วันพฤหัสบดี ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2569
จากการสดับตรับฟังนักวิจัย นักวิเคราะห์ อาสาสมัคร ผู้สื่อข่าว นักเคลื่อนไหว ภาคประชาสังคม จากทั้งภายในและภายนอกประเทศ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน หรือมีข้อสรุปเหมือนกันว่า ณ วันนี้ฝ่ายกองทัพพม่าไม่ได้ประสบความสำเร็จในการปฏิวัติรัฐประหารยึดครองประเทศเฉกเช่นที่เคยทำได้มาในยุคก่อนๆ เนื่องจากต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างใหญ่หลวง กว้างขวาง จากพวกฝักใฝ่ประชาธิปไตย (Pro-Democracy) และชนกลุ่มน้อยทั้งหลาย
ซึ่งนอกจากกองทัพพม่าจะไม่ประสบความสำเร็จในการยึดครองประเทศพม่าแบบเบ็ดเสร็จแล้ว กลับยังตกอยู่ในฐานะเป็นฝ่ายตั้งรับ และถอยร่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย ดังจะเห็นได้ว่า ฝ่ายกองทัพพม่าสามารถควบคุมพื้นที่ได้แค่ประมาณ 1/3 ของพื้นที่ของประเทศพม่าทั้งหมด นั่นคือพื้นที่ตรงกลางประเทศรอบๆ แม่น้ำอิรวดี ส่วนพื้นที่ที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบังกลาเทศ อินเดีย จีน ลาว และไทยนั้น ตกอยู่ในการครอบครองของฝ่ายรัฐชนกลุ่มน้อย ที่มีฝ่ายฝักใฝ่ประชาธิปไตยชาติพันธุ์บะหม่า (Burman) ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ผสมผสานอยู่ด้วย
สงครามกลางเมืองจะอยู่ในสภาวะชะงักงัน (Impasse) คือไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือระหว่างฝ่ายกองทัพกับฝ่ายต่อต้านกองทัพจะชิงชัยชนะได้ สงครามก็คงจะยืดเยื้อและประเทศชาติก็จะล่มจมเสียหายต่อไป จัดได้ว่าพม่าเป็นประเทศที่ล้มเหลว และค่อยๆ สิ้นเนื้อประดาตัว หากไม่มีการยุติการสู้รบและการเจรจาเพื่อหาความปรองดองสมานฉันท์ สันติภาพและการบูรณะฟื้นฟูประเทศ
ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ประชาคมโลกก็ฝากความหวังไว้ให้กับประชาคมอาเซียน เพราะพม่าก็เป็นสมาชิกประชาคมอาเซียน ประชาคมโลกจึงปรารถนาและคาดหวังไว้ว่า ประชาคมอาเซียนจะแก้ไขปัญหาภายในของตนเองกันได้ ซึ่งประชาคมอาเซียนก็ได้เริ่มต้นแสดงฝีไม้ลายมือด้วยการมีฉันทามติ 5 ประการ เพื่อนำสันติภาพและประชาธิปไตยกลับคืนสู่พม่าได้ แต่ก็ไม่สำเร็จ และยังไม่มีทีท่าว่าจะสำเร็จได้เลย เพราะสมาชิกประชาคมอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ยังมีความเห็นต่างทั้งในวิธีการและแนวคิดในรายละเอียดว่าจะบรรลุเป้าหมายกันได้อย่างไร อีกทั้งประชาคมอาเซียนก็ยังไม่มีผู้นำอาเซียนหนึ่งใดที่จะเสนอตัวออกมารับผิดชอบและนำพาการแก้ไขปัญหาพม่าอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตามในแวดวงต่างๆ ก็มีความเห็นพ้องต้องกันว่า ประเทศไทยน่าจะอยู่ในวิสัยที่จะเสนอตัวออกมาเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
ที่ประเทศพม่า เพราะประเทศไทยและพม่ามีความคุ้นเคยและมีความคล้ายคลึงในเรื่องประเพณีวัฒนธรรมกันมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
อีกทั้งประเทศไทยยังมีกองทัพบกที่มีความใกล้ชิดกับกองทัพพม่ามากที่สุด ทั้งในระดับส่วนตัว กองทัพต่อกองทัพ และในระดับความคิดอ่านเกี่ยวกับบทบาทของกองทัพภายในระบบและโครงสร้างทางการเมืองของประเทศ ไปจนถึงการมีผลประโยชน์ร่วมต่างๆ ทั้งในที่แจ้งและในทางลับ
ดังนั้นกองทัพไทยจึงอยู่ในวิสัยที่จะพูดจาโน้มน้าวให้ฝ่ายกองทัพพม่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของประเทศต่อความสัมพันธ์ไทย-พม่า และต่อความเป็นปึกแผ่นเจริญก้าวหน้าของประชาคมอาเซียน และที่สำคัญความไม่สงบภายในพม่าได้ส่งผลให้ประเทศรอบข้างเดือดร้อนกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งกองทัพบกไทยย่อมตระหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ฉะนั้น กองทัพไทยก็ต้องมุ่งที่จะขจัดผลร้ายจากชายแดนฝั่งพม่าเข้ามาสู่แดนไทย โดยเริ่มต้นที่การเจรจากับฝ่ายกองทัพพม่าให้เห็นดีเห็นงามต่อส่วนรวม และการยุติการยืนแบบกระต่ายขาเดียวที่ไร้ประโยชน์ทั้งสิ้น
ในขณะเดียวกัน กองทัพบกไทยก็รู้จ้กมักจี่กับกลุ่มผู้นำและกองกำลังติดอาวุธต่างๆ ของพม่าตลอดแนวชายแดนไทย-พม่า และฉะนั้นก็มิใช่เป็นเรื่องเกินวิสัย สติปัญญา และขีดความสามารถใดๆ ที่กองทัพบกไทยจะเจรจา หารือ และบีบคั้นให้บรรดาชนกลุ่มน้อยทั้งหลาย ให้ความร่วมมือขจัดในเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ ข้ามเขตแดนทั้งหมดได้อย่างไม่เป็นที่ต้องสงสัย ทั้งนี้กองทัพบกไทยก็ต้องดำเนินการกับบรรดาข้าราชการทหารที่ประพฤติมิชอบให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเข้มข้นในเรื่องการเอาทหารอาชีพที่รักชาติบ้านเมืองไปปฏิบัติการที่ชายแดน
ทั้งนี้หากกองทัพบกของไทยโดยความรับรู้และได้รับการสนับสนุนของรัฐบาลไทย เริ่มขยับตัวกับปัญหาพม่าอย่างจริงจัง เราก็จะได้เห็นการร่วมมือสนับสนุนจากมิตรประเทศตามมาด้วยจำนวนหนึ่งที่ต่างก็อยู่ในวิสัยที่จะร่วมกันกดดันกองทัพพม่าอีกด้วย
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com

'ดร.ส้ม' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62
มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน
สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา
แฉทุนจีนแย่งอาชีพคนไทย รุกธุรกิจเผาถ่านกะลามะพร้าว ทำผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี