มีใครบ้างไหมที่ตั้งอกตั้งใจดูและฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ (ยกเว้นนักข่าวสายการเมือง และบรรณาธิการข่าวที่มีภารกิจต้องติดตามทำข่าวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ) และมีคำถามต่อไปสำหรับเฉพาะผู้ที่ตั้งอกตั้งใจดูและฟังการอภิปรายดังกล่าวว่า หาสารประโยชน์ใดๆที่เป็นชิ้นเป็นอันได้บ้างหรือไม่ แล้วก็มีคำถามต่ออีกด้วยว่า เท่าที่ได้ฟังและได้ดู พอจะเห็นบ้างหรือยังว่ามีนักการเมืองรายใดนำเสนอข้อมูลประกอบการอภิปรายฯ ได้น่าเชื่อถือบ้าง โดยไม่ทำตัวเป็นตัวตลก ไม่แสดงความหยาบถ่อยสถุล และไม่โกหกพกลม
เมื่อพิจารณาถ้อยคำบางประโยคในญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พบว่ามีดังต่อไปนี้ บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลวไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรมจริยธรรม มีพฤติการณ์ฉ้อฉลทุจริต ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตเพื่อสร้างความร่ำรวยมั่งคั่งให้กับตนเองและพวกพ้อง ใช้อำนาจแลกผลประโยชน์ทำให้การทุจริตแพร่กระจาย สร้างความแตกแยกในสังคม ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ ทำลายผู้เห็นต่างปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนและสื่อมวลชน ทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน นำสถาบันเป็นข้ออ้างเพื่อแบ่งแยกประชาชน ละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม และสิทธิมนุษยชน แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
หากพิจารณาตามคำบางคำที่แสดงชัดเจนอยู่ในญัตติการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งล่าสุดนี้แล้ว ก็ต้องบอกตรงๆ ว่าใครก็ตามที่มีพฤติกรรมดังถูกกล่าวอ้างนั้น ไม่น่าจะได้รับการยอมรับอีกต่อไปว่าเป็นคนดี
คำถามที่สาธารณชนผู้ติดตามประเด็นการเมืองไทยมาเป็นระยะเวลายาวนานตั้งขึ้นก็คือ นักการเมืองไทยมีความเลวทราม ชั่วช้า สามานย์ได้ถึงเพียงนี้หรือ หากข้อความตามญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจมีมูลความจริง ก็หมายความว่าประเทศไทยมีนักการเมืองเลวทรามต่ำช้า
ประเทศที่มีนักการเมืองจำพวกเลวทรามต่ำช้าที่ยังคงสามารถลอยหน้าและชูคออยู่ในฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติได้ ก็น่าจะเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความต่ำช้า ใช่หรือไม่ แล้วประเทศที่เต็มไปด้วยนักการเมืองต่ำช้าสามานย์จะสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างไร
เมื่อพูดถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ทำให้สาธารณชนตั้งคำถามต่อไปอีกว่า ระหว่างผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจกับผู้ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายไหนมีภาพลักษณ์ที่ชั่วช้าเลวทราม ไร้ความน่าเชื่อถือ ไร้ศีลธรรมจรรยา และไร้ความเป็นมนุษย์มากกว่ากัน โดยคำตอบทั้งหมดนี้ล้วนขึ้นอยู่กับปัจเจก ขึ้นกับความรักความหลง และขึ้นกับสติปัญญาของแต่ละปัจเจก
แต่สิ่งหนึ่งที่สาธารณชนผู้เฝ้าติดตามชมการอภิปรายไม่ไว้วางใจสามารถรับรู้ได้ชัดเจนคือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ รวมถึงหลายครั้งที่ผ่านมา หาสาระที่ควรแก่การน่าเชื่อถือได้ยากเย็นมาก เพราะฝ่ายผู้อภิปรายแสดงให้สาธารณชนเห็นถึงความเป็นตัวตลกที่นำความน่าเชื่อถือได้น้อยมาก ส่วนผู้ถูกอภิปรายเองก็มิได้แสดงให้สาธารณชนเห็นถึงสติปัญญาและวุฒิภาวะที่สูงกว่าฝ่ายอภิปรายแต่ประการใด ทั้งสองฝ่ายยังคงเล่นลิ้น ตีฝีปาก พ่นน้ำลาย และบางครั้งยังแสดงอาการเสมือนสำรากกลางรัฐสภาออกมาให้สาธารณชนได้ประจักษ์อีกด้วย ซึ่งความเหลวแหลกไร้สาระของรัฐสภาไทยคือสิ่งตอกย้ำให้สาธารณชนได้ประจักษ์ชัดแล้วว่านักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อยหาความน่าเชื่อถือไม่ได้เลย แต่ถึงกระนั้นนักการเมืองไทยก็ยังคงไร้ความละอายในสิ่งที่ตนเองกระทำ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี