l ด้วยความเชื่อที่เป็นสัจธรรม ผ่านภูมิรู้ ด้วยเหตุปัจจัยของชีวิต ที่ผ่านมา ๗๑ ปี
คนเรามามีชีวิตบนโลกใบนี้ “เกิดหนเดียว และตายครั้งเดียว” มีชีวิตเดียว ไม่มีชาติก่อน และชาติหน้าฉะนั้น คนเรา ณ ที่นี้ “ตัวเอง” ที่เป็นเจ้าของชีวิต
จะต้องกำหนดทางเดินของชีวิตด้วยตนเอง ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ ได้เดินทางบนหนทางอย่างถูกต้อง แม้จะมีบางเวลา หลงทิศผิดทางไปบ้าง เพราะ “ความไม่รู้ ขาดประสบการณ์ มี โลภ โกรธ หลง, การประสบกับสิ่งไม่รัก การพลัดจากสิ่งที่รัก”
เหลือเวลา ที่ยังมีลมหายใจ จากวัย ๗๑ ไปถึงเวลา วัน เดือน ปี ใด, ก็คงไม่เท่ากับครึ่งหนึ่งของที่ผ่านมา
ฉะนั้น ควรจะเป็นภารกิจสำคัญอย่างหนึ่ง ที่จะ “กำหนดทางเดินชีวิต” และฝากไว้กับคนรุ่นหลังต่อไป
l แบบอย่าง โมเดลของบุคคลที่เป็นแบบอย่างที่ทำให้เราเดินได้ถูกทาง มาตลอดเป็นส่วนใหญ่
๑.ป๋าและแม่ > ที่เป็น “พ่อแม่ ครู พระ” ของลูก
๒.ครู (บางคน) และปรัชญาของโรงเรียน
๓.ผู้ใหญ่ที่ไม่กะล่อน
๔.ในหลวง พ่อของแผ่นดิน รัชกาลที่ ๙
๕.พระพุทธเจ้า
๖.ประชาชนคนเล็กคนน้อย ที่มี “ใจ” ที่ยิ่งใหญ่
l เรื่องที่เป็นหัวใจ ที่เราได้ทำมา และพัฒนาให้ดี และสมบูรณ์ขึ้นมาเรื่อยๆ
๑.สุขภาพกายและใจ : ที่เราต้องสร้างขึ้นเอง,สุข จากการอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะฯ
๒.ความสุข จากการทำงาน การให้ และการเสียสละ,การมีสติ สงบ สว่าง ปัญญา ความจริง
๓.การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ประหยัดมัธยัสถ์ ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่คดโกง ฉ้อฉล, พึ่งตนเอง ไม่เป็นภาระของใคร
๔.การทำงานคือ การปฏิบัติธรรม มานะอดทน แน่วแน่ เอาจริง ไม่ยอมแพ้ และหมั่นสรุปบทเรียนประจำฯ
๕.การออม เพื่อชีวิตที่ดี : ให้มีทรัพย์ ที่พอใช้ สำหรับ ลูกหลาน ตนเอง และเผื่อแผ่ ผู้ที่ขาดฯ
๖.การทำดี ไม่ทำชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว (การคิดดีทำดี เพื่อตนเองและผู้อื่น ด้วย สติปัญญา ความจริง)
๗.การเดินสายกลาง “ดีดพิณ สายที่ ๓ ที่พอดี” โดยไม่ตึงไป ไม่หย่อนไป, จึงมีเสียงกังวานไพเราะ
๘.การมีเพื่อนที่ดี ที่ให้ความรัก กำลังใจ ความหวังดีช่วยส่งเสริมสนับสนุนฯ ในการทำงานตลอดมา
๙.การเลี้ยงลูก (สืบวงศ์ตระกูล) ให้มีคุณภาพรักกัน เป็นคนดี และมีน้ำใจต่อผู้อื่น
๑๐.ความรักผู้คน ช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ และการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
๑๑.การพัฒนาตนเองตลอดชีวิต (เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ที่ต้องฝึกและพัฒนาได้)
๑๒.การพัฒนาคุณภาพผู้อื่น โดยการ “สอนให้ตกปลา” ให้ความรู้ ชี้ทางสว่างให้ โดยเขาต้องฝึกและพึ่งตนเอง
l ได้แนวคิด และการปฏิบัติตนเช่นนี้ จากใคร?อะไร? และอย่างไร?
๑.ป๋าและแม่ เป็นปฏิมากร (ช่างปั้น ผู้ให้กำเนิด)
เป็นการสร้างพื้นฐาน (โครงสร้าง) ของชีวิต ที่ดี แข็งแรงมั่นคง (ที่นำไปต่อยอดได้ต่อไปในชีวิต) การเลี้ยงดูให้ร่างกายและสุขภาพแข็งแรง การสอน การหล่อหลอมในสิ่งที่ดีแก่ลูก, การเป็นแบบอย่างที่ดี มีความสำคัญที่ซึมซับเข้าสู่ใจแต่ป๋าและแม่ก็มิใช่ปฏิมากรที่เลอเลิศสมบูรณ์ โดยมีทั้งเรื่องดี และมีข้อจำกัด ข้ออ่อนฯ(เราจึงต้องปรับแก้ ข้ออ่อน เสริมข้อดี ให้ครบถ้วน ในช่วงการใช้ชีวิต เดินทางไกลของชีวิต) แม้เลี้ยงลูกจนจบปริญญา ทำงานแล้ว ป๋าแม่ ยังให้ความรัก ห่วง และเป็นกำลังใจให้ลูกๆ ตลอดมา
l ครูบาอาจารย์ และโรงเรียน (มหาวิทยาลัย)
ครู : เป็นผู้ให้ความรู้ ระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ
โรงเรียน : ให้ ปรัชญา แนวคิด หลักการ การปฏิบัติ,ให้เพื่อน, ให้โอกาสพัฒนาความเป็นผู้นำ เช่น
รร.อัสสัมชัญลำปาง : คำขวัญ “วิริยะ อุตสาหะ” นำมาซึ่งความสำเร็จ
รร.เตรียมอุดม พญาไท : การใฝ่เรียนรู้ การมีคุณธรรม ความขยันหมั่นเพียรฯ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : SOTUS > Seniority Order Tradition Unity Spirit
การให้เพื่อน ที่มีความสนิทสนม รักใครกันฯและการให้โอกาสพัฒนาความเป็นผู้นำฯ
๓.ผู้ใหญ่ที่ไม่กะล่อน : ให้ความคิด ประสบการณ์ การเป็นแบบอย่างที่ดี
ทั้งนี้ หมายความถึง “เพื่อนพ้องน้องพี่” ที่มีภูมิรู้ มีความสามารถในการร่วมทางเดิน ในแต่ละช่วงของชีวิต
โดยเราต้องแสวงหา สรรหา “ผู้ใหญ่ที่ใช่” แล้วหาโอกาส ในการเข้าพบ รับฟัง สนทนา, แล้วนำมาสรุป
๔.ในหลวง พ่อของแผ่นดิน รัชกาลที่ ๙ : ที่เป็นผู้ให้ “ความคิด ความรู้ และแบบอย่างในการปฏิบัติฯ” เป็นโชคดีของชีวิตที่ได้มีโอกาส “รับรู้ เข้าเฝ้าฯ ได้เห็นแจ้งประจักษ์” ผ่าน ตัวพระองค์ พระบรมราโชวาท คำสอน โครงการพระราชดำริฯ โดยเฉพาะช่วงเป็นผู้นำนิสิตจุฬาฯ เป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติชุดแรกที่ “ท่านอานันท์ ปันยารชุน” เป็นประธานฯการแสดงออกในการแก้ไขความขัดแย้งใหญ่ของสังคม โดยเอาความรักประโยชน์ของชาติ เป็นที่ตั้งในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ๒๕๑๖, ๑๗ พฤษภา ๒๕๓๕ และความรักห่วงประชาชนในบั้นปลายชีวิตฯ
๕.พระพุทธเจ้า ผ่าน “คำสอน และพระผู้ใหญ่ที่ใช่”ท่านพุทธทาส ท่านประยุทธ์ ปยุตโต พ่อครู โพธิรักษ์ ฯลฯ เป็นการได้“รับรู้ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา (ชีวิตตน)” ผ่านการปฏิบัติ การใช้ชีวิต เคยไปคาราวะ “ท่านพุทธทาส” ที่สวนโมกข์ที่เดินทางไปกับ ดร.ระวี ภาวิไล ปี ๒๕๑๑ เคยบวช เป็นพระนวกะ ที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ กับท่านปัญญา ปี ๒๕๑๗ ได้รับฟังได้เห็น ด้วยตนเอง : ท่านประยุทธ์ ในช่วงลูกชายบวชปี ๒๕๕๔ และพ่อครูโพธิรักษ์ เป็นประจำ
ที่สำคัญที่สุด คือ การศึกษา ทบทวน รำลึก ถึงการใช้ชีวิตที่ผ่านมา กับ “ธรรม” ของพระพุทธเจ้าฯ แล้วนำมาปรับใช้กับชีวิตของตน ได้อย่างลงตัว (แบบค่อยเป็นค่อยไป จนมาถึงวันนี้)
๖.คนเล็กคนน้อย ที่มี “ใจ” ที่ยิ่งใหญ่
ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า “มีจำนวนน้อย”แต่มากและเต็มไปด้วยคุณภาพ การให้การเสียสละแม้ชีวิตบนเส้นทางเดินของชีวิต โดยเฉพาะในยามลำบากฯ ได้พบ“คุณภาพของคนเล็กคนน้อยที่มีใจยิ่งใหญ่ “จึงทำให้เป็นพันธะสัญญา ของชีวิต ที่จะปลุก และใส่ “พลังคุณภาพ” ให้ผู้คนทั้งหลาย (ดุจการ “ธุดงค์” เผยแพร่ “คำสอนฯ” ไปถึงผู้คนทั่วไปของพระพุทธองค์) เพราะ “ประชาชน ที่มีคุณภาพ” เป็นพื้นฐานสำคัญ ต่อการนำมาซึ่ง “ประชาธิปไตยที่เป็นธรรมแท้จริง”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี