สัปดาห์นี้ “ที่นี่แนวหน้า” ขอนำเสนอข้อคิดเห็นของ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) เกี่ยวกับปัญหา “การพนัน” ทั้งแบบออฟไลน์หรือการพนันดั้งเดิมอย่างบ่อนและหวยใต้ดิน และพนันออนไลน์ที่เล่นได้ผ่านอินเตอร์เนตผ่านเว็บไซต์ เกมออนไลน์และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเฟื่องฟูขึ้นในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่น มีการทำงานหรือเรียนออนไลน์ที่บ้าน หรือล่าสุดแม้แต่ในโรงพยาบาลสนาม ยังมีการรวมตัวตั้งวงไพ่ โดยอ้างเล่นเพื่อหารายได้ช่วงตกงาน แบบไม่สนมาตรการเว้นระยะห่างในสังคม
ขณะที่การเข้าทลายบ่อนการพัน หรือไล่ปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ กลับไม่สามารถจับกุม และลงโทษเจ้ามือเจ้าของบ่อน เจ้าของสถานที่ แม้แต่เจ้าของเว็บไซต์พนันให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะ “กฎหมายปราบพนันของไทยนั้นล้าหลัง” ประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับการพนันอย่างเป็นทางการฉบับแรก คือ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2473 และต่อมามีการปรับปรุงเพียง 1 ครั้ง คือ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 โดยแม้จะมีการหยิบยกเรื่องนี้ ขึ้นมาหารือในหลายรัฐบาล แต่ก็ไม่เคยมีการปรับปรุงกฎหมายการพนันให้ทันสมัยอีกเลยจนถึงปัจจุบัน
นั่นหมายความว่า พ.ร.บ.การพนันฯ ของไทยถูกใช้มาแล้วถึง 86 ปี! หรือกว่า 7 ทศวรรษ กระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ “คณะทำงานพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันและการพนันออนไลน์” ใน คณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายอรุณ สวัสดี สส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือเพื่อปรับปรุง กฎหมายการพนันของไทยให้มีประสิทธิภาพ
นายพงศธร จันทรัศมี ผู้จัดการโครงการ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันและการพนันออนไลน์ฯ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางคณะทำงานฯได้เสนอแนวทางในการยกเครื่อง “New LAW For New Normal” ในการจัดการกำกับดูแล 8 สถานการณ์ปัญหาการพนัน กับ 6 แนวทางยกระดับกฎหมาย โดย 8 สถานการณ์ปัญหาการพนัน ที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ คือ 1.การพนันล้อมบ้านล้อมเมือง ทั้งใต้ดิน บนดิน ออนไลน์ชายแดน รวมถึงที่แฝงมากับโฆษณาเชิญชวนต่างๆ
2.กฎหมายและกลไกกำกับดูแล ควบคุมล้าหลังไม่ทันสถานการณ์ ใช้มานานกว่า 86 ปี โดยไม่มีการปรับปรุงแก้ไข 3.บทลงโทษเจ้ามือ ผู้เชิญชวน ผู้เล่นการพนันที่ผิดกฎหมาย มีโทษน้อย ปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท และส่วนมากถูกตัดสินเป็น คดีลหุโทษ ส่งผลให้ไม่เกิดความเกรงกลัว 4.ขาดแรงจูงใจเชิงรุกให้กับเจ้าพนักงานและประชาชนผู้แจ้งเบาะแส ทำให้การระบาดของการพนันผิดกฎหมายรุกหนัก 5.กลไกการกำกับดูแลบังคับใช้กฎหมายนั้นแยกกันทำ ไม่บูรณาการ และดำเนินการเชิงรับมากกว่า
6.ขาดระบบติดตามนโยบายแก้ไขปัญหาการพนันอย่างต่อเนื่อง ตรงจุดเฉพาะพื้นที่ 7.ไม่มีกลไกป้องกัน กลไกสร้างความตระหนัก ระบบพัฒนาวิจัยปัญหาพนันระดับชาติ รวมถึงการช่วยเหลือด้านสุขภาพของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการพนันอย่างต่อเนื่อง และ 8.ยังไม่มีระบบ มาตรการ กลไก ที่รองรับ การจัดการการพนันชนิดใหม่ๆ ที่อาจจะไปสู่การพนันที่อนุญาตหรือไม่อนุญาตในอนาคต
ขณะที่ 6 แนวทางเพื่อยกเครื่องการจัดการปัญหาพนันในประเทศไทย ทางคณะทำงานฯ เห็นควรว่า1.ต้องมีกฎหมายพนันฉบับใหม่ โดยโครงสร้างของกฎหมายต้องกำหนดคำนิยาม และลักษณะการพนันให้รองรับการตีความประเภทการพนันที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงมีระบบการจัดการกำกับควบคุมการพนัน การช่วยเหลือเยียวยา และบทลงโทษที่ทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์
2.เพิ่มบทลงโทษให้หนักขึ้นอย่างครอบคลุม ทั่วถึง และสอดคล้องกับบริบทประเทศไทย เช่น พิจารณาบทลงโทษผู้เล่นตามลักษณะของขนาดการเล่นการพนัน ขณะที่เจ้ามือหรือผู้จัดให้มีการเล่นต้องรับโทษหนักขึ้น รวมถึงผู้เชิญชวนทางออนไลน์ และมีค่าปรับเป็นวงเงินร้อยละ 10 ของการเล่นพนันวงนั้นๆ3.มีกองทุนช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจากการพนัน และกองทุนพัฒนา งานวิจัยที่เกี่ยวกับพนันในทุกมิติ อีกทั้งยังต้องเพิ่มการรณรงค์ส่งเสริมมาตรการป้องกัน และมาตรการปราบปรามการพนัน
4.มีมาตรการจูงใจและการทำงานเชิงรุก ในการแจ้งเบาะแสจับกุมผู้กระทำความผิดการพนันที่ผิดกฎหมาย เช่น ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับรางวัลนำจับจำนวนกึ่งหนึ่งของค่าปรับผู้กระทำความผิดการพนันในครั้งนั้น ยกตัวอย่างเนตไอดอลโพสต์เชิญชวนเล่นพนันออนไลน์ ศาลมีคำสั่งปรับ 100,000 บาท ผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การตัดสินโทษจะได้รับรางวัลนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ คือ 50,000 บาท เป็นต้น
5.มีกลไกการบูรณาการมาตรการการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงนโยบาย พร้อมนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อปรับปรุงแก้ไขปัญหาพนันในสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง และ 6.มีกลไกในการกำกับดูแล อนุญาต และควบคุมการพนันที่ได้รับอนุญาตและที่ไม่ได้รับอนุญาต ทั้งในระดับประเทศ และระดับจังหวัด โดยความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีทั้งนี้ นายพงศธร ยังขอสนับสนุนให้รัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผลักดันให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายพนันฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จ
“สำหรับ มสช. เรามองว่าธุรกิจการพนันเป็นธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อสังคม ผู้เล่นการพนันมีโอกาสเป็นโรคติดพนัน ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวช และนำไปสู่
ผลกระทบด้านสุขภาพจิตอื่นๆ โดยเฉพาะเยาวชน หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เล่นการพนันโดยขาดการดูแล ควบคุม และเล่นการพนันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เด็ก ก็จะทำให้เขาขาดวุฒิภาวะ และเป็นช่องทางไปสู่การเป็น อาชญากรเพื่อใช้หนี้พนันในอนาคตได้ จึงจำเป็นต้องผลักดันให้มีกลไกทางกฎหมายในการกำกับและช่วยเหลือเยียวยาอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่อง และจริงจัง รวมถึงต้องมีระบบช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการพนัน เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้ประชาชนเป็นโรคติดพนันอย่างยั่งยืนสืบไป” นายพงศธร กล่าวในท้ายที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี