ฉบับอังคารที่แล้ว ผมได้หยิบยกเนื้อหาจากหนังสือ “หนังสือรัฐบุรุษคู่แผ่นดิน” ซึ่งนาวาตรีประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้บันทึกไว้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และเชื่อว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รัฐบาลของพลเอกเปรมประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศ ตลอดระยะเวลา 8 ปี 5 เดือนทั้งนี้พลเอกเปรม ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้มีการตั้งคณะกรรมการต่างๆ เพื่อเป็นกลไกในการทำงานเพื่อชาติ อาทิ คณะกรรมการร่วม ภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้อธิบายไปแล้ว
ฉบับนี้มาเล่าขานต่อ ถึงคณะกรรมการพัฒนาชนบทแห่งชาติ(กชช.) ที่พลเอกเปรมจัดตั้งขึ้นมา เพื่อให้ศึกษาแนวทางการพัฒนาชนบทซึ่งยังยากจนล้าหลังอยู่เป็นอย่างมากว่าสมควรจะต้องแก้ไขปรับปรุงอย่างไรบ้างจึงจะช่วยให้ชนบทที่ยากจนเหล่านี้มีโอกาสเจริญขึ้นทั้งทางด้านความเป็นอยู่ด้านรายได้และด้านการศึกษา ซึ่งคณะทำงาน ได้เสนอรายงานเรื่อง นโยบายในการพัฒนาชนบท ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา เพียง 4 เดือนหลังการแต่งตั้งโดยได้รายงานให้ทราบถึง สภาพปัญหาในชนบทพร้อมทั้งข้อเสนอแนะในการแก้ไขเรื่องนี้
รายงานตอนหนึ่งกล่าวไว้ว่า “ผลการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะ 20 ปีที่ผ่านมา หากพิจารณาแต่เพียงแง่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยส่วนรวมแล้วอาจกล่าวได้ว่าประสบผลที่ค่อนข้างน่าพอใจแต่เมื่อพิจารณาการพัฒนาให้ลึกซึ้ง โดยเฉพาะในแง่ของการกระจายผลประโยชน์ที่ได้จากการพัฒนาแล้วข้อเท็จจริงจะปรากฏให้เห็นชัดว่า การขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจเป็นไปอย่างขาดสมดุลยังผลให้เกิดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำในฐานะรายได้ ซึ่งนับวัน แล้วมันจะมีช่องว่างแตกต่าง ไกลกันออกไปทุกที่ในแต่ละภาค ระหว่างเขตชนบทและเขตเมืองของประเทศ”
นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณารายงานนี้ด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รับไปจัดทำเป็นแผนงาน บรรจุไว้ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 โดยเน้นสาระสำคัญ ในการพัฒนา 5 ประการคือ
1.ยึดพื้นที่เป็นหลักโดยให้ความสำคัญแก่พื้นที่ยากจนหนาแน่นก่อน, 2.พัฒนาฐานะประชาชนให้พออยู่พอกิน และมีบริการพื้นฐานขั้นต่ำ อย่างทั่วถึงในเขตชนบทที่มีความยากจนหนาแน่น, 3.เน้นการปรับปรุง เพื่อให้ประชาชนช่วยเหลือตัวเอง ให้มากขึ้นตามลำดับ,4.แก้ปัญหาที่ประชาชนยากจนอยู่จริง ให้ทั่วถึงพื้นที่ชนบทยากจน โดยเน้นเทคนิค ที่ประชาชนทำได้เองและมีการลงทุนต่ำ และ 5.ให้ประชาชนมีส่วนแก้ไขปัญหาของตัวเองให้มากที่สุด
ในขณะเดียวกัน พลเอกเปรม ได้จัดตั้งคณะกรรมการสร้างงานในชนบท (กสช.) เพื่อแก้ปัญหา และบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรในชนบท ในช่วงสภาวะฝนแล้ง และหมดฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นภาวะที่ก่อให้เกิดการว่างงานตามฤดูกาล เป็นประจำ พลเอกเปรมจึงได้ริเริ่มโครงการสร้างงานในชนบท ขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานด้วยตัวเอง โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นรัฐมนตรี ที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง ทั้งนี้เพื่อให้การพิจารณาโครงการต่างๆ ของแต่ละภาคของประเทศ ปลอดพ้นจากการใช้ประโยชน์ในการหาเสียงทางการเมือง
ลักษณะโครงการที่เกิดขึ้น เช่น การสร้างฝายประตูน้ำ พนังกั้นน้ำ คู่ครอง ท่อส่งน้ำรางระบายน้ำสระเก็บน้ำ หนองบึงบอนเลี้ยงสัตว์น้ำถังเก็บน้ำตุ่มน้ำบ่อบาดาลประปาหมู่บ้าน ฉางเก็บผลผลิตการเกษตร คอกสัตว์รวม กังหันสูบน้ำ เครื่องอบผลผลิตทางการเกษตร ถนน สะพาน ท่อระบายน้ำทางเดินและอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน
คณะกรรมการพัฒนาชนบทแห่งชาติและคณะกรรมการสร้างงานในชนบท ได้ปรากฏมีผลงาน อย่างมากมายในชนบท มีถนนหนทางเข้าถึงหมู่บ้านได้ทุกแห่ง มีโรงพยาบาลประจำอำเภอ มีสถานีอนามัยประจำตำบลแล้วทั่วประเทศ ประชาชนในชนบทมีความรู้ความสามารถที่จะช่วยตัวเองได้มากขึ้น เด็กที่เป็นโรคขาดอาหารเริ่มลดน้อยลง ราษฎรที่ขาดแคลนโค-กระบือในการทำนา ก็ได้รับโคกระบือเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องเช่า ที่ดินในการทำมาหากินได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ราษฎรที่เคยขาดอาหาร ที่ผลิตได้ในหมู่บ้าน ก็เริ่มผลิตได้มากขึ้นโดยเฉพาะอาหารจำเป็น เช่น ข้าวปลาไก่ไข่ เป็นต้น ปัญหาความยากจนในชนบทได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นแล้ว ในระดับที่น่าพอใจ อุปสรรคสำคัญใหญ่ๆ ที่เป็นบริการขั้นพื้นฐาน ได้รับการแก้ไขมาโดยลำดับ จึงเป็นเรื่องที่ควรจะได้ช่วยกันทำต่อไปอีกอย่างต่อเนื่อง เพื่อพลิกฟื้นชนบทยากจนห่างไกลเหล่านี้ให้มีความเป็นอยู่ ที่ใกล้เคียงเขตเมืองที่เจริญแล้วให้ได้ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งถ้าพิจารณาแล้ว โครงการพัฒนาต่างๆ ในชนบทเป็นรากฐานในการพัฒนามาจวบจนทุกวันนี้
พลเอกเปรม นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน คณะกรรมการ กชช. และคณะกรรมการกสช.ได้เดินทางไปตรวจ และติดตามผลการดำเนินงานของโครงการต่างๆ ด้วยตัวเองในชนบทอย่างใกล้ชิดเพื่อดูความก้าวหน้าหรือปัญหาอุปสรรคในการทํางาน ราษฎรในหมู่บ้าน ที่มาพบนายกรัฐมนตรี ในแต่ละแห่ง ได้บอก และแสดงความพอใจ ต่อการช่วยเหลือของรัฐบาลเป็นอย่างมาก ต้องการให้โครงการของรัฐบาล ยังมีความต่อเนื่องต่อไป
จะเห็นว่ารัฐบาลพลเอกเปรม มีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหา ระดมบุคลากรที่เกี่ยวข้องมาร่วมงาน และที่สำคัญคือการพูดความจริงสถานการณ์จริงให้ประชาชนได้รับทราบและร่วมกันฟันฝ่าแก้ปัญหาประเทศชาติกันไปด้วยกัน การแก้ปัญหาความยากจนและปัญหาชนบท ของรัฐบาลพลเอกเปรมหากพิจารณาด้วยความเป็นธรรม จะเห็นเป็นการวางรากฐานที่เข้มแข็งให้ราษฎรในชนบทน่าเสียดายที่หลายๆ รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้สานต่อแผนพัฒนาชนบทมาอย่างต่อเนื่องทำให้ทุกวันนี้พี่น้องประชาชนคนไทยในชนบทยังมีความเป็นอยู่ที่ลำบากยากจนกันอย่างมากมายจริงๆ
รายละเอียดและผลงานของรัฐบาลพลเอกเปรมที่เราคนรุ่นหลังยังไม่รู้ไม่ทราบนั้นมีมากจริงๆ นะครับ แฟนคลับแนวหน้า “เรื่องเล่าของป๋าเปรม” ที่สนใจจะศึกษาเพิ่มเติม ลองสอบถาม ดร.สุเมต สุวรรณพรหม ผู้ดำเนินรายการเรื่องเล่าของป๋าเปรม ทางวิทยุ FM90.5อีกทางหนึ่งที่นั่นเขามีหนังสือที่เกี่ยวข้องกับป๋าเปรมมากเลยทีเดียว โทรศัพท์และไอดีไลน์ 08-1110-3939 ขอให้ทุกท่านโชคดีปลอดภัย จากโควิด-19 ทุกคนนะครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี