สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ยังเป็นที่วิตกกังวลไปทั่วโลก ส่งผลให้กิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการประชุมระดับนานาชาติ ระดับภูมิภาค ต้องงดไปโดยปริยายหรือหันไปใช้วิธีการอย่างอื่น
อย่างเช่น มูลนิธิเลโก้หรือ LEGO Foundation หนึ่งในองค์กรด้านการเรียนรู้ที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ มีนัดประชุมประจำปี ระหว่างวันที่ 10-11มี.ค. ที่ประเทศเดนมาร์ก ได้เปลี่ยนมาจัดการประชุมทางไกล Virtual-conference ผ่านทาง legoideaconference.net มีผู้แทนหน่วยงานด้านการศึกษาระดับนานาชาติกว่าหลายสิบประเทศเข้าร่วมประชุมแต่อยู่กันคนละมุมโลก
สำหรับประเทศไทย ผู้ร่วมประชุมคือ ดร.ไกรยส ภัทราวาท รอง ผอ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้เปิดเผยว่า ถือเป็นงานประชุมที่มีส่วนสำคัญในการกำหนดวาระการปฏิรูปและการพัฒนานวัตกรรมด้านการเรียนรู้ในระบบการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
โดยมุ่งสังเคราะห์ประสบการณ์การปฏิรูประบบการศึกษาที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติให้สามารถส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สามารถดาวน์โหลดรายงานฉบับสมบูรณ์ ได้ที่ www.eef.or.th
ซึ่ง กสศ. ได้ร่วมเวทีสังเคราะห์ประสบการณ์ปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ร่วมกับผู้กำหนดนโยบายอีก 4 ประเทศประกอบด้วย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สกอตแลนด์ และเวลส์ เข้าร่วม โดย กสศ. ได้นำเสนอประสบการณ์การทำงานร่วมกับองค์การ OECD และอีก 14 ประเทศในการวิจัยพัฒนาเครื่องมือส่งเสริมและประเมินทักษะความคิดสร้างสรรค์และการคิดวิเคราะห์ ซึ่งได้ทดลองประสบความสำเร็จแล้วในโรงเรียน 400 แห่งทั่วประเทศที่ดำเนินการมาแล้ว 3 ปี นับเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมประชุมอย่างมากในการใช้เครื่องมือนี้หนุนเสริมกระบวนการปฏิรูปความเสมอภาคทางการศึกษาเชิงระบบทั้งในด้านการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและเพิ่มคุณภาพการศึกษาควบคู่กันไป เนื่องจากกลุ่มโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาสที่มีเด็กกลุ่มเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา
รองผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า จากการสำรวจผู้จ้างงานตลอด 5-10 ปีที่ผ่านมา ทักษะความคิดสร้างสรรค์เป็น 1 ใน 3 ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21ซึ่งเป็นที่ต้องการสูงสุดในตลาดแรงงานทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย
หากเด็กเยาวชนได้รับการส่งเสริมพัฒนาทักษะดังกล่าวตั้งแต่ในวัยเรียน ย่อมจะเป็นประโยชน์ทั้งในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพในอนาคต ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม หากเด็กเยาวชนในครอบครัวที่มีรายได้น้อยได้รับการพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับค่าตอบแทนสูงขึ้น ช่วยให้พวกเขาสามารถนำพาครอบครัวก้าวออกจากความยากจนได้ในอนาคต
ทักษะความคิดสร้างสรรค์ยังเป็นประโยชน์ต่อการก้าวออกจากประเทศรายได้ปานกลางสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายใน 20 ปี ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความท้าทายของสังคมสูงวัยในปัจจุบัน ซึ่งประชากรที่ออกจากกำลังแรงงานมีจำนวนมากกว่าประชากรวัยแรงงานรุ่นใหม่ที่เข้าสู่กำลังแรงงาน ดังนั้นหากสัดส่วนกำลังแรงงานรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง มีผลิตภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้นด้วยทักษะความคิดสร้างสรรค์ ที่จะเป็นประโยชน์ในเมื่อถูกใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในยุค 5G ย่อมจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยที่มั่นคงและยั่งยืนได้ในอนาคต สู่การก้าวออกจากกับดักรายได้ปานกลางเป็นประเทศรายได้สูงตามเป้าหมาย 20 ปีของประเทศ
“รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาฯเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ โดยในปีการศึกษา 2563 สพฐ. มีแผนที่จะร่วมสนับสนุนการขยายผลการใช้เครื่องมือนี้สู่ 42 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาทั่วประเทศ ผ่านกลไกของศึกษานิเทศก์และสถานศึกษาแกนนำเขตละ 2 สถานศึกษา รวมทั้งในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา เพื่อเป็นกลไกในการขยายผลการดำเนินงานในระดับประเทศต่อไป โดย กสศ. ทำหน้าที่ในฐานะตัวกลางประสานงานกับทุกฝ่าย ในการนำมาตรการที่ร่วมกับ OECD มาปฏิบัติ เพื่อร่วมปฏิรูปการศึกษาไทยให้ได้มาตรฐานมากกว่าเดิม ทั้งระดับประถมและมัธยมศึกษาในอนาคต” ดร.ไกรยส กล่าว
ขณะที่ นายจอห์น กู๊ดวิน ผู้บริหารของมูลนิธิเลโก้ CEO the LEGO Foundation กล่าวว่าจากการประชุมในครั้งนี้สามารถสรุป 10 บทเรียนความสำเร็จในการปฏิรูปเพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ ประกอบด้วย 1.การเรียนรู้ผ่านการเล่น 2.การสนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพ 3.การเป็นหุ้นส่วนพันธมิตรระหว่างกลุ่มต่างๆ ที่ไม่เพียงแค่หน่วยงานรัฐ 4.การแบ่งปันความเข้าใจ ภาษา และนิยามของความคิดสร้างสรรค์จะช่วยให้เกิดการนำมาประยุกต์ใช้ในวงกว้าง 5.องค์กรระหว่างประเทศสามารถเข้ามาสนับสนุนการปฏิรูปได้ 6.คุณครูและผู้นำท้องถิ่นมีบทบาทหลักในการปฏิรูป 7.หลักสูตรที่ชัดเจนจะเป็นแนวทางให้กับนักเรียนและคุณครู 8.ภาครัฐให้ความสำคัญกับเรื่องความคิดสร้างสรรค์ 9.การพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบถือเป็นหลักการสำคัญ และ 10.การประเมินวัดผล
ทั้งหมดถือเป็นกลไกสำคัญในการปฏิรูปการศึกษาทั่วโลก ที่เห็นว่ารัฐบาลควรให้ความสนใจเป็นพิเศษครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี