เฟซบุ๊คเป็นที่นิยมใช้สอยกันทั่วโลก ด้านหนึ่งเป็นสื่อทางโซเชียลมีเดียที่สำคัญและมีบทบาทมากที่สุดของโลก แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นการประกอบธุรกิจที่มีรายได้หลายประเภทจากผู้ใช้บริการ ไม่ว่าในการโฆษณา ในการเพิ่มจำนวนผู้เป็นสมาชิก และรายได้อื่นๆ
เป็นรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นเงินได้จากบรรดาประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ใช้บริการของเฟซบุ๊ค
ผู้ใช้เฟซบุ๊คทุกคนคงจะคุ้นเคยกับการที่จู่ๆ ก็จะมีข้อเสนอให้โปรโมทเพจของแต่ละคนว่าจะให้มีผู้เข้าถึงเพิ่มขึ้นจำนวนเท่าใด โดยจะต้องเสียค่าโฆษณาหรือค่าโปรโมทเป็นรายเดือนเดือนละเท่าใดก็เป็นไปตามอัตราของการตั้งเป้าหมายว่าจะให้มีผู้เข้าถึงจำนวนเท่าใด ถ้าตั้งเป้าหมายจำนวนมากก็ต้องจ่ายค่าโฆษณาจำนวนมากตามไปด้วย
รายได้ของเฟซบุ๊คจากแต่ละประเทศเป็นรายได้จากการประกอบการของเฟซบุ๊คในประเทศต่างๆ สำหรับในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน ในแต่ละปีหรือในแต่ละเดือนเฟซบุ๊คมีรายได้จำนวนมหาศาลจากบรรดาเจ้าของแฟนเพจทั้งหลาย ยิ่งเป็นแฟนเพจที่ต้องการสมาชิกหรือผู้เข้าถึงมากเท่าใดก็จะต้องจ่ายค่าบริการมากขึ้นเท่านั้น
และเมื่อจ่ายค่าบริการแล้วเฟซบุ๊คก็จะไปดำเนินการแนะนำหรือจัดการด้วยประการอื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้มีจำนวนสมาชิกตามที่ตกลงกัน
การให้บริการดังกล่าวนั้นจึงมีความชัดเจนว่าผู้จ่ายเงินคือผู้ประกอบการในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล และผู้ได้รับเงินจากการให้บริการในประเทศไทยก็คือ เฟซบุ๊คซึ่งมีสำนักงานอยู่ในต่างประเทศ
ดังนั้นบรรดารายได้ทั้งหมดจากผู้ใช้บริการเฟซบุ๊คในประเทศไทยหรือที่จ่ายจากผู้ใช้บริการในประเทศไทยจึงเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ และภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร เช่นเดียวกับประชาชนชาวไทยหรือผู้ประกอบการทั้งหลายทั่วโลกที่มาประกอบการและมีเงินได้จากประเทศไทย
โดยมีภาระภาษีสองชนิดเป็นอย่างน้อยคือ
ชนิดแรก คือภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่เฟซบุ๊คจะต้องเสียภาษีเงินได้ในอัตราร้อยละ 20 ของกำไรสุทธิ ซึ่งเฟซบุ๊คมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีชนิดนี้ในประเทศไทยด้วย การหลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีจึงต้องรับผิดชอบเสียเงินเพิ่มและเบี้ยปรับตามที่กฎหมายบัญญัติ และผู้บริหารที่เกี่ยวข้องย่อมมีโทษทางอาญาด้วย
ชนิดที่สอง คือภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่เฟซบุ๊คจะต้องเรียกเก็บจากผู้จ่ายเงินค่าบริการในอัตราร้อยละ 7ของจำนวนค่าบริการทุกครั้งที่มีการเรียกเก็บค่าบริการและจะต้องนำส่งต่อเจ้าพนักงานภายใน 7 วันหลังจากวันสิ้นเดือน หากไม่เรียกเก็บหรือเรียกเก็บแล้วแต่ไม่นำส่ง เฟซบุ๊คก็จะต้องรับผิดชอบเสียค่าปรับและอาจต้องรับโทษทางอาญาด้วย
ที่ผ่านมาปรากฏว่าเพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้ทำให้การปฏิบัติการทางภาษีอากรตามไม่ทัน และเป็นเหตุให้ไม่มีการเรียกเก็บหรือเสียภาษีตามภาระภาษีที่ต้องเสีย ซึ่งถ้าหากนับเป็นจำนวนเงินที่เป็นภาระภาษีทั้งหมดแล้วแต่ละปีก็จะมีจำนวนมหาศาล แต่ถึงวันนี้ก็ไม่เคยปรากฏว่ามีการเสียภาษีเหมือนกับผู้ต้องมีภาระเสียภาษีทั้งหลายทั้งปวง
ดังนั้นจึงปรากฏข่าวความดำริของกระทรวงการคลังและกรมสรรพากรที่จะต้องเรียกเก็บภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมายและตามภาระหน้าที่ รวมทั้งความเป็นธรรมแก่บรรดาผู้เสียภาษีทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างประเทศที่ต่างก็เสียภาษีกันตามที่กฎหมายบัญญัติ
ข่าวคราวความพยายามที่จะเรียกเก็บภาษีดังกล่าวนับปีแล้ว แต่น่าแปลกใจว่าจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยปรากฏข่าวว่าการจัดเก็บภาษีดังกล่าวได้เกิดขึ้นแล้ว จึงทำให้เกิดความสงสัยโดยทั่วไปว่ามีการไม่เสียภาษีตามภาระภาษีที่จะต้องเสียตามกฎหมาย จึงทำให้กรณีเรื่องนี้เป็นที่จับจ้องติดตามกันเป็นระยะๆ
แต่ก็มีข่าวคราวกระเส็นกระสายว่าเหตุที่ยังดำเนินการคืบหน้าไปไม่ได้นั้นเพราะมีอุปสรรคจากบรรดาขาใหญ่เส้นใหญ่และมีสำนักงานกฎหมายต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องในการประสานงานต่างๆ ในเรื่องนี้
ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจมีสำนักงานกฎหมายต่างประเทศทำหน้าที่เป็นล็อบบี้ยิสต์ในเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ต้องการความเป็นธรรมในเรื่องภาษีอากรจะต้องติดตามตรวจสอบกันต่อไป
ก็ให้เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าผู้มีรายได้ที่มีจำนวนเงินได้ถึงกำหนดตามจำนวนที่จะต้องเสียภาษีและผู้มีเงินได้ที่เป็นนิติบุคคลมีหน้าที่ต้องเสียภาษีโดยถ้วนหน้ากัน ดังนั้นถ้าใครใดก็ตามมาตั้งตนเป็นผู้อยู่เหนือกฎหมายไม่เสียภาษีแก่รัฐ หรือมีใครก็ตามปกป้องคุ้มครองไม่ดำเนินการให้มีการจัดเก็บภาษีตามภาระภาษีที่กฎหมายบัญญัติก็ต้องถือว่าเป็นการทุจริต เป็นการทรยศชาติ เป็นการทำประเทศชาติให้เป็นประหนึ่งเมืองขึ้นของต่างชาติ
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ เพราะถ้าขืนทำกันเช่นนี้คนไทยทั้งประเทศก็อาจจำเป็นต้องทักท้วงด้วยรูปแบบต่างๆ เพื่อสั่งสอนผู้มีหน้าที่แล้วไม่ทำหน้าที่ หรือดำเนินการด้วยประการต่างๆ เพื่อให้ผู้ละเว้นการทำหน้าที่นั้นต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย
อย่าให้คุกตะรางมีไว้สำหรับขังคนจนเท่านั้น หรืออย่าให้ภาระภาษีบังเกิดมีแก่เฉพาะคนไทยเท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี