ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น จากการบริหารบ้านเมืองของคนมีอำนาจขณะนี้ ก็ต้องระวังการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ของผู้คนในบ้านเมือง ซึ่งในขณะนี้กำลังเหลืออดเหลือทนกับสภาพความเป็นอยู่ของชีวิต ภายใต้การบริหารจัดการที่ไม่ค่อยจะได้เรื่อง
ความอดกลั้นอดทนของผู้คนในบ้านเมืองกำลังจะหมด
ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง ยิ่งเกิดปัญหาเพิ่ม เงื่อนปมมีมากขึ้น
เรื่องใหญ่ๆที่มีผลกระทบต่อประชาชนยังคงมีอยู่ต่อไป โดยเฉพาะประชาชนในระดับล่างที่กำลังอดอยาก ไม่มีอะไรจะกินจะใช้ ท่ามกลางความสุขสบายของบางกลุ่ม
ปัจจัยที่จะทำให้เกิดการรวมตัวของผู้คนที่ทนไม่ไหวกับเรื่องดังกล่าวนี้ ก็คือ ความผิดหวัง ความรังเกียจ ความหวาดระแวง ที่สะสมตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พูดมาให้ฟังอย่างนี้ก็เหมือนให้รู้จัก “มรณสติ”
พูดเตือนมาแล้วหลายครั้งหลายหนในเรื่องการใช้อำนาจ ที่ไม่ค่อยจะฟังเสียงคนอื่นที่ตะโกนร้องตะโกนบอก แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในทิศทางที่ควรเป็น
“มรณสติ” คือ “สติที่ระลึกถึงความตาย”
สติเป็นธรรมชาติที่ระลึกได้ เป็นเครื่องยับยั้งชั่งใจไม่ให้ทำอะไรบุ่มบ่าม ขาดความระมัดระวัง ทำให้มีความรอบคอบ ป้องกันจิตใจในเรื่องที่ไม่ทำอะไรตามใจชอบเพราะกิเลส จนลืมเรื่องความควรไม่ควรในการกระทำ
เพราะเหตุที่มีสติระลึกได้นี้เอง ทำให้ผู้นั้นไม่มีความมัวเมาในอำนาจ หรือเพลิดเพลินกับอารมณ์ตามคำประจบสอพลอ จนลืมสถานะของตนในการทำงานตามหน้าที่ หรือกำหนดไม่ได้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ หรือพูดจาอะไรออกมาตามอารมณ์ที่พาไปแสดงท่าแสดงทางไม่น่าดู ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ที่มีอยู่
หรือลืมไปว่า อำนาจรัฐในมือที่มีอยู่ในขณะนี้ เป็นอำนาจรัฐที่ได้มาจากการยึดอำนาจ เป็นอำนาจที่ไม่ได้มาตามครรลองการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย ถ้าเป็นคนมีสติแล้วก็จะเป็นคนที่ระลึกได้ตลอดเวลาในเรื่องเหล่านี้
โดยเฉพาะในเรื่องที่ว่า การที่ตนต้องยึดอำนาจมาในครั้งนี้ ก็เพื่อกำจัดกวาดล้างคนลืมตัว คนมัวเมาในการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้อง ทุจริตคดโกงบ้านเมืองให้พ้นไปและหมดไป เพื่อจะได้สร้างบ้านสร้างเมืองกันใหม่ให้ดีขึ้น
และต้องระลึกอยู่ตลอดเวลาอย่างผู้มีสติว่าระยะเวลาการทำงานของตนจะหมดลงเมื่อไร เพื่อวางแผนและจัดการในการบริหารให้เหมาะสม ไม่ใช่คอยหาวิธีการอย่างโน้นอย่างนี้มาเป็นเงื่อนไขเพื่อยึดเวลาออกไปเรื่อยๆ
การทำอย่างนี้แหละจะเป็นที่มาแห่งการต่อต้านของผู้คนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าวโดยเฉพาะผู้คนที่ต้องตกอยู่ในการดำรงชีวิตที่ไม่มีอะไรดีขึ้นอย่างที่คาดหวัง
ความเป็นผู้มีสติอยู่ตลอดเวลาจึงมีความสำคัญมาก เพราะคนขาดสติเป็นคนไม่รู้จักผิด ไม่รู้จักถูก ไม่รู้จักดี ไม่รู้จักชั่ว ทำอะไรตามใจชอบเพราะจิตใจไม่เคยได้รับการดูแล และรักษาด้วยความมีสติ คนอย่างนี้เมื่อถูกอารมณ์ที่ชอบใจ ก็จะดีใจ และเมื่อถูกอารมณ์ที่ไม่ชอบใจแล้ว จิตใจก็จะขุ่นมัว ไม่สบายใจ เหมือนน้ำในแก้วถ้าใส่สีเขียวลงไป น้ำในแก้วนั้นก็จะเป็นสีเขียว หรือถ้าใส่สีแดงลงไป น้ำในแก้วนั้นก็จะเป็นสีแดง นั่นเอง
คนผู้ไม่มีสติจะเป็นคนที่ไม่รู้จักผู้น้อยผู้ใหญ่ เป็นคนที่ถูกครอบงำด้วยกิเลส คือ โลภะ โทสะ และ โมหะ เข้าครอบงำได้ง่าย จะเป็นคนที่ขาดความเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา กวัดแกว่งไปตามใจชอบ ถ้าเป็นคนลักษณะอย่างนี้ และต้องเข้ามามีหน้าที่ในการบริหารปกครองเมืองแล้ว ย่อมไม่สามารถนำความเจริญมาสู่ตนและบ้านเมือง
โดยรวมของประเทศได้
ไปไหนมาไหนก็จะมีแต่คนด่า คนแช่ง
เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่เป็นผู้นำ ผู้บริหารผู้ปกครองบ้านเมือง ต้องมีสติกำกับจิตใจของตนอยู่เสมอ ว่าตนมีหน้าที่ซื้อความทุกข์ของประชาชน หรือในหน่วยงานที่ตนรับผิดชอบ ต้องปลงใจตนเองให้ได้อย่างคนมีสติว่า จะซื้อความทุกข์ของผู้คนในสังคมมาเป็นของตน และขายความสุขของตนให้แก่ผู้คนในสังคมนั้นๆ ถ้าไม่มีสติกำกับจิตใจไว้อย่างนี้แล้วความเจริญของบ้านเมืองและความอยู่เย็นเป็นสุขของผู้คนในบ้านเมืองก็ยากที่จะเกิด
มีแต่จะแย่และทรุดลงไปเรื่อยๆ
ที่ผ่านมาบ้านเมืองยังดูเหมือนเดิม ไม่มีอะไรที่ดีขึ้นในเรื่องต่างๆ ทั้งในการดำรงชีวิตประจำวันของผู้คน หรือปัญหาใหญ่ๆอันเป็นรากเหง้าสำคัญของปัญหาใหญ่ๆที่เคยทำลายบ้านเมืองมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ขุดรากถอนโคนออกไปให้หมดสิ้น จริงๆจังๆ นั้น ความเจริญและความอยู่ดีกินดีของผู้คนทั้งหลายก็ยากจะเกิด
เป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดการต่อต้านตามมาจากผู้คนในบ้านเมือง ยากจะหลีกเลี่ยง ความวุ่นวายจะตามมา อย่างที่เคยเกิดขึ้นให้เห็นมาแล้วหลายครั้ง
ความเป็นมาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกนั้น จะเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ในบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่งให้ได้เห็น
“ใครก็ตาม ยามนี้ มีอำนาจ
ต้องรีบกวาด ตาดู ให้รู้เรื่อง
รู้จักแยก รู้จักแยะ เรื่องบ้านเมือง
ว่าต้นเรื่อง ต้นเหตุ อยู่ที่ใด”
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี