียและอ่าวโอมาน ทางใต้ติดตุรกีและอิรัก ทางทิศตะวันตก มีพื้นที่ 1,648,195 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศใหญ่ที่สุดอันดับที่ 2ในตะวันออกกลางและอันดับที่ 18 ของโลก มีประชากร80 ล้านคน มากเป็นอันดับที่ 17 ของโลก
เป็นประเทศเดียวที่มีชายฝั่งทะเลแคสเปียนและมหาสมุทรอินเดีย อิหร่านมีความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์มาช้านานเนื่องจากที่ตั้งอยู่ในกลางยูเรเชียและเอเชียตะวันตก และอยู่ใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมหลากหลายที่มีกลุ่มชาติพันธุ์และภาษาต่างๆ มากคือเปอร์เซียมากที่สุดร้อยละ 61 อาเซอร์ไบจาน ร้อยละ 16เคิร์ด ร้อยละ 10 และโลเรสถาน ร้อยละ 6มีแหล่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติมากมายอยู่ในอันดับ 3 ของโลก
ผู้นำสูงสุดของประเทศนับตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมา มีเพียง 2 คนเท่านั้น คือ รูฮุลลอฮ์ โคไมนี่ ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ ปี 1979 จนถึงแก่กรรมในตำแหน่งเมื่อ 1989 และ อะลีคอเมเนอี ได้ดำรงตำแหน่งต่อมาถึงในปัจจุบันเป็นเวลานานถึง 31 ปี ปัจจุบันอิหร่านมีกองทัพปฏิวัติอิสลามที่มีกองกำลังอาวุธแบบปกติและอาวุธนิวเคลียร์ที่เข้มแข็งมีกำลังพลประจำการถึง 600,000 คน และมีกองหนุนพร้อมรบอีกนับล้านคน การประกาศตัวขอต่อสู้กับชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างเด็ดเดี่ยวและห้าวหาญจึงเป็นเรื่องที่ไม่ปกติธรรมดาอย่างแน่นอน
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี