การที่ฝ่ายกองทัพทหารพม่าได้ทำการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้สร้างผลกระทบในเชิงลบให้ประชาคมอาเซียนอย่างมากมาย เนื่องมาจากพม่านั้นถือเป็นสมาชิกประชาคมอาเซียน การกระทำการใดๆของหนึ่งประเทศสมาชิกก็ย่อมมีผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่กันโดยปริยาย โดยประเทศสมาชิกทั้ง10 ประเทศนั้น มีพันธกรณีต่อกันและกัน ที่จะรักษา ปกป้อง และเสริมสร้างประชาคมอาเซียน ให้มีความเป็นเสรีนิยม (ซึ่งเป็นค่านิยมสากลของชาวโลก) ให้กับประชากรชาวอาเซียนกว่า 600 กว่าล้านคน
การปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจของฝ่ายกองทัพทหารพม่า จึงสร้างผลกระทบต่อประชาคมอาเซียน ดังเช่น
1. การเพิ่มพูนการเป็นสังคมแห่งลัทธิอำนาจนิยมของประชาคมอาเซียนมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะมีความเป็นเสรีประชาธิปไตยกันอยู่แล้ว ประชาคมอาเซียนโดยรวมจึงเป็นองค์กรความร่วมมือระดับภูมิภาค (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ที่บรรดาผู้นำกดขี่ประชาชนพลเมืองของตนเอง ก็เท่ากับว่าศักดิ์ศรี ความน่าเชื่อถือ อำนาจต่อรองของประชาคมอาเซียนโดยรวมก็จืดจางไปเรื่อยๆ
2. สำหรับชาวอาเซียนทั้ง 600 กว่าล้านคน การปฏิวัติรัฐประหารของพม่า ถือเป็นความน่าสะพรึงกลัวของการต้องตกอยู่ในอำนาจเผด็จการและพึ่งพารัฐบาลต่างๆ มิได้ ที่จะยื่นมือมาช่วยให้พวกเรามีสิทธิเสรีภาพ และการมีส่วนร่วมดีขึ้น
3. แม้ว่าประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนทั้งหมดยังไม่หันไปทางลัทธิอำนาจนิยม แต่ก็หมายความว่า ประชาคมอาเซียนในวันนี้ได้แบ่งออกเป็น 2 ฝัก 2 ฝ่าย คือฝ่ายเสรีนิยม กับฝ่ายเผด็จการนิยม ซึ่งจะทำให้การร่วมมือกันในอนาคตคงจะไม่ราบรื่น หรือไปได้อย่างทุลักทุเล ความเป็นปึกแผ่นและความเป็นเอกภาพก็จะไม่เกิดขึ้น แล้วประชาคมอาเซียนก็จะพูดเป็นเรื่องเดียวกันในเรื่องต่างๆ ของภูมิภาคและของโลกมิได้
4. เมื่อประชาคมอาเซียนขาดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ประชาคมอาเซียนก็จะเป็นสนามให้ประเทศมหาอำนาจต่างๆ เข้ามาแทรกแซง ชิงดีชิงเด่นกัน และประชาคมอาเซียนก็จะกลายเป็นสนามการเมืองให้กับประเทศเหล่านั้น
5. ประชาคมอาเซียนมีโครงการร่วมมือกับประเทศต่างๆ รวมทั้งองค์การสหประชาชาติ และเมื่อฝ่ายกองทัพทหารพม่าปฏิวัติ ก็จะเกิดเงื่อนไขว่าด้วยความร่วมมือ เช่น ลดระดับ หรือตัดพม่าออก ไม่ให้เข้าร่วม ก็จะบั่นทอนความเป็นหนึ่งเดียวและศักดิ์ศรีของอาเซียนเข้าไปอีก
6. ผลกระทบที่กำลังจะตามมาจากการยึดอำนาจ และการกวาดต้อนผู้คัดค้าน ก็คือการทะลักไหลออกมาของผู้ลี้ภัยทางการเมือง ผู้ลี้ภัยทางการสู้รบปราบปราม และผู้ใฝ่แสวงหาชีวิตที่ดีกว่า คือมาหางานในต่างแดน ซึ่งไทยเป็นรัฐด่านหน้าที่ต้องเผชิญกับเรื่องเหล่านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการใช้หลักมนุษยธรรมมากกว่าการอ้างความมั่นคงและกฎหมายเข้าเมือง และไม่รับว่าไทยและพม่าอยู่ในครอบครัวเดียวกันของประชาคมอาเซียน ที่จะต้องช่วยเหลือเกื้อกูล โดยเฉพาะในเรื่องมนุษยธรรม
7. กฎบัตรอาเซียนได้ให้ความหวังกับเรื่องประชาธิปไตย และเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่การปฏิวัติรัฐประหารในพม่าก็เป็นการสวนทางกับเป้าหมายของการเสริมสร้างสังคมเปิด เป็นการละเมิดกฎบัตร ก็เป็นภาระหน้าที่ของอีก 9 ประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนที่จะต้องพูดจาหาทางแก้ไข โดยเฉพาะการคืนประชาธิปไตยให้คนพม่า ซึ่ง 9 ประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนมีส่วนเสริมสร้างประชาธิปไตยพม่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
8. ประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนมักจะแสดงท่าที่แบบเกรงอกเกรงใจ เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ภายในของประเทศสมาชิกหนึ่งใด แต่เมื่อการปฏิวัติรัฐประหารในพม่ากระทบต่อส่วนรวม ผู้นำอาเซียนทั้งหลายก็ต้องยึดหลักการ และต้องกล้าหาญที่จะพูดจากับฝ่ายรัฐบาลทหารพม่า เช่น อย่างน้อยก็มิให้มีการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ประท้วงและเร่งเขียนกฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือแก้ไขฉบับปัจจุบันให้เป็นสากล และกำหนดวันเลือกตั้งให้แน่นอน ในขณะเดียวกัน ก็ต้องปล่อยตัว นางออง ซาน ซู จี และผู้ร่วมงาน และยุติการตั้งศาลเตี้ย
ถ้าผู้นำอาเซียน 9 ประเทศ ไม่กล้ากำหนดท่าทีดังกล่าว ภาพลักษณ์ของประชาคมอาเซียนก็คงจะตกต่ำลงไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการย้ำว่า คำขวัญที่ว่า ประชาคมอาเซียนเป็นของประชาชน และประชาชนเป็นแกนหลักของอาเซียน และประชาคมอาเซียนเป็นศูนย์กลางความเป็นไปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นเป็นแค่คำขวัญลมๆ แล้งๆ ที่หาความจริงอะไรไม่ได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี