การรับมือกับการแพร่ระบาดของโคบ้าในประเทศไทยได้ใช้มาตรการอยู่เพียงสองประการเท่านั้น คือ การควบคุมการแพร่ระบาดโดยออกมาตรการให้ภาคธุรกิจและประชาชนต้องหยุดทำธุรกิจต่อเนื่องมานานแล้ว และมาตรการในการป้องกันคือการใช้วัคซีน
สำหรับมาตรการในการป้องกันที่มุ่งใช้วัคซีนนั้นได้ใช้วิธีการผูกขาดโดยรัฐเป็นหลัก และเป็นการผูกขาดไว้เพียงวัคซีนสองยี่ห้อ คือ แอสตราเซเนกาและซิโนแวค ซึ่งเป็นข่าวฉาวโฉ่ให้ผู้คนได้วิพากษ์วิจารณ์กันตลอดมา
ส่วนวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ ซึ่งบัดนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าได้รับความเชื่อถือในระดับที่สูงมาก ที่สำคัญคือแทบไม่มีผลข้างเคียง ดังนั้นจึงเป็นที่ปรารถนาของคนทั้งหลายที่ตกใจกลัว โคบ้า เพราะเมื่อหวังพึ่งวัคซีนแล้วก็ต้องการใช้วัคซีนที่มีมาตรฐานสูง เป็นที่เชื่อถือ และไว้วางใจทั่วโลก แต่ประเทศไทยกลับไม่นำวัคซีนชนิดนี้เข้ามา
หลายประเทศผู้ผลิตวัคซีนไม่ว่าจีน อินเดีย บริษัทไฟเซอร์ ได้แสดงความจำนงที่จะบริจาควัคซีนให้แก่รัฐบาลไทยแต่ไม่ได้รับการตอบรับหรือแสดงความไยดีเลยแม้แต่น้อย จนเป็นเหตุให้บางประเทศไม่พอใจ
แม้กระทั่งหน่วยงานกลางในเรื่องวัคซีนของโลกคือโคแวกซ์ที่จัดหาวัคซีนบริจาคให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 120 ประเทศ รวมทั้งประเทศอาเซียนด้วยก็เคยแสดงเจตจำนงที่จะบริจาควัคซีนให้แก่รัฐบาลไทย แต่ได้รับการปฏิเสธ
ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่โคแวกซ์นำวัคซีนออกแจกจ่ายแก่ประเทศต่างๆ 120 กว่าประเทศรวมทั้งประเทศอาเซียน ยกเว้นประเทศไทย จึงเป็นข่าวฮือฮาให้ผู้คนได้ติเตียน
นินทากันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะพวกที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลได้ยกขึ้นเป็นข้อกล่าวหาและโจมตีอย่างหนักหน่วง กระทั่งกล่าวหาว่าเป็นการทำให้ประเทศไทยเสียหน้า ต้องอับอายขายหน้ากับชาวโลก เหมือนกับตกสำรวจ
และขายหน้าบรรดาประเทศอาเซียนอีก 9 ประเทศที่เขาได้รับการจัดสรรวัคซีนจากโคแวกซ์โดยถ้วนหน้ากัน
และถึงบัดนี้ก็ไม่เคยมีคำตอบหรือคำชี้แจงใดๆ จากรัฐบาลว่าเหตุใดจึงปฏิเสธหรือไม่ยอมรับการบริจาควัคซีนดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงติเตียนต่อว่าที่กึกก้องมาจากทั่วสารทิศ ซึ่งมุ่งเป้าไปที่เรื่องผลประโยชน์จากการผูกขาดในการจัดหาวัคซีนนั่นเอง
ถึงวันนี้ก็ไม่มีการทำความจริงให้กระจ่างว่าทำไมจึงไม่รับบริจาค ทำไมจึงไม่รับการช่วยเหลือจากองค์กรระดับนานาชาติ จากประเทศผู้ผลิตและบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ยังคงดึงดันเดินหน้าที่จะผูกขาดวัคซีนกันต่อไป
ถึงขั้นมีการเชิญองค์กรเอกชนโดยเฉพาะหอการค้าไทยไปปรึกษาหารือ ซึ่งบรรดาองค์กรเหล่านั้นต่างแสดงเจตนาที่จะให้การช่วยเหลือแก้ไขปัญหาการขาดหรือวัคซีนไม่พอ หรือปัญหาที่วัคซีนไม่ได้รับความเชื่อถือในประเทศไทย โดยยินดีที่จะจัดหาหรือนำเข้ามาเพื่อให้สมาชิกขององค์กรนั้น รวมทั้งบริษัทเอกชนต่างๆ ได้ใช้วัคซีนตามความต้องการตามที่มีการเชื่อถือกัน
แต่ในที่สุดก็ได้รับการปฏิเสธ โดยรัฐบาลจะเป็นผู้จัดหาเอง ส่วนภาคเอกชนขอเพียงให้แจ้งความต้องการว่ากิจการใดต้องการใช้วัคซีนเท่าใดเท่านั้น
จึงเป็นอันว่าถึงบัดนี้ในเรื่องวัคซีนก็ยังคงเป็นเรื่องที่มีการผูกขาดต่อไป แม้จะมีข่าวกระเซ็นกระสายว่าจะมีการจัดหาวัคซีนยี่ห้ออื่นที่ได้รับความเชื่อถือเข้ามาบ้างก็ตาม แต่ในที่สุดก็ไม่มีความชัดเจน คงฟังได้แต่ว่าจะยังคงใช้วัคซีนยี่ห้อแอสตราเซเนกาและซิโนแวค เหมือนเดิม
และในการใช้วัคซีนนั้นขณะนี้ก็ยอมรับกันแล้วว่าไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโคบ้าได้ แต่เฉไฉไปเป็นว่าถึงแม้จะไม่สามารถป้องกันการติดโคบ้าได้ แต่เมื่อฉีดแล้วหากในภายภาคหน้าได้รับเชื้อโคบ้าขึ้นมาก็จะได้รับผลกระทบที่น้อยลง
โดยมีหมอกลุ่มหนึ่งซึ่งก็รู้หน้ารู้ตัวกันอยู่ว่าเป็นใคร ซึ่งไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ใดๆ ในเรื่องนี้โดยเฉพาะไม่มีความรู้และไม่เคยทำการวิจัยในเรื่องนี้เลย แต่กลับมาพูดอย่างหน้าตาเฉยว่าแม้ป้องกันโคบ้าไม่ได้ แต่หากติดเชื้อโคบ้าในอนาคตแล้วก็จะได้รับอันตรายน้อยลง ซึ่งต้องถือว่าเป็นการโกหกยกเมฆที่น่ารังเกียจไม่สมกับเป็นผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีข่าวติดตามมาอย่างต่อเนื่องว่าประชาชนจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะผู้มีฐานะรายได้ที่ดีต้องเดินทางออกไปฉีดวัคซีนที่เชื่อถือในต่างประเทศ และกำลังแพร่กระจายให้ดิ้นรนดั้นด้นไปฉีดวัคซีนกันในต่างประเทศ
เพราะเป็นธรรมดาของผู้มีฐานะรายได้ดีจะมีใครที่จะยอมเสี่ยงฉีดวัคซีนที่เห็นผลประจักษ์ชัดอยู่แล้วว่ามีผู้เสียชีวิตและมีผู้ได้รับผลกระทบหลังจากฉีดวัคซีนแล้วอย่างต่อเนื่อง บางคนก็เสียชีวิตโดยไม่นึกคิดฝัน โดยหาคนรับผิดชอบใดๆ ไม่ได้ ย่อมต้องแสวงหาวัคซีนที่มีมาตรฐานและเชื่อถือได้ดีกว่าที่จะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับความไม่แน่นอนและความจริงที่เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ดังนั้นกระแสการเดินทางไปฉีดวัคซีนในต่างประเทศจึงขยายตัวไปอย่างรวดเร็วกว้างขวาง
หลังจากนั้นก็มีข่าวปรากฏอย่างต่อเนื่องว่าได้มีการก่อตั้งกิจการร่วมค้าแล้วมาให้บริการฉีดวัคซีนยี่ห้อต่างๆ ในประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดกับประเทศไทย ซึ่งทำให้การเดินทางข้ามแดนไปฉีดวัคซีนในประเทศเพื่อนบ้านนั้นได้รับความสะดวกและมีค่าใช้จ่ายน้อยมาก
แม้ว่าจะมีการปล่อยข่าวให้เกิดความสับสนว่ามีการให้บริการฉีดวัคซีนแบบนี้ในประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ข่าวคราวนี้เจือจางลง มีแต่จะหนาหูมากขึ้นว่าการเปิดให้บริการแบบนี้กำลังขยายตัวไปในประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ อีกด้วย
เพราะใครๆ ก็ย่อมเห็นว่าการปั่นกระแสให้ตื่นตกใจกลัวในประเทศไทยนั้นกำลังได้ผล ในขณะที่ผู้คนไม่เชื่อถือวัคซีนผูกขาด ดังนั้นผู้คนจึงย่อมดิ้นรนดั้นด้นไปหาวัคซีนที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ ยิ่งมีระยะทางใกล้ประเทศไทยมากเท่าใด มีความสะดวกมากเท่าใด และค่าใช้จ่ายน้อยลงเท่าใดก็เป็นที่แน่นอนว่าสักวันหนึ่งกระแสการเดินทางไปฉีดวัคซีนที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือได้ในประเทศเพื่อนบ้านก็จะกลายเป็นกิจการและกิจกรรมที่ก่อให้เกิดรายได้แก่ผู้ประกอบการอย่างมหาศาล
ซึ่งนั่นก็หมายความว่ากิจการที่ให้บริการฉีดวัคซีนยี่ห้อต่างๆ ที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือก็จะเป็นธุรกิจสำคัญขึ้นมา และจะเป็นเหตุให้ผู้คนหลั่งไหลไปฉีดวัคซีนลักษณะนี้กัน
เหล่านี้ย่อมกระทบต่อลัทธิวัคซีนผูกขาดไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน อย่าได้หลงใหลในตัวเลขแห่งความตกใจหรือการบังคับใดๆ ที่ให้ผู้คนไปลงทะเบียนแสดงเจตจำนงที่จะฉีดวัคซีนว่าจะเป็นตัวเลขจริง
ความจริงก็คือผู้ที่ไปลงชื่อแสดงเจตจำนงเหล่านั้นเกือบทั้งหมดหาได้มีความมั่นใจหรือแน่ใจในการฉีดวัคซีนว่าจะไปฉีดตามกำหนดจริงหรือไม่ หรือว่าจะทอดทิ้งไปเสียเฉยๆ และแน่นอนว่าย่อมมีจำนวนหนึ่งที่ลงทะเบียนแล้วไม่ไปฉีดวัคซีน ก็จะทำให้ปริมาณวัคซีนที่คาดหมายว่าจะใช้ไม่สามารถใช้ได้ตามที่ตั้งประมาณการไว้
ในขณะเดียวกัน ก็มีข่าวความสำเร็จของประเทศจีนที่สามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ในเรื่องป้องกันรักษาโคบ้าที่ได้ผลและสะดวกปลอดภัยมากที่สุด นั่นคือการใช้ยาสูดดมเข้าทางจมูก ซึ่งใช้เวลาไม่นาน และมีค่าใช้จ่ายที่ถูกมากใช้สะดวกรวดเร็วและได้ผลดีมาก
เพราะว่าการติดเชื้อโคบ้านั้นจะเริ่มต้นที่ทางปากและจมูก ถ้าไม่มียาหรือสารอื่นใดทำลายในช่วงเวลาฟักตัวราว 4 วันในช่องปากและโพรงจมูก โคบ้าก็จะขยายตัวไปกระทั่งถึงปอดทำให้ปอดอักเสบและปอดบวม หายใจไม่ออกและเสียชีวิต
ดังนั้นโดยรูปแบบการใช้ยาพ่นทางปากและจมูกจึงเป็นการตั้งด่านรับมือกับการติดเชื้อ โคบ้าที่ตรงตัวตรงทางมากที่สุด และมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์ เพราะขณะนี้ผลการทดลองในประเทศจีนที่ใช้ทดลองกับเหล่าทหาร สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและบุคลากรด้านความมั่นคงได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
และอีกไม่นานยาดังกล่าวคงจะเข้ามาประเทศไทยในรูปแบบต่างๆ ที่ใครก็สกัดกั้นไม่ได้เพราะประชาชนสามารถซื้อหามาใช้เองได้โดยไม่ต้องไปฉีดที่โรงพยาบาลหรือโดยแพทย์
เหล่านี้จึงส่งผลกระทบต่อลัทธิผูกขาดวัคซีนอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือในห้วงเวลาอันเป็นระยะผ่านนั้นผู้คนจะป่วยตายกันอีกสักเท่าใด ธุรกิจจะวินาศสันตะโรกันอีกเท่าใดก็ดูเหมือนว่าไม่ได้รับการใส่ใจไยดีแต่ประการใด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี