• นอกจาก “ตัวเราเอง” แล้วยังมีผู้คนอีก อย่างน้อย4 ประเภท ที่จะได้รับ “บทพระเอก” ซึ่งตอนจบของภาพยนตร์ จะ “Sad หรือ Happy Ending” หรืออาจจะเป็น ว่า “ไม่มีใครเป็นพระเอก” เพราะ?
ประเทศไทย ที่มีประชากร ร่วม 70 ล้านคน จะมีคนอยู่ 4 ประเภท
1.ผู้นำ ที่เป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนี้
2.ผู้นำ ที่เคยเป็นรัฐบาล : ปัจจุบัน เป็นฝ่ายค้าน
3.ผู้นำ ที่เรียก “ตัวเอง” ว่า “ภาคประชาชน”
4.ประชาชน คนส่วนใหญ่ ที่เป็นคนดู
• เอาแว่นขยาย และ กล้องจุลทรรศน์ซูม ขยาย ให้เห็นภาพชัดๆหน่อย
1.ผู้นำ ที่เป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนี้
1.อดีต : เคยเป็นนายทหารระดับ ผบ.ทบ : ที่สังกัด หรืออยู่ใต้บังคับบัญชาของอดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เป็นฝ่ายค้าน และเป็นฝ่ายรัฐบาลในปัจจุบัน
2.การก้าวขึ้นมาเป็นรัฐบาล
เริ่มจากการทำรัฐประหารฯ ภายใต้ความขัดแย้งรุนแรงของ 2 ฝ่าย มีการร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับลงประชามติ 2560 เมื่อมีการเลือกตั้ง ปี 2562 ก็ได้เป็นรัฐบาล
3.จุดแข็งหรือจุดที่สำคัญ
เป็นรัฐบาลที่มีความมั่นคงพอควร จากรัฐธรรมนูญ ฉบับลงประชามติ มี สว. เป็นฝ่ายสนับสนุนตัวผู้นำหลัก ภาพลักษณ์โปร่งใส มีความมุ่งมั่น มีการพัฒนาปรับปรุงตัวเองมีกองทัพ(ตัวหลัก) ข้าราชการ ตำรวจฯ เป็นกองหนุนได้รับการสนับสนุนจากประชาชน มากพอสมควรมีภาวะ “โควิด-19” ที่เป็นปัจจัยของการใช้อำนาจฯ : ที่ประชาชนยอมปฏิบัติตาม
4.จุดอ่อน
เป็นรัฐบาลผสม ที่มีพรรคการเมืองและนักการเมือง มาจากระบบเก่าฯ มีปัญหาอุปสรรคใหญ่ ที่สะสมมาจากระบบโครงสร้างของสังคมที่เหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรมการสร้างปัญหาทางการเงิน จากการใช้งบประมาณที่ผิดพลาดของรัฐบาลก่อน (ฝ่ายค้านปัจจุบัน)
มุมมองและทัศนะจาก “ประชาชนที่ขาดคุณภาพ” ต่อรัฐบาล
ทำให้การสนับสนุนร่วมมือ ในการเปลี่ยนแปลงสังคมการเมืองฯ จากรัฐบาล มีน้อย อย่างดี ก็คือการวางเฉย ปล่อยให้รัฐบาลทำไป ตนเองก็เลือกเอาเฉพาะที่ตนได้ประโยชน์ และหากเสียประโยชน์เฉพาะหน้าหรือชั่วคราว ก็จะต่อต้าน คัดค้านฯ
จุดอ่อนที่เป็นปัจจัยสำคัญ
“กรอบความคิด ยังคงเป็นแบบทหาร” แม้จะได้มีการพัฒนาไปบ้างแล้ว ก็ตามความคิดเชิงประชาธิปไตย ที่ประนีประนอมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายค้านฯ ขาดความคิด และวิสัยทัศน์ แบบรัฐบุรุษ ที่กล้าเสียสละปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังฯ
2.ผู้นำที่เป็นฝ่ายค้าน ในปัจจุบัน
1.อดีต : เคยเป็นรัฐบาล จากการมีผู้นำที่โดดเด่น กล้าตัดสินใจ ทำได้ถูกเรื่อง ทั้งถูกและผิดฯ จึงได้ใจประชาชน มีฐานมวลชนที่หนาแน่น โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคอีสาน
2.การต้องมาเป็นฝ่ายค้าน
การดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด จาก “การแตกแบงก์พัน เป็นแบงก์ย่อย” และการผิดพลาดซ้ำสองจากการตั้ง “พรรคไทยรักษาชาติ” และการดึง “บุคคลสำคัญบางคน” มาร่วม เพื่อหวังการเปลี่ยนแปลงใหญ่ฯ ที่ขัดรัฐธรรมนูญเพื่อแก้เกม ที่เสียเปรียบจาก “การออกแบบรัฐธรรมนูญปี 2560”
อนึ่ง มีผลทำให้ “คะแนนจัดตั้งในชนบทส่วนหนึ่ง” เทไปให้ “พรรคอนาคตใหม่” ที่มีการสร้างกระแสใหญ่ ในหมู่เยาวชน และกลุ่มคนบางส่วนที่ไม่เอาทหารและสถาบันฯ
๓.จุดแข็ง
การมีพรรคเพื่อไทย (ในต่างจังหวัด) พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล (ในเมือง) เป็นฐานสำคัญ มีปัจจัยใหญ่ คือ ทุนก้อนมหาศาล และทุนสื่อรวมทั้งมวลชน (ที่เป็นระบบกระบวนการ) มีข้าราชการ และกระบวนการยุติธรรม (บางส่วน) สนับสนุน (จากการเคลื่อนไหวของผู้นำเก่า) การสนับสนุนจาก “ผู้นำบางส่วน” ที่ไม่เอา “กองทัพและสถาบันฯ” และประชาชน ทั้งในชนบท (คนจน) และในเมือง (เยาวชน เป็นหลัก) โครงสร้างและระบบ ที่เหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรม (ที่รัฐบาล ยังไม่สามารถแก้ไขได้ดีฯ)
๔.จุดอ่อน
ความไม่เป็นเอกภาพของพรรคเพื่อไทย ที่มีการแตกและขัดแย้งในกลุ่มผู้นำการถูกยุบพรรคอนาคตใหม่
(ที่เกิดจากความผิดพลาด ในการดำเนินนโยบายซ้ายจัดและขาดประสบการณ์) ความไม่มีนโยบายที่จะให้ความสำคัญต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง เป็นการ “เล่นการเมือง” เพื่อบรรลุผลประโยชน์ และความคิดของตนเองการไม่เป็นเอกภาพของฝ่ายค้านที่มีผู้นำ “มีสไตล์เฉพาะของตนเอง” เป็นการรวมตัวเฉพาะกิจ และมีเป้าหมายล้มรัฐบาลเป็นหลักการถูกแทรกแซงจากพรรคฝ่ายรัฐบาลการไม่ต้องการให้เกิดการยุบสภาฯ เพราะ “มีความไม่แน่นอน ที่จะสามารถกลับมาได้อีก”
จุดอ่อนที่สำคัญ
การไม่มีอำนาจที่แท้จริง ของผู้นำในพรรค เพราะ “อำนาจการตัดสินใจ” อยู่ที่บุคคลภายนอกที่เอาความคิด และความต้องการของตนเป็นหลัก (ทั้งทักและทอน) การมีความคิด จาบจ้วง ต่อสถาบันหลักของชาติฯ ที่ประชาชนส่วนใหญ่รับไม่ได้ และมีความเสี่ยงสูงต่อการทำผิดตามรัฐธรรมนูญ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี