เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีการเปิดเผยข้อมูลสถิติคดีทุจริตทั่วประเทศที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในปี 2562 ทั้งสิ้น
1,683 คดี ซึ่งพิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว 1,158 คดี เหลือคงค้างอยู่อีก 525 คดี เมื่อนำมาดูรายละเอียดแล้ว จากจำนวนคดีทั้งหมดนี้ พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกฟ้องถึง 3,073 คน เรียง 5 ลำดับสูงสุด ได้แก่
1. องค์กรบริหารส่วนตำบล 640 คน
2. กระทรวงมหาดไทย 443 คน
3. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 360 คน
4. เทศบาล 329 คน และ
5. กระทรวงศึกษาธิการ 205 คน
จากคดีทุจริตเหล่านี้ เรียงข้อหา 5 ลำดับแรกได้แก่
1. ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยทุจริตหรือโดยมิชอบ (ม.157) 929 ข้อหา
2. เจ้าพนักงานรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ (ม.162) 171 ข้อหา
3. เจ้าพนักงานใช้ตำแหน่งโดยทุจริต (ม.151) 165 ข้อหา
4. เจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ (ม.147) 133 ข้อหา และ
5. ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ (ม.11) 87 ข้อหา และอื่นๆ อีก 621 ข้อหา
เมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียดลงไปอีก ก็จะพบได้ว่าคดีทุจริตเหล่านี้ จำนวนมากมีความเกี่ยวข้องกับการประมูลสัญญาการก่อสร้างต่างๆ ตามที่ปรากฏข่าวการทุจริตตามสื่อ และรายงานของทางราชการอยู่เสมอ ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมักถูกมองจากสังคมว่าเป็นองค์กรที่มีการเอื้อต่อการทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุด ทั้งๆ ที่เป็นองค์กรที่ใกล้ชิดชาวบ้านมากที่สุด มีความสามารถพัฒนาชุมชนและช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
จึงน่าผิดหวังอย่างมากต่อหลักการการกระจายอำนาจลงสู่การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีความมุ่งหวังว่าเมื่ออำนาจอยู่ในมือใกล้ตัวประชาชน ประชาชนก็จะสามารถดูแลงบประมาณของส่วนรวมได้ดีกว่าระบบเดิม ซึ่งรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ส่วนกลาง ทำให้การจัดสรรงบและการกระจายงบประมาณต่างๆนอกจากจะไม่ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของประชาชนที่อยู่ห่างไกลศูนย์อำนาจแล้ว ยังถูกผู้มีอำนาจส่วนกลางใช้อำนาจทุจริตงบประมาณเข้าตนเอง จากทั้งข้าราชการส่วนกลาง และ ผู้แทนราษฎรที่ประชาชนลงคะแนนเลือกเข้าไปให้ดูแลงบประมาณส่วนรวมของแผ่นดิน เป็นหูเป็นตาแทนพี่น้องประชาชนที่อยู่ห่างไกล
แต่ผลกลับปรากฏว่าการทุจริตคอร์รัปชันในระบบการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นกลับยิ่งปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับวัตถุประสงค์ที่มุ่งหวังไว้เป็นหลักการสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย นั่นคือ การกระจายให้อำนาจอยู่ในมือประชาชนให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม หากลองมองในแง่ที่ดี อาจเพราะว่าที่เราได้เห็นได้รับทราบการทุจริตคอร์รัปชันต่างๆ มากขนาดนี้จากที่ห่างไกลได้โดยตลอดเป็นประจำแทบทุกวันนี้ ก็เพราะ มีประชาชนจำนวนมาก ที่ได้ช่วยกันดูแลการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานรัฐในพื้นที่ และคอยช่วยรายงานออกมาเป็นข้อมูลและภาพถ่ายผลงานการก่อสร้างที่ไม่ได้คุณภาพ เช่น ภาพถนนในหมู่บ้านที่เสียหายใช้การไม่ได้ ภาพหอส่งน้ำประปาที่ถูกทิ้งไว้ไม่เคยส่งน้ำประปาให้กับหมู่บ้านได้ภาพสระเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้เงินเป็นสิบล้านบาทแต่เก็บน้ำไม่ได้จริง หรือภาพอาคารแสดงสินค้าของหมู่บ้านหรือสินค้าโอท็อป ที่สร้างไว้กว้างขวางใหญ่โตแต่กลับถูกทิ้งรกร้างว่างเปล่า
สิ่งเหล่านี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง การทุจริตการก่อสร้างในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ต้องเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นด้วย การเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้ที่จะได้รับหรือเสียประโยชน์ได้มีโอกาสรับทราบของวัตถุประสงค์ของโครงการใดๆ ที่จะเกิดขึ้น และเปิดให้มีการเสนอความคิดเห็นต่างๆ ได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่ทำเป็นพิธีการ ชวนชาวบ้านมารวมตัวกันเพื่อถ่ายรูป เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ประโยชน์กับคืนมาต่อชุมชนอย่างแท้จริง อีกทั้งในขั้นประมูลจัดหาผู้รับเหมามาดำเนินการก่อสร้างก็จะต้องทำอย่างยุติธรรมภายใต้กฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างที่ได้ออกมาใหม่ตั้งแต่ปี 2560 ที่ใช้ควบคุมถึงหน่วยงาน อบต. อบจ. และเทศบาลต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว
ที่สำคัญ ต้องเปิดให้ประชาชนทั่วไป สามารถเข้ามาตรวจสอบข้อมูลการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ได้ด้วย โดยสามารถอาศัยเครื่องมือใหม่ๆ ที่องค์กรภาคประชาสังคม อย่าง องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้พัฒนาขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นฐานข้อมูลออนไลน์ ACTai.co ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน หรือ เฟซบุ๊คเพจต้องแฉ
เมื่อประชาชนคนไทยสามารถส่งรายงานภาพ และข่าวสารจากทุกหมู่บ้านทั่วประเทศได้แทนนักข่าวของสำนักข่าวใหญ่ต่างๆ ที่ทรงอำนาจเดิม ที่มีอยู่ในจำนวนไม่มาก และอาจถูกแทรกแซงโดยอำนาจอื่นได้ จะเทียบไม่ได้เลย กับการรายงานข่าวทางสื่อออนไลน์ ที่ส่งถึงและรับจากผู้ที่มีโทรศัพท์มือถือไม่น้อยกว่า 40 ล้านเครื่องที่รับข่าวสารได้ทุกๆ วินาที
โลกและประเทศไทยเปลี่ยนแปลงแล้ว หน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงให้ใสสะอาดและตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงแล้วด้วย
รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค และ ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี