เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้เขียนถึง รายงานผลสรุปและข้อเสนอแนะในการศึกษาการขุดคลองไทย และการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีพลตรีทรงกรดทิพย์รัตน์ เป็นประธานฯได้ทำการศึกษาเสร็จแล้ว และรอการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีทั้งหมด 10 ข้อ ซึ่งได้นำไปเสนอไปเมื่อตอนที่แล้ว 7 ข้อ วันนี้ขอนำเสนอต่ออีก 3 ข้อเสนอ ที่ ดร.สุเมต สุวรรณพรหม สรุปมาให้ผม
ข้อ 8 ควรนำบทเรียนเขตเศรษฐกิจพิเศษอิสกันดาร์ ประเทศมาเลเซีย มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะเขตเศรษฐกิจพิเศษ อิสกันดาร์ มาเลเซีย เป็นประเทศในเอเชียที่ประสบความสำเร็จในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ มาเป็นกรอบแนวทางในการศึกษาความเป็นไปได้ (FeasibilityStudy) และการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ใน 5 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ตรัง พัทลุงนครศรีธรรมราช และสงขลา ภายใต้ชื่อ เขตเศรษฐกิจพิเศษขวานทองภาคใต้ (The Golden Ax Special Economic Zone) : GASEZ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนและการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ของประเทศไทยในภาคใต้ นอกจากนี้ควรนำบทเรียนการบริหารท่าเรือ PSA-Port of Singapore Authority ที่ได้รับการยกย่องว่า บริหารงานดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกโดยเฉพาะความทันสมัยในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มาเป็นบทเรียน ในการบริหาร ท่าเรือด้วยเช่นกัน
ข้อ 9 หากมีโครงการขุดคลองไทยจะส่งผลดีสำหรับการรักษาความมั่นคงทางทะเลเนื่องจากสามารถสนับสนุนและส่งเสริมให้กำลังทางเรือสามารถเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างกันได้สะดวก หากถูกปิดล้อมและหากเกิดภัยพิบัติฝั่งใดฝั่งหนึ่งกำลังทางเรืออีกฝั่งสามารถเข้าช่วยเหลือและสนับสนุนการรบได้รวดเร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ในบริบทด้านความมั่นคง เพื่อรองรับโครงการขุดคลองไทยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรมีการศึกษาและดำเนินการดังนี้
1.กองบัญชาการกองทัพไทย ศึกษาการอำนวยการยุทธร่วม ผสมระหว่างเหล่าทัพและกองทัพต่างประเทศ ในการรักษาความปลอดภัย ความมั่นคง หากเกิดโครงการขุดคลองไทย
2.กองทัพบก ศึกษาผลกระทบและแนวทางการรักษาความมั่นคงทางภาคพื้นดินที่เปลี่ยนแปลงและการจัดโครงสร้างกองกำลังทางบกที่เหมาะสมหากเกิดโครงการขุดคลองไทย
3.กองทัพเรือ ศึกษาผลกระทบ และแนวทางการรักษาความมั่นคงทางทะเลในพื้นที่รับผิดชอบและเส้นทางการคมนาคมทางทะเล ที่เกี่ยวเนื่องกับคลองไทย รวมทั้งการจัดโครงสร้างกองกำลังทางเรือที่เหมาะสมหากเกิดโครงการขุดคลองไทย
4.กองทัพอากาศ ศึกษาผลกระทบและแนวทางการรักษาความมั่นคงในห้วงอากาศและอวกาศ และการจัดโครงสร้างกำลังทางอากาศที่เหมาะสมหากเกิดโครงการขุดคลองไทย
5.สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ศึกษาผลกระทบและแนวทางในการรักษากฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่การขุดคลองไทย และการจัดโครงสร้างกำลังที่บังคับใช้กฎหมาย หากเกิดโครงการขุดคลองไทย
6.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศึกษาผลกระทบด้านความมั่นคงที่เกี่ยวกับสภาพสังคมเศรษฐกิจวัฒนธรรมหากมีโครงการขุดคลองไทย ตลอดจนแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่
ข้อ 10 ด้านการเมืองภายในประเทศหากมีการดำเนินโครงการคลองไทยจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจส่งเสริมให้เกิดอาชีพใหม่และการจ้างงาน รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่และกระจายรายได้ทั่วประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำส่งผลให้การเมืองภายในประเทศเข้มแข็งขึ้น อย่างไรก็ตาม การดำเนินการโครงการขุดคลองไทยอาจเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสภาพเศรษฐกิจและสังคมซึ่งอาจส่งผลให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นต้องรับภาระและแก้ปัญหาต่างๆ
ดังนั้นจึงสมควรให้มีกฎหมายการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เลยท้องถิ่นสามารถจัดเก็บภาษีและบริหารรายได้และสามารถจัดการกับผลกระทบด้านต่างๆ ข้างต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงเสนอให้กระทรวงมหาดไทย ทำการศึกษาการปกครองทั้งส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับการบริหารจัดการในรูปแบบพิเศษและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางในการรองรับหากเกิดโครงการขุดคลองไทย
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการ วิสามัญ เสนอให้ ยึดหลักการพิจารณาคือ การคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ(National interest) เป็นเป้าหมายสูงสุดการศึกษาข้อมูลเบื้องต้น (Pre-Feasibility Study) ทั้งด้านธรณีวิทยา ด้านวิศวกรรมด้านสิ่งแวดล้อมด้านความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ ด้านกฎหมายและทำการศึกษา
เปรียบเทียบความเหมาะสมในทุกด้านทุกมิติอย่างละเอียดรอบคอบจะสามารถลดความเสี่ยง และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ ที่สำคัญที่สุดคือมติมหาชน ที่จะต้องได้รับรู้ข้อมูล เขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างรอบด้านและคำนึงถึงผลประโยชน์ของคนไทย และสร้างการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัด
แนวคลองไทย 9A และประชาชนทั้งประเทศเพื่อให้ความเห็นชอบในการดำเนินการขุดคลองไทย และการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ถ้ามีการศึกษาแล้ว เห็นว่ามีประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง
และนี่คือ ข้อมูลที่คณะกรรมาธิการ วิสามัญ การขุดคลองไทย ของสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำการศึกษาอย่างละเอียด และรอบด้าน ซึ่งข้อเสนอแนะ และข้อสรุป
ดังกล่าวทั้ง 10 ข้อ ขณะนี้ ได้รับการบรรจุในวาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร แล้ว ก็จริงอยู่ แต่วิปรัฐบาลยังไม่ได้หยิบยก หรือเลื่อน วาระดังกล่าวขึ้นมาอภิปราย ในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อถึงวันนั้นแล้ว ข้อเสนอ และข้อสรุปดังกล่าวที่จะส่งไปยังรัฐบาล อาจจะได้รับการพิจารณาเพิ่มเติม หรือตัดทอนลงก็อาจจะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่สภาผู้แทนราษฎร จะหยิบยกขึ้นมาอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร แนวหน้าจะบอกกล่าว ไปท่านผู้อ่านได้รับรู้กันอย่างแน่นอน
เป็นที่น่ายินดีว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ การขับเคลื่อนโครงการสร้างคลองไทยได้รับความสนใจ จากประชาชนคนไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ในขณะที่สภาวิศวกรแห่งชาติ และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้จัดเสวนา เรื่องคลองไทย เมื่อต้นปี 2563 และยืนยันว่า ทางด้านเทคนิค เทคโนโลยี รายการขุดคลองไทย กลุ่มนักธุรกิจ ชาวไทยสามารถที่จะสร้างคลองไทยได้ ด้วยความสามารถของวิศวกร และนักธุรกิจชาวไทย สอดคล้องกับขณะนี้ได้มีบริษัทภาคเอกชนกลุ่ม TRUST CITY ของคนไทย นำโดย คุณสิทธิพล เจริญขจรกุล ได้นำเสนอรูปแบบการสร้างคลองไทย ในเชิงธุรกิจแบบครบวงจร ทั้งใต้ดิน บนดิน ในทะเล ในตอนต่อไปหากมีโอกาส จะนำเอาผลการศึกษาที่วุฒิสภา ปี 2547 ได้มีมติเห็นชอบ กับโครงการสร้างคลองไทยมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี