วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เส้นใต้บรรทัด
เส้นใต้บรรทัด

เส้นใต้บรรทัด

จิตกร บุษบา
วันพุธ ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.
‘ศึกนอก’ ก็ใหญ่ ‘ศึกใน’ ก็ยุ่ง

ดูทั้งหมด

  •  

ต้องยอมรับว่า การบริหารนโยบายและผู้คนในท่ามกลางโรคระบาดโควิด-19 นั้น กระทำได้อย่างยากลำบากยิ่ง ไม่มีรัฐบาลไหนในโลก ไม่ถูกต่อว่า บ่น หรือด่า จากประชาชนของตัวเองเลย นั่นจึงอย่าหวังว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทำงานได้ง่ายกว่ารัฐบาลในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

แต่เห็นความพยายามไหม เห็นครับ โดยเฉพาะเรื่อง “ผลกระทบทางเศรษฐกิจ” ได้ยินมาว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้พบกับบุคคลต่างๆ เพื่อรับฟังแนวทางการจัดการปัญหาเศรษฐกิจอย่างเอาจริงเอาจัง


การรับมือด้าน “สาธารณสุข” ของรัฐบาลไทย ถือว่า สอบผ่าน และได้คะแนนดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีคำชื่นชม มีการกล่าวถึงเป็นอันมาก นั่นเพราะมาตรการทั้งหลายทั้งปวงที่ออกมาเพื่อ “หน่วงเวลา” การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จากคนสู่คน ไม่ให้เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน จน “เกินความสามารถทางสาธารณสุข” ที่จะรองรับผู้ป่วยได้การให้ข้อมูลถึงความน่ากลัวของการ “ติดง่าย-กระจายเร็ว”และมีความเสี่ยงที่กราฟผู้ติดเชื้อรายใหม่ๆ จะตั้งชันขึ้น จนถึง “จุดวิกฤติ” มีผลทางจิตวิทยาต่อประชาชนคนไทยมากจนเกิดการให้ความร่วมมืออย่างมีวินัย “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”

แต่ก็นั่นแหละ คนหยุดงาน หรือทำงานจากบ้านได้ มีอยู่จำนวนหนึ่ง และทำได้ในระยะเวลาหนึ่ง เลยจากจุดที่ “เงินในกระเป๋า” พวกเขารองรับได้ จะตายเพราะโควิด-19 หรือตายเพราะไม่มีกิน ก็ต้องเลือกเอา!!

ดูเหมือนรัฐบาลเริ่มเข้าใจจุดนี้ จึงได้มีมาตรการผ่อนปรน “ผ่อนลมหายใจทางเศรษฐกิจ” ให้ขยับมาทำมาค้าขาย เปิดร้านอาหาร เปิดร้านตัดผม อนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ ซึ่งคงต้องประเมินผลกันเป็นระยะๆ หากมีแนวโน้มความเสี่ยงที่จะระบาดเพิ่ม อาจต้องทบทวนกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้เข้มงวดเหมือนเดิม

ในสายตา “นายจาตุรนต์ ฉายแสง” เขามองการรับมือสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ว่า...

“...เรื่องโควิด-19 รัฐบาลถูกโจมตีหนักในช่วงแรกๆ ประเมินต่ำ ไม่ได้ตระเตรียมอะไรเท่าที่ควร แต่พอมี ศบค.และส่งเสริมบทบาทบุคลากรทางสาธารณสุขเป็นหลัก การทำงานก็เป็นที่เชื่อถือมากขึ้น พอมีการดำเนินมาตรการต่างๆ จริงจัง กระทั่งคุมสถานการณ์แพร่ระบาดได้ รัฐบาลก็ได้คะแนนพอสมควร

...การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและการประกาศเคอร์ฟิว ถูกใจคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบความเด็ดขาด แม้ความจริงแล้วไม่ต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ใช้มาตรการต่างๆ ได้ การประกาศเคอร์ฟิวไม่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันการแพร่ระบาด หลายประเทศที่แก้ปัญหาได้ดี เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ความโปร่งใส ฟังเสียงเรียกร้องของประชาชน แต่รัฐบาลที่ค่อนไปทางอำนาจนิยมจะฉวยโอกาสกระชับอำนาจ อาศัยกระแสที่ประชาชนต้องการความเด็ดขาด ทำให้รัฐบาลอำนาจนิยมเข้มแข็งขึ้น ประเทศไทยเป็นแบบหลังนี้

...การเยียวยาก็มีปัญหามาก รัฐบาลสอบตกอย่างสิ้นเชิง สั่งปิดสถานที่ต่างๆ มากมาย โดยไม่ประสานเตรียมการของหน่วนงานต่างๆ พอปิดกรุงเทพฯ และปริมณฑลโดยไม่มีอะไรรองรับ คนก็แห่กลับต่างจังหวัด การเยียวยามาตามหลังแบบฉุกละหุก ประเมินสถานการณ์ต่ำอีก เตรียมเงินเยียวยาแค่ 3 ล้านคน ยอดเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านคน ยังไม่นับอีก 5-6 ล้านคนที่ไม่ได้ และยังไม่รู้จะช่วยเหลือเขาอย่างไร

...ปัญหาใหญ่คือล่าช้า ปล่อยให้คนเป็นสิบๆ ล้านคนอยู่กันโดยไม่มีรายได้ เกิดภาพที่สะเทือนใจทั่วไปหมด ทั้งการเข้าคิวรอรับอาหารเป็นกิโลๆ การฆ่าตัวตาย ทั้งที่คนเป็นสิบๆ ล้านคนนี้เป็นคนทำมาหากิน แต่ต้องหยุดงานเพราะมาตรการของรัฐ ถูกปฏิบัติเหมือนต้องรอส่วนบุญจากรัฐบาล ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมส่วนใหญ่ เกษตรกรซึ่งเดือดร้อนมาก่อนแล้ว ก็ยังไม่ได้รับการเยียวยา

...มาถึงขั้นตอนการเปิดให้เศรษฐกิจเดินได้ ก็มีปัญหาอีก ไม่ได้เตรียมการล่วงหน้าให้ดี ธุรกิจต่างๆ รวมทั้งคนทำมาค้าขายเตรียมตัวไม่ถูก ถึงเวลาก็เปิดไม่ได้ เสียโอกาสกันไปอีก รัฐบาลไม่ได้สำรวจว่าเขามีปัญหาอุปสรรคกันอย่างไร แรงงานยังหากันได้หรือเปล่า อุปกรณ์เครื่องมือที่จะทำตามมาตรการมีหรือเปล่า ปัญหาเหล่านี้ใหญ่มาก แต่ปัญหาข้างหน้าจะใหญ่กว่านี้อีกมาก

...รัฐบาลทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมากเกินโดยไม่จำเป็น ทำให้เงินเยียวยาเป็นยอดสูงมาก ต่อไปงบประมาณก็จะไม่พอ ถ้าบริหารจัดการไม่ดี จะทำให้คนเดือดร้อนอีกมาก ปัญหาเศรษฐกิจข้างหน้าจะใหญ่มาก เพราะไทยพึ่งการส่งออกและการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ จะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกอย่างหนัก

...ถ้ารัฐบาลบริหารอย่างที่ผ่านมาจะรับไม่ไหวแน่ ผมกลัวว่าแค่การประเมินสถานการณ์คงจะผิดพลาดอีก ประเมินต่ำอีกเช่นเคย การขาดวิสัยทัศน์และสภาพความขัดแย้งไม่เป็นเอกภาพของรัฐบาลอย่างที่เป็นอยู่ ไม่มีทางรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจข้างหน้าได้เลย

...รัฐบาลจะอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหน มีปัจจัยหลายอย่าง ความสำเร็จในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจเป็นภูมิคุ้มกันของรัฐบาลได้อยู่บ้าง แต่เป็นระยะสั้น คนเดือดร้อนกันมากแล้วจากการเยียวยาล่าช้า ต่อไปเดือดร้อนมากยิ่งขึ้นจากสภาพเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศ ถ้าคนเห็นว่าเป็นเพราะความล้มเหลวของรัฐบาล เรื่องนี้จะกลบด้านที่เป็นผลงาน เรื่องเก่าๆ ก่อนโควิด-19 จะถูกรื้อฟื้นขึ้นมาที่ติดค้างไว้ก็จะถูกทวงถาม

...การปรับครม. ถึงตอนนี้คงเลยเวลาไปแล้ว ดูเหมือนนายกฯ กับพรรคร่วมรัฐบาลเข้ากันไม่ค่อยได้ ความขัดแย้งในพรรคแกนนำก็ดูจะหนัก การปรับครม.เพื่อทำให้รัฐบาลดูดีขึ้น ลดการเป็นเป้าลงคงทำไม่ได้ ถ้าจะปรับครม.ก็อาจจะมาจากสาเหตุอื่น คือการแย่งอำนาจกันในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) น่าจะทำให้รัฐบาลยิ่งอ่อนลงไปอีก

...ถ้าจะถึงขั้นที่รัฐบาลอยู่ไม่ได้ ต้องเกิดจากปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ที่สำคัญสุดน่าจะอยู่ที่ความรู้สึกของประชาชน ที่รู้สึกว่ารัฐบาลล้มเหลวทำให้ประชาชนเดือดร้อน ถ้ารัฐบาลจะล้ม เพราะมีแรงกดดันจากหลายทาง จนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รู้สึกว่าไม่ไหว พปชร.แตกหนัก หรือพรรคร่วมรัฐบาล รู้สึกว่าอยู่ด้วยไม่ไหวแล้วนั่นแหละ

...สภาพภายใน พปชร. ต้องยอมรับว่ามีความขัดแย้งกันจริง น่าจะถึงขั้นเลือดเข้าตากันแล้วถึงได้ระเบิดออกมาในช่วงนี้ พปชร. เกิดจากการรวมตัวกันโดยมีอำนาจและผลประโยชน์เป็นพื้นฐาน ไม่ได้มีอุดมการณ์นโยบายร่วมกัน รู้กันอยู่แล้วว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มากด้วยบารมี และยังคุมแหล่งทุนไว้ในมือด้วย เมื่อจับมือกับนักการเมืองได้ ก็ต้องการคุมอำนาจ จัดสรรอำนาจใหม่

...แต่อีกฝ่ายฉลาดพอจะทำให้เรื่องสู่สังคมวงกว้าง คนก็รู้สึกว่านี่ไม่ใช่เวลา ทำไมมาแย่งอำนาจกันตอนนี้ ตัวบุคคลก็ยังไม่ได้เตรียมให้ดี แม้แกนนำพรรคปัจจุบันจะล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เยียวยาล่าช้าเสียหาย แต่อีกฝ่ายก็หาตัวที่เป็นที่ยอมรับไม่ได้ ทุกอย่างต้องพักไว้ก่อน แต่เรื่องนี้คงยังไม่จบง่าย เดี๋ยวคงเป็นปัญหาอีก ไม่ว่าผลจะเป็นแบบไหน พปชร.จะอ่อนแอลง ไม่เปลี่ยนแปลงก็อยู่แบบไม่เป็นเอกภาพ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่การปรับครม.ในตำแหน่งสำคัญ

...รัฐบาลมีแต่จะเตี้ยลงไปอีก แต่ยังไม่ถึงขั้นทำให้รัฐบาลล้มเลยทีเดียวเพราะการแก่งแย่งอำนาจ ถึงจุดหนึ่งเขาอาจคิดได้ว่าถ้าไม่บันยะบันยังไว้บ้าง เดี๋ยวพังไปด้วยกันหมด รัฐบาลผสมแบบนี้ นอกจากพรรคแกนนำแล้ว ต้องดูพรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหนที่จะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล

...ก่อนหน้านี้ ใครๆ คงมองว่ายาก เพราะพรรคร่วมยังสนุกอยู่กับการเป็นรัฐบาล ภท.เอ็นจอยกระทรวงสำคัญอยู่ ไม่มีเหตุผลถอนตัว ส่วน ปชป.ก็บอบช้ำจากการเลือกตั้งและความแตกแยกภายใน อาจจะอยากชิงฐานตัวเองคืนจาก พปชร. แต่ยังต้องสะสมกำลัง สะสมทุนอีกนานพอสมควร เหตุผลข้ออ้างที่จะถอนตัวก็ไม่มี

...พอมาช่วงโควิด-19 ภท.และปชป.ยิ่งอยู่ในสภาพลำบาก เพลี่ยงพล้ำเรื่องที่ไปเกี่ยวกับผลประโยชน์ ต้องเคลียร์ภาพของตัวเองจนไม่เป็นอันทำอะไร ยิ่งนายกฯใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีศบค. เท่ากับผลักรองนายกฯ และรัฐมนตรีหลักๆ ออกไปจากสารบบ หัวหน้าพรรคทั้งภท.กับปชป. โดนกันออกไปเต็มๆ ต้องไปทำงานปลีกย่อย เสียรังวัดไปมาก สองพรรคนี้คงยังไม่กล้าหือกับพล.อ.ประยุทธ์ แต่ที่แน่ๆ ความสัมพันธ์ไม่หวานชื่นเหมือนเดิมอีกแล้ว ต่างฝ่ายต่างรอจังหวะที่อีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ถึงตอนนั้นก็ค่อยซ้ำที่จะเป็นปัญหาคือการทำงานจะไม่มีทางเป็นเอกภาพ เป็นจุดอ่อนของรัฐบาลไปตลอด

...ส่วนการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านอาจเป็นช่วงปิดสภาด้วย การใช้เวทีสภาจึงขาดหายไปอย่างน่าเสียดาย พอมีการแพร่ระบาดมากขึ้น การประชุมคณะกรรมาธิการต่างๆ ทำได้ยาก พรรคฝ่ายค้านอาจจะจับประเด็นวิกฤติโควิด-19 ช้าหน่อย ช่วงหลังมีแกนนำเสนอความเห็นดีๆ อยู่ต่อเนื่อง แต่อาจจะขาดการเสนอความเห็นในนโยบายใหญ่ๆ ร่วมกัน สส.อยู่ในสภาพช่วยอะไรชาวบ้านได้ก็พยายามกันเต็มที่ แต่ไม่สามารถใช้เวทีสภา ซึ่งจะช่วยประชาชนได้มากกว่า แต่มีการพยายามจะให้เปิดสภาสมัยวิสามัญ แต่ยังไม่สำเร็จ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลไม่เอาด้วย รัฐบาลก็ไม่ยอมเป็นฝ่ายเสนอขอให้ใช้สภา เป็นเวทีรับฟังความเห็นของสมาชิก

...การทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีปัญหากันอยู่บ้าง แต่น่าจะปรับความเข้าใจกันได้แล้ว ช่วง โควิด-19 เมื่อไม่มีสภา ฝ่ายค้านก็ขาดโอกาสร่วมกันทำงานพิสูจน์ให้เห็นความเป็นเอกภาพ ความจริงถ้าจะร่วมกันทำข้อเสนอ หรือรวบรวมปัญหาประชาชนมาสะท้อนต่อสังคม หรือผ่านไปยังรัฐบาล ก็น่าจะดี อาจจะนั่งแถลงร่วมกัน

...เมื่อเปิดสภาแล้ว บทบาทฝ่ายค้านจะเข้มข้นขึ้นแน่ แต่จะได้แค่ไหน ต้องพิสูจน์กัน พรรคเพื่อไทยยังมีเรื่องตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะต้องพิสูจน์ตัวเอง ส่วนพรรคก้าวไกลก็ต้องพิสูจน์ความสามารถของแกนนำชุดใหม่ ยังมีเรื่องการจัดความสัมพันธ์กับคณะก้าวหน้าอีก แต่เมื่อเปิดสภาจะเป็นโอกาสของฝ่ายค้านที่จะทำหน้าที่ให้เข้าตาประชาชน”(ที่มา : ข่าวสดออนไลน์)

ผมว่า การให้มุมมองครั้งนี้ของนายจาตุรนต์เข้าที ไม่โอเว่อร์ เขาเป็นคนมีประสบการณ์ในทางการเมือง หากพ้นอคติส่วนตน ก็มีสายตาที่แจ่มใสในการมองสถานการณ์ได้น่าสนใจ อยากให้ยืนท่าทีเช่นนี้ต่อไป

มุมมองของจาตุรนต์ สรุปกับเราได้สั้นๆ ง่ายๆว่า สถานการณ์โควิด-19 กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์นั้นศึกนอกก็ใหญ่ ((โรคระบาด+เศรษฐกิจ) ศึกในก็ยุ่ง (การเมืองในพปชร. + สมดุลอำนาจในหมู่พรรคร่วม)

พล.อ.ประยุทธ์มีคณะแพทย์รับมือด้านสาธารณสุขให้ มี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เป็นโทรโข่งให้ แต่ในทางเศรษฐกิจยังไม่เข้าที่ เพิ่งจะมีการตั้งคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและสังคมขึ้นมา โฆษกโดยตรงก็ยังไม่มี ส่วนในทางการเมือง มันน่าปวดหัวปานใด ในกระแสข่าวทำนองว่า “ลุงป้อม” ก็เข้ากลุ่มกับสายที่จะเขี่ย 4 กุมารของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ออกจากขุมอำนาจในพลังประชารัฐด้วย

ไม่ไหวบอกไหว หาคนเคลียร์ใจและเคลียร์อุปสรรคให้สำเร็จโดยด่วน!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
08:33 น. รวบแล้ว!! 2 ใน 7 คนร้ายปล้น 3.4 ล้านบาท ห้างดังย่านลาดพร้าว
08:27 น. 'ปากีสถาน'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย
08:01 น. ล้างไพ่-ล้างกระดาน! ‘เทพไท’ฟันฉับ‘ยุบสภา’คือทางออก-นับหนึ่งใหม่
07:56 น. หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า
07:35 น. ลูกเขยคลั่ง! มีดฟันพ่อตา-แม่ยาย-เมียสาหัส สุดท้ายผูกคอดับหนีผิด
ดูทั้งหมด
วอน'ญี่ปุ่น'ช่วยหย่าศึก! 'ฮุน เซน'ขอร้องให้ช่วยพูดกับไทย จี้ให้ศาลโลกช่วยตัดสินปมพื้นที่พิพาท
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
'ลุงเตีย'ลำบากใจ!ร่วม'ฮุนเซน'ตรวจชายแดนท่ามกลางสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาตึงเครียด
'ปานเทพ' พอใจภาพรวมชุมนุม 28 มิ.ย. เผยยอดเงินหนุน 'มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน' 24 ล้านแล้ว
ดูทั้งหมด
แวดวงการเงิน : 1 กรกฎาคม 2568
หุ้นเด่น : 1 กรกฎาคม 2568
วิกฤตกัญชาในพายุการเมือง
ขำกันหลังวันม็อบ
กูไม่ออก?
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ปากีสถาน'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย

หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า

ลูกเขยคลั่ง! มีดฟันพ่อตา-แม่ยาย-เมียสาหัส สุดท้ายผูกคอดับหนีผิด

‘ชูวิทย์’เลคเชอร์‘เรื่องตลก’พรรคร่วมฯ เหน็บจุกๆทุกครั้ง‘เพื่อไทย’เป็นรัฐบาล ต้องไล่ถึงจะลง

'หมอสุรพล'ชี้ทางออก!!! 'ถ้าไม่เปลี่ยนวัฒนธรรมพลเมืองวันนี้ ประเทศไทยจะไม่มีวันเปลี่ยน'

ไม่พบข้อมูลเดินทาง! คาด'อดีตเจ้าคุณอาชว์'ยังอยู่ในไทย มีคนให้ที่พักพิง

  • Breaking News
  • รวบแล้ว!! 2 ใน 7 คนร้ายปล้น 3.4 ล้านบาท ห้างดังย่านลาดพร้าว รวบแล้ว!! 2 ใน 7 คนร้ายปล้น 3.4 ล้านบาท ห้างดังย่านลาดพร้าว
  • \'ปากีสถาน\'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย 'ปากีสถาน'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย
  • ล้างไพ่-ล้างกระดาน! ‘เทพไท’ฟันฉับ‘ยุบสภา’คือทางออก-นับหนึ่งใหม่ ล้างไพ่-ล้างกระดาน! ‘เทพไท’ฟันฉับ‘ยุบสภา’คือทางออก-นับหนึ่งใหม่
  • หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า
  • ลูกเขยคลั่ง! มีดฟันพ่อตา-แม่ยาย-เมียสาหัส สุดท้ายผูกคอดับหนีผิด ลูกเขยคลั่ง! มีดฟันพ่อตา-แม่ยาย-เมียสาหัส สุดท้ายผูกคอดับหนีผิด
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ปฏิบัติการ ‘แก้ผ้าตัวเอง’ ของ ‘ฮุนเซน’

ปฏิบัติการ ‘แก้ผ้าตัวเอง’ ของ ‘ฮุนเซน’

29 มิ.ย. 2568

รอพิกุลทองร่วงจากปาก ‘พีระพันธุ์

รอพิกุลทองร่วงจากปาก ‘พีระพันธุ์

25 มิ.ย. 2568

‘พ่อ’ นายกฯ

‘พ่อ’ นายกฯ

22 มิ.ย. 2568

‘หนี้’ ที่ไทยต้องทวง ‘กัมพูชา’

‘หนี้’ ที่ไทยต้องทวง ‘กัมพูชา’

18 มิ.ย. 2568

ประตู ‘คุก’ ยังเปิดรอ...นะพ่อนะ

ประตู ‘คุก’ ยังเปิดรอ...นะพ่อนะ

15 มิ.ย. 2568

ไม่ขึ้นศาลโลก ไม่เสียดินแดน

ไม่ขึ้นศาลโลก ไม่เสียดินแดน

11 มิ.ย. 2568

รัฐบาลไทย ‘หัวใจเขมร’

รัฐบาลไทย ‘หัวใจเขมร’

8 มิ.ย. 2568

รัฐบาลยังเดินหน้า ‘กาสิโน’

รัฐบาลยังเดินหน้า ‘กาสิโน’

4 มิ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved