ก็มีข่าวดีออกมาเรื่อยๆ ว่าสมุนไพร ตั้งแต่ ฟ้าทะลายโจร ยัน ใบกระท่อมของไทย มีส่วนในการยับยั้งโรคไวรัสโควิด-19 แต่ในหลักการแพทย์สากลยังไม่ได้การันตีที่ชัดเจน
ทั้งนี้สมุนไพรของไทยมีมาแต่โบราณ ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ และเป็นที่ต้องการทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
ในเรื่องดังกล่าว นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากที่ในปัจจุบันความต้องการวัตถุดิบสมุนไพรไทยที่ได้มาตรฐานมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งรัฐบาลได้มีนโยบายพัฒนาสมุนไพรไทยอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ส่งเสริมการพัฒนาต่อยอดยารักษาโรค เน้นการใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบัน ตลอดจนส่งเสริมให้เกษตรกรมีการเพาะปลูกสมุนไพรในแต่ละชุมชน เพื่อช่วยกระจายโอกาส สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับชุมชนกรมส่งเสริมการเกษตรจึงกำหนดให้สมุนไพรเป็นหนึ่งในพืชที่ส่งเสริมภายใต้ โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ โดยสามารถสนับสนุนการรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อผลิตสมุนไพรในรูปแบบแปลงใหญ่ได้แล้วถึง26 แปลง ใน 18 จังหวัด จำนวนเกษตรกร1,076 ราย พื้นที่รวม 11,023.75 ไร่ซึ่งแปลงใหญ่สมุนไพร อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ถือเป็นหนึ่งในต้นแบบความสำเร็จดังกล่าว
“กลุ่มแปลงใหญ่สมุนไพร อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ได้รับการพัฒนาจากกรมส่งเสริมการเกษตรตามแนวทางของโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ทั้งในด้านขององค์ความรู้ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการลดต้นทุนการผลิต การบริหารจัดการกลุ่ม และการตลาด จนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสมุนไพร สร้างมูลค่าเพิ่มในการผลิตสินค้าจากการลดต้นทุน และจากที่เน้นการผลิตแบบปลอดภัยโดยลดการใช้สารเคมี ทำให้ผลผลิตที่ได้เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย ไพล ว่านชักมดลูก ว่านล่อนทอง ว่านเอ็นเหลือง ม้าฮ่อ ซึ่งสมุนไพรทั้งสดและแห้งที่ได้ สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้หลากหลายชนิด” นายเข้มแข็งกล่าว
ด้าน นางสาวโสภี บัวผัน ประธานเกษตรแปลงใหญ่สมุนไพรอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ด้วยการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการเกษตร ทำให้เกษตรกรในพื้นที่ได้หันมาพัฒนาองค์ความรู้ด้านสมุนไพร ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่สั่งสมและสืบต่อกันมานานกว่า 300 ปี ให้กลายเป็นสินค้าทางการเกษตรที่สร้างรายได้เป็นอย่างดี โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้สนับสนุนมาตั้งแต่ต้นด้วยการส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มของเกษตรกรและรับจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกสมุนไพรด่านทับตะโก อำเภอจอมบึง
“ต่อมาได้ขยายเครือข่ายการปลูกสมุนไพรไปยังตำบลข้างเคียง ได้แก่หมู่ 3, 13 ตำบลด่านทับตะโก หมู่ 6, 13ตำบลแก้มอ้น หมู่ 3 ตำบลทุ่งแหลมหมู่ 4 ตำบลรางบัว และหมู่ที่ 13ตำบลด่านทับตะโก อำเภอจอมบึง ในรูปแบบเกษตรแปลงใหญ่ตามที่ได้รับการส่งเสริมจากกรมส่งเสริมการเกษตร ที่เข้ามาช่วยพัฒนาในทุกด้าน ทั้งให้องค์ความรู้ ปัจจัยการผลิตต่างๆ เช่น การนำเครื่องจักรกลทางการเกษตรมาใช้ในการเตรียมพื้นที่ปลูก และโรงตากพลังงานแสงอาทิตย์ในการแปรรูปเป็นวัตถุดิบแห้ง เป็นต้น” นางโสภีกล่าว
“ปัจจุบันทางกลุ่มเรามีสมาชิกทั้งหมด 31 ราย โดยเน้นให้เกษตรกรสมาชิกปลูกสมุนไพรด้วยการคำนึงถึงความปลอดภัย ปราศจากการปนเปื้อนจากสารโลหะหนัก เก็บเกี่ยวผลผลิตที่มีอายุเหมาะสม ได้คุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด และมีการเก็บรักษาผลผลิตไม่ให้เกิดการปนเปื้อน จึงมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคจนได้รับการรับรองมาตรฐานการปลูก GAP”
นางสาวโสภีกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากในด้านการผลิตแล้ว กรมส่งเสริมการเกษตรยังเข้ามาช่วยสนับสนุนต่อยอดไปสู่การจำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com โดยสินค้าสมุนไพรที่จำหน่ายประกอบด้วยว่านชักมดลูกตากแห้ง ไพลตากแห้งและขมิ้นชัน โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งมีสินค้าจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี
“การจำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com นับเป็นอีกการยกระดับด้านการตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้า ที่ช่วยทำให้เกิดการสร้างการรับรู้ และกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคได้มากขึ้น และพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยการทำงานของกรมส่งเสริมการเกษตรภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ นับเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรได้เป็นอย่างดีจริงๆ”นางสาวโสภี กล่าวในที่สุด
ก็มาบอกกล่าวกัน และให้กำลังใจพี่น้องชาวจอมบึง จังหวัดราชบุรี และวงการสมุนไพรไทยให้มีความก้าวหน้าไปมากกว่าเดิม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี