เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา รมช.ต่างประเทศบรูไน “นายแอร์รีวัน เพฮิน ยูโซฟ์” กับเลขาฯ อาเซียน“ลิม จ๊อก ฮอย” เดินทางไปกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เป็นการเริ่มต้นการปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยแก้วิกฤตพม่า
การเยือนพม่าของทูตอาเซียนครั้งนี้พวกเขาได้พบกับรัฐบาลทหารพม่าเพียงฝ่ายเดียว มิได้พบปะเจรจากับทุกฝ่ายดังที่บัญญัติไว้ในฉันทามติของอาเซียน เพราะว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป ผู้ประท้วงเบาบางลงเพราะฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเปลี่ยนจากประท้วงบนถนน มาเป็นก่อการร้าย วางระเบิดทำลายสถานที่ราชการ โจมตีลอบสังหารข้าราชการที่สนับสนุนรัฐบาลทหาร
ผู้แทนจากอาเซียนจึงได้พบแต่รัฐบาลทหาร พบกับนายพลมิน อ่อง หล่าย ซึ่งรับปากว่าจะบริหารแจกจ่ายสิ่งของที่อาเซียนจะมอบให้เมียนมาในโครงการช่วยเหลือเพื่อนมนุษยธรรมอย่างโปร่งใส และเมียนมาพร้อมให้ความร่วมมือกับอาเซียนอย่างเต็มที่... ทีวีทางการพม่ารายงาน
“ส่วนเรื่องการโกงเลือกตั้งครั้งมโหฬารซึ่งเป็นเหตุให้ทำการยึดอำนาจ..ถ้านานาชาติจะเข้ามาตรวจสอบคณะผู้บริหารแห่งรัฐ (SAC)ก็ยินดี และจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”
นายพลมิน อ่อง หล่าย กล่าวแล้วเสริมว่า “จะจัดให้มีการเลือกตั้งและถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลพลเรือนเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ..”
ผู้แทนอาเซียนไม่ได้พบกับผู้แทนจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเนื่องจากว่าคณะรัฐมนตรีเงาและผู้แทนจากพรรคเอ็นแอลดีของนางออง ซาน ซู จี อยู่ระหว่างการหลบหนี หลังจากที่ SAC ขึ้นบัญชีรัฐบาลเอกภาพแห่งเมียนมา (NUG) เป็นองค์การก่อการร้าย ดังที่นสพ.นิกเคอิเอเชียรายงาน เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2564 เรื่อง...
..Suu Kyi’s inconvenient truth and the origins of Myanmar’s coup หรือแปลเป็นไทย ว่าความจริงที่ลำบากใจ ในบทบาทของนางออง ซาน ซู จี และที่มาของการยึดอำนาจในพม่า
นิกเคอิ เอเชียเริ่มต้นรายงานพิเศษว่า... “กลางเดือนเมษายน 2564 พวกนิยมประชาธิปไตยจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติขึ้นมา โดยมี วิน มินท์ เป็นประธานาธิบดีและนางออง ซาน ซู จี เป็นประธานที่ปรึกษาแห่งรัฐ เหมือนกับที่เคยเป็นรัฐบาลก่อนถูกยึดอำนาจ ทว่าบรรดารัฐมนตรีชุดนี้อยู่ในที่หลบซ่อนตัว
นอกจากนั้นพวกเขายังประกาศจัดตั้ง กองกำลังพิทักษ์ประชาชน PDF แต่สายการบัญชาการไม่ชัดเจนเที่ยววางระเบิดที่ตั้งทหาร โบสถ์คริสต์และอื่นๆ ผู้แทนยูเอ็นประจำพม่า คริสติน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ กล่าวว่าผู้ก่อตั้งกองกำลังป้องกันตัวเองจัดหาอาวุธมา ตามมีตามเกิด PDFเปลี่ยนจากการตั้งรับมาเป็นฝ่ายรุก ใช้อาวุธเท่าที่หาได้และใช้อาวุธร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์ (ตามที่เอพีรายงาน)
ความขัดแย้งที่ใช้อาวุธมันย้อนแย้งกับบุคลิกเดิมของนางออง ซาน ซู จี ที่ยืนยันตลอดมาว่าต้องเป็นประชาธิปไตยที่ปราศจากความรุนแรง แต่การสังหาร
เจ้าหน้าที่รัฐ ฆ่าข้าราชการและวางระเบิดสถานที่ราชการตลอดถึงทรัพย์ของราชการมีความถี่มากขึ้น
การก่อความรุนแรงที่ไม่มีสายบังคับบัญชาชัดเจนทำให้ประวัติและบทบาทของนางออง ซาน ซู จี ถูกบันทึกไว้ทั้งด้านดีและด้านร้ายในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของเมียนมา
นางออง ซาน ซู จี เดินทางกลับอังกฤษมาเยี่ยมแม่ที่กำลังป่วยในพม่าปี 1988 ท่ามกลางการประท้วงที่สับสนวุ่นวายของนศ. เธอเข้าร่วมการประท้วงก่อนการก่อตั้งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยพม่า (เอ็นแอลดี)ในฐานะลูกสาวของนายพลออง ซาน วีรบุรุษผู้กอบกู้อิสรภาพจากอังกฤษแก่พม่า เธอได้รับการยกย่องนับถือและเป็นแรงดลใจให้ฝ่ายประชาธิปไตยในพม่า
ปี 1989 เธอถูกกักบริเวณในบ้านพัก หนึ่งปีหลังจากนั้นพรรคเอ็นแอลดี ชนะเลือกตั้ง 80% ของสมาชิกรัฐสหภาพพม่า แต่รัฐบาลทหารไม่ยอมถ่ายโอนอำนาจให้ ต่อมาเธอได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 1991 และทนกักตัวอยู่ในบ้านแบบอหิงสาเป็นเวลา 15 ปี เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ประชาธิปไตยของพม่า
ปี 2010 เอ็นแอลดี บอยคอตต์ไม่ร่วมเลือกตั้งซึ่งเป็นครั้งแรกของพม่าในระยะเวลา 20 ปี ทำให้พรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) ของทหารพม่าได้ที่นั่ง80% ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง อดีตนายทหารปฏิรูปประชาธิบไตยได้เกินความคาดหมายของนาง
นางออง ซาน ซู จี จึงตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งซ่อมในปี 2012 และก็ได้เป็นสมาชิกรัฐสภา จนกระทั่งเลือกตั้งปี 2015 เอ็นแอลดีชนะ 80% และชนะในทำนองเดียวกันกับในปี 2020 แต่ถูกทหารกล่าวหาว่า โกงเลือกตั้งครั้งมโหฬารซึ่งเป็นที่มาของการยึดอำนาจ
ปี 2019 ในกรุงโตเกียว นางออง ซาน ซู จี ไม่ได้เตรียมตัวที่จะสานงานต่อหรือแสดงความสนใจที่จะทำงานร่วมกับพลังฝ่ายประชาธิปไตย ตามรูปแบบ นี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ประชาธิปไตยในพม่าชะงักงันและเป็นไปอย่างเชื่องช้า ทั้งที่ผ่านการเลือกตั้งมาสี่ครั้งในสามทศวรรษ แต่ผลคือยังวนเวียนอยู่ที่พรรคเอ็นแอลดีหรือ พรรค USDP ว่าฝ่ายไหนจะชนะขาดลอย
เหตุผลหนึ่งคือระบบเลือกตั้งหนึ่งเขตหนึ่งคน คือคนชนะกินรวบ เป็นผลให้เกิดการแพ้ชนะกันได้ง่าย ถึงแม้แพ้เลือกตั้งปี 1990 ทหารก็ร่างรัฐธรรมนูญระบบใหม่ขึ้นมาในปี 2008 ในปี 2010 เมื่อเอ็นแอลดีบอยคอตต์ USDP ก็ชนะขาด ในปี 2015 USDP ได้เพียง 28% แต่ได้ที่นั่ง 8% เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจบอกใบ้ว่าจะเปลี่ยนเป็นระบบสัดส่วน
ระบบการเลือกตั้งอย่างเดียวไม่สามารถบ่งบอกแนวโน้มได้ หากไม่มีทางเลือกที่สามในปัจจุบัน “โครงสร้างที่ไม่อำนวยต่อการพัฒนาพม่าคือในส่วนที่เป็นสังคมอนุรักษ์นิยมของพม่า ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทหารหรือฝ่ายที่อุทิศตนเพื่อประชาธิปไตยทั้งสองฝ่ายมิได้เป็นพลังผลักดันประชาธิปไตย” ศาสตราจารย์โยชิอิโร นาคานิจิ แห่งม.โตเกียวกล่าว
พรรคที่เสนอทางเลือกที่สามเกิดขึ้น รวมทั้งพรรคพลังประชาธิปไตยแห่งชาติ national democratic party ซึ่งแยกตัวออกจากพรรคเอ็นแอลดีเมื่อปี 2010 ซึ่งส่งสมาชิกลงสมัครแข่งขัน พรรคเพื่อประชาชน people’s party ของนายโกโกยี ซึ่งก่อตั้งในปี 2018 และพรรค people PioneerForce หรือพรรคพลังประชาชนบุกเบิก ซึ่งก่อตั้งโดยนักธุรกิจ เทต เตท ไคน์ ซึ่งแยกตัวออกมาจากพรรคเอ็นแอลดีแต่ทั้งสามพรรคไม่ชนะในการเลือกตั้งปี 2020 เลย
ความคิดของประชาชนยังฝังใจอยู่ที่เลือกพรรคไหนที่ชนะขาดแล้วได้บริหารประเทศบรรลุเป้าหมาย เทคะแนนให้พรรคใหญ่ไปเลย นายโม ตูซาร์ นัดซิ ชาดาร์ จากสถาบันฮิสอาคของ สิงคโปร์กล่าว
ปัจจัยอยู่เบื้องหลังคือ ซู จี ความโลเลของ นางซู จีที่ไม่ได้ร่วมส่งผู้สมัครในการเลือกตั้งปี 2010 เพราะเธออยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ในบ้าน อย่างไรก็ตาม เธอยังมีสิทธิ์ส่งผู้สมัครคนอื่นลงแข่งขันได้ แต่นางไม่ยอมส่งใครลงสมัคร พรรคพลังประชาธิปไตยแห่งชาติ ซึ่งในเวลานั้นเป็นส่วนหนึ่งของเอ็นแอลดี เถียงว่าพรรคการเมืองต้องส่งคนลงสมัครเลือกตั้ง
แต่นางออง ซาน ซู จี แทนที่จะสนับสนุนกลับเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนของนางงดออกเสียง นายโกโกยี ต้องการลงสมัครในนามพรรคเอ็นแอลดีในปี 2015 แต่นางไม่อนุญาต นายเทต เทต ไคน์ ลาออกจากพรรคเอ็นแอลดี หลังจากวิจารณ์นางซู จี ว่าทำตามอำเภอใจโดยไม่สนในรัฐธรรมนูญ
รธน.พม่า บัญญัติว่าถ้าไม่ส่งผู้สมัครเลยจะถูกยุบพรรค แต่อย่างไรก็ตาม พรรคที่ถูกยุบไปแล้วสามารถจดทะเบียนตั้งใหม่ได้ในชื่อเดิม
โกโกยี ผู้นำนักศึกษาประท้วงปี 1988 พูดในย่างกุ้งว่าเขาผิดหวังในตัวนางออง ซาน ซู จี มาก (รอยเตอร์รายงาน)นางซู จี ไม่ได้นึกถึงผลสำเร็จและไม่สนใจร่วมงานกับพลังประชาธิปไตย เธอตั้งตัวเป็นศูนย์กลางอำนาจและช่วยให้พรรคเอ็นแอลดีชนะเท่านั้น แต่นั่นแหละการชนะแบบถล่มทลายทำให้เกิดความตึงเครียดเกิดวิกฤตในกองทัพ นำไปสู่การปฏิวัติ
สาเหตุการปฏิวัติยังเป็นปริศนาคาใจคนส่วนใหญ่ว่า ทำไมนางซู จี ถึงปฏิเสธไม่ยอมให้ทหารได้ตรวจสอบข้อหาโกงเลือกตั้ง ในการเจรจาต่อรองกันถึงหกครั้งนางไม่ยอมให้ตรวจสอบ ก่อนปฏิวัติสี่วัน ทหารแจ้งว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวคณะกรรมการเลือกตั้ง และการตรวจสอบการเลือกตั้งที่ผิดปกติ ทำให้การเปิดประชุมสภาล่าช้าออกไปอีก เอ็นแอลดี ปฏิเสธทั้งสองอย่าง
มีทางอธิบายที่เป็นตรรกะอยู่ 2 ทางคือเอ็นแอลดีมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และพวกเขาคิดว่าต้องมีปัญหาใหญ่ตามมาถ้าปล่อยให้มีการตรวจสอบเกิดขึ้น แต่ที่แน่ๆ คือต้องมีการยึดอำนาจทันทีหลังจากที่เอ็นแอลดี ไม่ให้ตรวจสอบ #และพวกเขาเปิดเกมส์รุกก่อนโดยการเรียกร้องให้ประชาชนต่อต้านทหาร ในคืนวันที่ 28 ม.ค. นางซู จีได้ทำลายเครื่องโทรศัพท์ของเธอ# (รอยเตอร์รายงานอ้างจากคนใกล้ชิด)
นางออง ซาน ซู จี มีความลับอะไรอยู่โทรศัพท์ถึงได้ทำลาย ทำไมนางออง ซาน ซู จี ไม่หลีกเลี่ยงการยึดอำนาจ ทั้งๆ ที่เธอรู้อยู่เต็มอกว่าต้องเกิดขึ้น นางต้องรู้ถึงอันตรายที่ปฏิเสธทหารหกครั้ง
#ทหารไม่มีความชอบธรรมที่ยึดอำนาจล้มล้างรัฐบาลจากการเลือกตั้งและปราบปรามประชาชน แต่นางซู จี ก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบต่อภาวะการปัจจุบันซึ่งรวมถึงการตายของประชาชนกว่า 800 คน#
โกโกยี เริ่มก่อตั้งพรรคของตัวเองหลังจากถูกปฏิเสธโดยเอ็นแอลดี เขาต้องทนทุกข์อยู่ในคุก 19 ปีระหว่างที่รัฐบาลทหารครองเมือง โยไฮ่ ซาซากาวา ประธาน
มูลนิธินิบปอนและเป็นตัวแทนรัฐบาลญี่ปุ่นในโครงการปรองดองแห่งชาติพม่า มีความเห็นตรงกับโกโกยี เมื่อเขามาเยือนญี่ปุ่นในปี 2017
โกโกยี บอกซาซากาวา นางออง ซาน ซู จี พูดว่า“คนรุ่น 88 เป็นผู้หักร้างถางพงทำให้ป่าไม้โล่งเตียน ภาระหน้าที่ของพวกเขาหมดไปแล้ว ฉันจะเดินตามรอยเท้าที่คนรุ่น 88 กรุยทางไว้และจะปัดกวาดพื้นที่ให้สะอาดต่อไป..”
บทบาทของนางออง ซาน ซู จี ในฐานะผู้นำกระบวนการประชาธิปไตย อาจมาถึงจุดจบและพรรคเอ็นแอลดี มิได้เป็นผู้เล่นเพียงกลุ่มเดียวที่ทำให้สหภาพพม่าพัฒนาประชาธิปไตยให้ก้าวหน้า
ขบวนการผลักดันประชาธิปไตย มิได้ขึ้นอยู่กับบุคลิกผู้นำที่น่าชื่นชมอีกต่อไป ถ้าพวกเขาไม่คิดถึงความเปลี่ยนแปลงในบางอย่าง ผู้สนับสนุนประชาธิปไตยจะไปไม่ถึงเป้าหมายที่หวังไว้
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี