เต็มไปด้วยสาระและข้อเท็จจริงคือ หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com ทุกบรรทัดตรงไปตรงมา...
nn วันอาทิตย์นี้ เป็นวันสุดท้ายของวันหยุดพิเศษ ที่ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติวันหยุดเพิ่ม ตั้งแต่วันที่ 19-22 พฤศจิกายน ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวภายในประเทศ ขอให้ทุกคนเดินทางกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ...
nn โดยขณะนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประชาชนต่างให้ความสนใจและมีการลงทะเบียนรับสิทธิ์ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วก็คือ “โครงการคนละครึ่ง” ซึ่งเป็นมาตรการที่มีการตอบรับเป็นอย่างมาก และก็มีข้อสงสัยบางประเด็นที่จะต้องมีการชี้แจง !!!...
nn ทาง พรชัย ฐีระเวช รองโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุถึงที่มาของเงินเพื่อใช้จ่ายในโครงการดังกล่าวว่า ทางรัฐบาลได้ใช้ส่วนที่เป็นการระดมจากเงินกู้ตาม พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 เฉพาะคนละครึ่งที่เตรียมไว้ 3 หมื่นล้านบาท โดยเป็นเงินกู้จากในประเทศ...
nn และยังย้ำถึงวัตถุประสงค์ของมาตรการนี้ว่า ต้องการดึงเงินประชาชนที่มีการใช้จ่ายออกมา และลดภาระค่าใช้จ่ายเพราะว่าคุณซื้อได้ครึ่งราคา เงินที่เหลือสามารถเอาไปใช้จ่ายในอื่นๆ หรือการออมได้...
nn และเม็ดเงินทั้งหมด ก็จะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ผ่านการขายสินค้า ผ่านการจ้างงาน วงเงินรัฐบาล 3 หมื่นล้าน ประชาชน 3 หมื่นล้าน รวมเป็น 6 หมื่นล้าน เงินส่วนนี้ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนไปตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสโควิด-19...
nn ส่วนประชาชนที่ยังไม่ได้รับสิทธิ์ หรือยังหวังในเฟส 2นั้น ทาง อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้เตรียมเปิดโครงการคนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นกำลังการใช้จ่าย ในระยะที่ 2 (เฟส 2) ในต้นปี 2564 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ให้กับประชาชน หลังจากมาตรการในระยะแรกได้รับการตอบรับจากประชาชนมีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิครบ 10 ล้านคน...
nn และทาง รมว.คลัง ยังระบุอีกว่า โครงการ ในเฟส 2 จะใช้เงินในส่วน พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฟื้นฟูผลกระทบโควิด-19 จำนวน 400,000 ล้านบาท ขณะนี้เหลืองบประมาณที่นำมาใช้จ่ายได้ 200,000 ล้านบาท แต่จะต้องทำรายละเอียดเสนอ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ พิจารณารายละเอียดก่อนทั้งนี้...
nn จากการสำรวจพบว่า ประชาชนใช้จ่ายในโครงการถึง 59% และรัฐบาลสนับสนุน 49% ส่วนมากมีการซื้ออาหารที่ร้านค้า หาบเร่แผงลอยต่างๆ จำนวนมากขณะที่ร้านค้าที่ลงทะเบียนก็มีจำนวนมาก...
nn ด้าน กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ก็ระบุว่า คนที่ลงทะเบียนในเฟสแรก ต้องใช้จ่ายเงินที่ได้รับจำนวน 3,000 บาท ภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ส่วนระยะสอง กระทรวงการคลังจะมีปุ่มหรือข้อความให้คนลงทะเบียนเฟสแรกยืนยันว่า จะเข้าร่วมมาตรการต่อหรือไม่ถ้าเข้าร่วมมาตรการต่อในปีหน้า ก็ได้รับสิทธิ์ในส่วนของเฟส 2 ด้วย...
nn“มือปราบ” เห็นประชาชนที่ได้มีโอกาสเที่ยวในวันหยุด ต่างพากันใช้มือถือไปสแกนกับมือถือของเจ้าของร้านกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ถือเป็นนโยบายที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนว่า ไวรัสโควิด-19 จะลดระดับการระบาดลงเมื่อใด...
nn อย่างไรก็ตาม มีอีกมาตรการหนึ่งที่ออกไปก่อนหน้านี้ แต่ยังมีปัญหาทั้งเรื่องการลงทะเบียนใช้สิทธิ์ และหลักเกณฑ์ที่ค่อนข้างยุ่งยาก จนทำให้ไม่เป็นไปตามเป้าก็คือโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งเป็นนโยบายที่ภาครัฐจะช่วยจ่ายเงินให้ประชาชนได้เที่ยว โดยสนับสนุนค่าโรงแรม 40% สนับสนุนส่วนลดค่าอาหาร และค่าตั๋วเครื่องบิน 40%...
nn โดย ยุทธศักดิ์สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวยอมรับว่ายังห่างเป้า เนื่องจาก โครงการนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ 71,533 ราย แบ่งเป็นโรงแรมทั่วประเทศ 7,130 แห่ง ถึงวันนี้มีผู้ใช้สิทธิ์จองที่พัก 851,321 ห้อง จากตัวเลขโครงการทั้งหมด 5 ล้านห้อง คิดได้เพียง 17% เท่านั้น...
nn ดังนั้น สิ่งที่ต้องปรับปรุง คือ การเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ชัดเจนขึ้น รวมทั้งการหาวิธีการที่เหมาะสม เพราะที่ผ่านมา เราก็ได้รับคำแนะนำเรื่องกลุ่มผู้สูงอายุไม่ถนัดใช้แอพฯ เราก็อยากให้กลุ่มนี้ได้เที่ยวด้วย โดยเฉพาะวันธรรมดาเราจะเพิ่มการเข้าถึงให้ง่ายขึ้น...
nn ด้าน อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ได้วิเคราะห์ถึงปัญหามาตรการดังกล่าว โดยแบ่ง ออกเป็น 3 ปัจจัย ประกอบด้วย 1.ปัญหาโควิด-19 ระบาดหนักทำให้คนทั่วไปมีกำลังทรัพย์ กำลังซื้อน้อยลง ทำให้คนท่องเที่ยวน้อยลง 2.กระบวนการในเชิงระบบ เช่น การลงทะเบียน วิธีการใช้ต่างๆ คนทั่วไปไม่เข้าใจ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อหลักอย่างคนสูงอายุ ไม่สามารถเข้าถึง และ 3.ปัญหาตัวเลือกโรงแรม ซึ่งเป็นปัญหาเชิงระบบ คือ ผู้ที่จะเข้าโครงการต้องเป็นโรงแรมที่มีใบอนุญาต ซึ่งมีน้อย แค่หมื่นกว่าโรงแรม แต่ความเป็นจริงมีตัวเลขโรงแรมในประเทศไทยมากมายมหาศาลกว่านั้นมาก...
nn ในส่วนของ มาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไทยไม่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ถึงกลางปี 2564 โรงแรมต้องเลิกจ้าง ปิดกิจการ และขายกิจการจำนวนมาก เพราะ เงินทุน หมุนเวียนหมด แม้รัฐบาลมีโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับอย่างชัดเจน...
nn สมาคมโรงแรมไทย จึงออกแถลงการณ์เพื่อขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ด้วยการออกมาตรการทางการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง เพื่อรักษาการจ้างงาน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป...
nn “มือปราบ” เห็นว่า สภาพของเศรษฐกิจที่ถดถอย ซ้ำยังเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องหามาตรการในช่วยเหลือให้ทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้...
nn อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการ เราเที่ยวด้วยกัน นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการประสานงานกับผู้ประกอบการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุงการใช้สิทธิ์ให้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น...
nn หรือไม่อาจจะใช้มาตรการนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนตามแนวทางสปอร์ต ทัวริสต์ซึ่ม (Sport Tourism) โดยเฉพาะบรรดานักวิ่งที่ตระเวนวิ่งไปตามจังหวัดต่างๆ ประสบปัญหาเกี่ยวกับห้องพักเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากมีปรับมาใช้ ก็น่าจะส่งผลให้คนใช้มาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” มากยิ่งขึ้นด้วย...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี