แฟนพันธุ์แท้การเมืองไทยต่างเฝ้ารอดูว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลโดยฝ่ายค้าน (รวมถึงฝ่ายเดียวกับรัฐบาลแต่ทว่าอยากเล่นเกมเพื่อต่อรองผลประโยชน์บางอย่างกับรัฐบาล) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นโล้เป็นพายเป็นเนื้อเป็นหนังสักกี่มากน้อย
อย่างที่ข่าวประกาศชัดเจนแล้วว่าการอภิปรายไม่ไว้ วางใจรัฐบาลจะใช้เวลาทั้งหมด 4 วัน รวมเวลา 42 ชั่วโมง โดยเริ่มวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น. แล้วลงมติในวันที่ 20 กุมภาพันธ์
แต่เมื่อเอาเข้าจริงๆ จังๆ ก็ยังไม่ปรากฏว่าฝ่ายค้านจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายใดบ้าง เพียงแต่มีการให้ข่าวทำนองสร้างกระแสว่าจะเอาให้อยู่หมัด ซึ่งคำว่าเอาให้อยู่หมัดนั้น ถูกวิพากษ์ว่าเป็นแค่คำโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น เพราะถ้าหากฝ่ายค้านมีข้อมูลลึกจนถึงขนาดชี้ให้เห็นได้ชัดเจนว่ารัฐมนตรีรายใดทำเรื่องผิดกฎหมาย หรือมีพฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบโดยแท้จริงแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่สามารถเปิดเผยพฤติกรรมทุจริตได้โดยทันที
หลายคนตั้งตารอดูว่าผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะมีชื่อของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ แล้วก็เฝ้ามองด้วยว่าจะมีชื่อคนสำคัญสุดๆ ของรัฐบาลนี้ ซึ่งกินตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วยหรือไม่
ส่วนฝ่ายค้านอ้างว่าการระบุว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจใครบ้างนั้นถือเป็นความลับ แต่ก็มีคำถามกลับว่า เป็นความลับจริงๆ หรือเป็นเพียงข้ออ้างพื้นๆ เพื่อเอาไว้ต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองกันแน่ เพราะหากมั่นใจว่ามีข้อมูลแท้จริงว่ารัฐมนตรีคนใดก่อเหตุทุจริตไว้ ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเก็บงำชื่อไว้ แต่ควรจะต้องเร่งเปิดเผยชื่อให้สาธารณชนได้รับทราบ เพื่อที่จะได้ช่วยกันตรวจสอบว่ามีการก่อเหตุทุจริตอื่นๆ อีกหรือไม่
คอการเมืองไทยต่างบ่นตรงกันว่า หลายปีมาแล้วที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาของเรานั้น ไม่ต่างไปจากการเล่นตลกที่หาสาระใดๆ มิได้ เพราะผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจส่วนมากเน้นการตีฝีปากมากกว่าการแสดงหลักฐานชัดเจน และนอกเหนือจากตีฝีปากแล้วยังพบว่านักการเมืองหลายรายใช้เวลาของการอภิปรายแสดงความน่ารังเกียจ และความไร้สติปัญญาให้สาธารณชนได้ประจักษ์
น่าสงสัยจริงๆ ว่านักการเมืองไทยจำพวกตลกจำอวดเคยได้ดูการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออภิปรายอื่นๆ ในสภาของประเทศที่พัฒนาแล้วบ้างหรือไม่ เพราะถ้าหากเคยดูและดูแล้วเข้าใจก็น่าจะยึดรูปแบบที่น่าเอาเป็นแบบอย่างมาใช้บ้าง เพราะการอภิปรายในสภาของประเทศที่เจริญแล้ว นักการเมืองของเขาพูดสั้นกระชับ ตรงประเด็น ไม่เล่นลิ้น ไม่แสดงความไร้ปัญญาออกมาให้สาธารณชนได้รับรู้ แม้บางประเทศอาจจะมีการโห่ฮาและตบโต๊ะเพื่อให้เสียงดังบ้าง ก็ไม่ถึงกับน่ารังเกียจเหมือนการอภิปรายโดยหาสาระมิได้อย่างเช่นที่ปรากฏในสภาของไทยดังที่กระทำกันมาโดยตลอด
ถามจริงๆ เถอะ การจะเปิดเผยความผิดของรัฐมนตรีสักคนหรือจะกี่คนก็ตาม ต้องใช้การเล่นลิ้นละเลงขนมเบื้องด้วยปากในสภาหรือ ขอบอกว่าการที่พูด (เขียน) เช่นนี้ไม่ใช่ปฏิเสธความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา แต่เพียงแค่ต้องการย้ำว่า หากมีหลักฐานยืนยันได้ว่ามีรัฐมนตรีหน้าไหนทุจริต ก็นำหลักฐานชัดๆ มาเปิดกลางสภาโดยไม่จำเป็นต้องพล่ามและเล่นตลกในสภาให้เสียความน่าเชื่อถือของนักการเมืองที่ชอบอ้างว่าเป็นผู้ทรงเกียรติ ขอถามอีกทีเพื่อให้แน่ใจว่า มั่นใจจริงๆ หรือไม่ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้จะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่มีสาระ โดยไม่ทำให้เวทีนี้กลายเป็นเวทีตลกเหมือนเช่นที่ผ่านมา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี