วันเสาร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เวทีอิสระ
เวทีอิสระ

เวทีอิสระ

วันพฤหัสบดี ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 02.00 น.
คุยกับแท็กซี่:รายได้กับชีวิตที่มั่นคง

ดูทั้งหมด

  •  

ทุกครั้งที่ได้ใช้บริการแท็กซี่ ผมก็มักจะหาประเด็นพูดคุยกับโชเฟอร์เกี่ยวกับประเด็นปัญหาของอาชีพ และปัญหาในการดำรงชีวิต แง่หนึ่งก็ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อีกแง่หนึ่งก็ประสงค์ใฝ่หาข้อมูลเกี่ยวกับความพอเพียงในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรี เพื่อนำไปประกอบใช้ในการร่วมคิดร่วมทำเกี่ยวกับการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย

คนขับแท็กซี่ทุกคนที่ได้รับปุจฉานั้น ต่างก็มีความคิดเห็น และมีข้อเสนอแนะที่น่าฟังสมเหตุสมผล เพราะต่างก็มีความประสงค์ที่จะมีชีวิตที่มั่นคงทั้งสิ้น


ผมได้รับทราบว่า การเช่ารถขับรับจ้าง 1 ผลัดต่อวัน มีต้นทุนประมาณ 500-700 บาท ในขณะที่การเช่าซื้อจะตกอยู่ประมาณ 500-900 บาทต่อวันขึ้นอยู่กับรถใหม่รถเก่า บวกกับค่าเชื้อเพลิงอีกประมาณวันละ 350 บาท นอกจากนั้น ก็ยังมีค่ากินอยู่อีกประมาณ 200 บาทต่อวัน รวมแล้ว งบลงทุนประจำวันก็ตกประมาณไม่เกิน 1,200 บาท

ฉะนั้น จะต้องพยายามหารายได้ให้ได้อย่างต่ำวันละ 1,500-1,700 บาท เพื่อที่จะได้เงินเหลือสัก 300-500 บาทต่อวัน คิดว่าทำงาน 30 วัน ก็เป็นเงินรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถ้าอยู่คนเดียวอย่างพอเพียง ก็พอจะสามารถจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่ารักษาพยาบาล (30 บาทบัตรทอง) ค่าอาหาร และเหลือจับจ่ายใช้สอยอื่นได้บ้าง

แต่โดยเฉลี่ยแล้ว ครอบครัวคนขับแท็กซี่นั้นยังมีภรรยา และลูกอีก 1-2 คน ทำให้เงินรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน ไม่เพียงพอที่จะสู้กับรายจ่าย อย่างน้อยจะต้องมีรายได้สัก 22,000-25,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสามีผู้ขับแท็กซี่ก็คงจะหาได้ไม่ถึง ตัวภรรยาจึงต้องช่วยทำงานหาเงินเข้าบ้านด้วยอีกทางหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน หากภรรยาต้องเลี้ยงลูกเล็ก ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการไปทำงานนอกบ้าน นอกจากจะยอมเสียเงินจ้างคนเลี้ยงลูก (ค่าใช้จ่ายสูง และยังไม่รู้ว่าจะเชื่อใจได้แค่ไหน) หรือไม่ก็ต้องนำลูกไปฝากไว้ให้ปู่-ย่า ตา-ยาย (ซึ่งมักอยู่ต่างจังหวัด) เลี้ยงให้ ซึ่งการแยกกันอยู่กับพ่อแม่นั้นอาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการของเด็กเล็ก

แล้วจะทำอย่างไรกันดี ในเมื่อประชาชนพลเมืองกลุ่มหนึ่งไม่สามารถช่วยตัวเองได้ทางเศรษฐกิจ อย่างในกรณีคนขับแท็กซี่มีรายรับไม่ถึง 25,000 บาท แต่ก็ต้องเลี้ยงครอบครัว 4 ชีวิต

ใน 5-10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในทวีปยุโรปต่างก็มีความคิดและมีการทดลองปฏิบัติเรื่องนโยบายมาตรการเงินเดือนขั้นต่ำทั่วหน้า (Universal Basic Income-UBI) ซึ่งก็มีหลายรูปแบบ เช่น จ่ายเงินเดือนให้พลเมืองทุกคนไม่ว่าจะจนหรือรวย จ่ายสมทบให้ หรือจ่ายให้เต็มเมื่อตกงาน หรือจ่ายเป็นค่าเล่าเรียน และเสริมทักษะและองค์ความรู้ เป็นต้น

สำหรับกรณีของไทย จากที่ได้สอบถามพูดคุยกับคนหนุ่มสาว และโดยเฉพาะกับกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ ก็เห็นว่าหากจะพอมีชีวิตอยู่ได้ตามอัตภาพแล้ว รายได้ขั้นต่ำต่อเดือนน่าจะมีรูปร่างดังนี้

1.ชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว ควรมีรายได้ขั้นต่ำประมาณ 12,000-15,000 บาทต่อเดือน

2.สามี-ภรรยา เพิ่งแต่งงาน ควรมีรายได้ประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน

3.ครอบครัว พ่อ-แม่-ลูก (ลูกหนึ่ง หรือสองคน) ควรมีรายได้ประมาณ 25,000 บาทต่อเดือน

หากทั้ง 3 กรณี ไม่สามารถหารายรับได้ตามเป้าดังกล่าว จะไปเอาเงินที่ยังขาดอยู่ได้จากที่ไหน (อาทิ
คนโสด มีเงินเดือนแค่ 9,000 บาท ก็ไม่พอใช้ จะต้องไปหาอีก 3,000 บาท หรือครอบครัว 4 คน หาได้แค่ 20,000 บาท ก็ขาดอีก 5,000 บาท) ส่วนที่ขาดไปนี้ ผมเองอยากเสนอให้นำหลัก UBI หรือหลักเติมให้เต็ม (Fill up) มาใช้ กล่าวคือ ฝ่ายรัฐนำงบประมาณมาใช้สมทบ หรือเติมให้เต็มตามเป้าตามสถานะของพลเมืองดังกล่าว

เสนอแบบนี้ ก็ย่อมจะมีคำถามตามมาว่า แล้วรัฐโดยรัฐบาลจะมีเงินหรือหาเงินทำได้หรือ?

คำตอบของผมก็คือ รัฐบาลนั้นมีงบประมาณประจำอยู่แล้วและเพียงพอ ฉะนั้นก็จะทำการได้แน่นอน เพราะทุกวันนี้ รัฐบาลประยุทธ์ ได้นำเงินงบประมาณส่วนหนึ่งไปใช้จ่ายแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำกับนโยบายมาตรการประชานิยมทั้งหลาย บวกกับนโยบายประกันราคาพืชผล หรือประกันรายได้จากพืชผล บวกการอุ้มอุตสาหกรรมบริการ และอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าของกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ในเครือข่ายผู้มีอำนาจรัฐ ยังไม่นับกับที่สูญเสียไปกับการทุจริตคอร์รัปชั่น และโครงการยักษ์ใหญ่ที่ผลตอบแทนไม่แน่ชัดหากปรับวิสัยทัศน์ เปลี่ยนวิธีการใช้งบประมาณมาสนับสนุนความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง อย่างมาตรการเงินเดือนขั้นต่ำทั่วหน้าดังกล่าว ผมก็แน่ใจว่ายังจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

นอกจากนั้น รายได้รัฐจากการขายสลากกินแบ่ง การให้สัมปทานทรัพยากรทางธรรมชาติ การเปิดประมูลคลื่นความถี่ จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ (Sin Tax) ก็ยังสามารถนำมาสมทบเป็นเงินเติมให้เต็มได้อีก

แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินการนี้ภาครัฐก็ต้องมีสถิติให้แน่ชัด ตรวจสอบได้ และเข้าถึงโดยประชาชนพลเมืองอย่างทั่วถึง โดยต้องมีความโปร่งใส สามารถระบุได้ว่า ประชาชนคนใดเป็น ผู้ทำงาน มีสถานะโสด หรือมีครอบครัว มีหรือไม่มีบุตร และจะสามารถประมาณการได้ว่าอีก 5-10 ปีข้างหน้า รัฐจะต้องใช้เงินสนับสนุนเท่าใด ซึ่งเมื่อมีสถิติข้อมูลต่างๆ แล้ว ก็อยู่ในวิสัยที่จะดำเนินการได้ ซึ่งขณะนี้ประเทศก็มีตัวเลขคร่าวๆ ว่ากลุ่มคนที่อยู่ในกลุ่มยากจน (below poverty line) มีอยู่ประมาณ 6 ล้านคน หรือกลุ่มคนที่มีรายได้ระหว่าง 4,500-5,000 บาทต่อเดือน กับ 6,000-7,000 บาทต่อคนต่อเดือน

หากคนกลุ่มผู้ร่วมชาติเหล่านี้มีรายได้รวมที่เพียงพอจะเลี้ยงชีพได้ ปัญหาต่างๆ ที่คอยรบกวนการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนก็จะเบาบางลงไป ไม่ว่าจะเป็นหนี้นอกระบบ หรือความกังวลเรื่องการชักหน้าไม่ถึงหลัง ปัญหาเหล่านี้บั่นทอนสุขภาพจิตของพลเมือง และส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนประเทศ รวมทั้งขัดขวางการพัฒนาคุณภาพประชากรอีกด้วย

และในการแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตของคนไทยและลดความเหลื่อมล้ำให้สำเร็จได้ นอกจากจะหวังพึ่งภาครัฐให้มีการดำเนินการที่โปร่งใสแล้ว ก็ยังต้องพึ่งพาความซื่อสัตย์สุจริตของประชาชนชาวไทยอีกด้วย ว่าจะต้องไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เช่น แจ้งรายรับต่ำกว่าความเป็นจริง หรือสวมสิทธิ์ผู้อื่น ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงของการนำประเทศไปสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วนั้น จะต้องอาศัยประชาชนที่มีสำนึกต่อความเป็นพลเมือง รู้ว่าอะไรเป็นสิทธิ์ของตนพร้อมกับรู้ว่าอะไรเป็นหน้าที่ที่ตนต้องปฏิบัติเพื่อประเทศชาติด้วย เช่น การร่วมกันเสียภาษี เป็นต้น

 

กษิต ภิรมย์

kasitfb@gma

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:31 น. 'ตั้ม วราวุธ'ออกจากห้องไอซียูแล้ว ผู้จัดการโพสต์ภาพยกมือไหว้ขอบคุณกำลังใจ
12:30 น. โชคดีที่สุด! 'ปฐม อินทโรดม' ทึ่ง 'กรมสมเด็จพระเทพฯ'ทรงงานหนัก แม้บังเอิญเจอในสนามบินถึง 5 ครั้ง
12:19 น. แม่สายน้ำลด! ชาวบ้านเร่งฟื้นฟูบ้านเรือน ทหารช่างเร่งวางบิ๊กแบ็กสกัดน้ำซ้ำ
12:06 น. 'ธนกร' จี้ รัฐบาล-เกษตร-พณ. เร่งแก้ราคาปาล์มตกต่ำสุดรอบหลายปี
12:04 น. 'สุรเดช' นำทีม พปชร.ลงพื้นที่เชียงใหม่ รับฟังปัญหาราคาน้ำนมดิบตกต่ำ
ดูทั้งหมด
‘แพทย์ชนบท’เตือนผู้ชายสังเกตอาการ ย้ำ‘มะเร็งต่อมลูกหมาก’ตรวจพบเร็วรักษาหายได้
ผงาดแชมป์ยูโรป้า!ไก่ทำได้ทุบผี1-0ซิวถ้วยรอบ17ปี
ปรีวิว-ฟันธง!หงส์ยังปึ๊กบุกนกนางนวล
‘สมศักดิ์’ยกกฎหมายให้อำนาจ‘สภานายกพิเศษ’ยับยั้งมติ‘แพทยสภา’
'วันทยหัตถ์' ไม่ใช่การวันทยหัตถ์แบบทหารทั่วไป แต่เป็นการแสดง'เกียรติสูงสุด'
ดูทั้งหมด
หยุดทำร้ายยิ่งลักษณ์ แต่ทำร้ายประเทศไทย ดีไหม
จอมพยาบาท (2)
หุ้นเด่น : 24 พฤษภาคม 2568
แวดวงการเงิน : 24 พฤษภาคม 2568
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งฟิลิปปินส์ตบหน้าผู้นำไร้สัจจะ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ตั้ม วราวุธ'ออกจากห้องไอซียูแล้ว ผู้จัดการโพสต์ภาพยกมือไหว้ขอบคุณกำลังใจ

บุกทลายแหล่งมั่วสุม! รวบ'หนุ่มเมียนมาขาใหญ่'ค้าน้ำท่อมกลางเมืองสมุทรสาคร

สะพัดทั่วโลก! แพลตฟอร์มฮอต'OnlyFans'จ่อขายกิจการ มูลค่าดีลพุ่งสูงถึง2.6แสนล้าน

'นาโปลี'แชมป์กัลโช่!'คอนเต้'ทำสถิติกุนซือโหด-'แม็คทอม'คว้าแข้งแห่งปี

รัฐบาลโชว์ผลงาน 6 เดือน แก้หนี้นอกระบบ ช่วยลูกหนี้กว่า 7.7 หมื่นราย วงเงิน 2.4 พันล้านบาท

เปิดโปรแกรม'นายกฯอิ๊งค์' เตรียมร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 46

  • Breaking News
  • \'ตั้ม วราวุธ\'ออกจากห้องไอซียูแล้ว ผู้จัดการโพสต์ภาพยกมือไหว้ขอบคุณกำลังใจ 'ตั้ม วราวุธ'ออกจากห้องไอซียูแล้ว ผู้จัดการโพสต์ภาพยกมือไหว้ขอบคุณกำลังใจ
  • โชคดีที่สุด! \'ปฐม อินทโรดม\' ทึ่ง \'กรมสมเด็จพระเทพฯ\'ทรงงานหนัก แม้บังเอิญเจอในสนามบินถึง 5 ครั้ง โชคดีที่สุด! 'ปฐม อินทโรดม' ทึ่ง 'กรมสมเด็จพระเทพฯ'ทรงงานหนัก แม้บังเอิญเจอในสนามบินถึง 5 ครั้ง
  • แม่สายน้ำลด! ชาวบ้านเร่งฟื้นฟูบ้านเรือน ทหารช่างเร่งวางบิ๊กแบ็กสกัดน้ำซ้ำ แม่สายน้ำลด! ชาวบ้านเร่งฟื้นฟูบ้านเรือน ทหารช่างเร่งวางบิ๊กแบ็กสกัดน้ำซ้ำ
  • \'ธนกร\' จี้ รัฐบาล-เกษตร-พณ. เร่งแก้ราคาปาล์มตกต่ำสุดรอบหลายปี 'ธนกร' จี้ รัฐบาล-เกษตร-พณ. เร่งแก้ราคาปาล์มตกต่ำสุดรอบหลายปี
  • \'สุรเดช\' นำทีม พปชร.ลงพื้นที่เชียงใหม่ รับฟังปัญหาราคาน้ำนมดิบตกต่ำ 'สุรเดช' นำทีม พปชร.ลงพื้นที่เชียงใหม่ รับฟังปัญหาราคาน้ำนมดิบตกต่ำ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

สองผู้ยิ่งใหญ่อเมริกัน  กับสันติภาพโลก

สองผู้ยิ่งใหญ่อเมริกัน กับสันติภาพโลก

22 พ.ค. 2568

มีจีนสีเทา ก็เพราะมีไทยเป็นสีเทา

มีจีนสีเทา ก็เพราะมีไทยเป็นสีเทา

15 พ.ค. 2568

192 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐอเมริกา : จะไปไหนต่อ

192 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐอเมริกา : จะไปไหนต่อ

8 พ.ค. 2568

ความสัมพันธ์ไทย – กัมพูชา : คลุมเครือ

ความสัมพันธ์ไทย – กัมพูชา : คลุมเครือ

1 พ.ค. 2568

ถึงเวลาที่อาเซียนต้องทบทวนตนเอง

ถึงเวลาที่อาเซียนต้องทบทวนตนเอง

24 เม.ย. 2568

สึนามิเศรษฐกิจ-การเมือง โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา

สึนามิเศรษฐกิจ-การเมือง โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา

17 เม.ย. 2568

อยู่กันด้วยหลักทศพิธราชธรรม

อยู่กันด้วยหลักทศพิธราชธรรม

3 เม.ย. 2568

กองทัพบกไทยกับสันติภาพพม่า

กองทัพบกไทยกับสันติภาพพม่า

27 มี.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved