“ม็อบ” วัยกระเตาะที่กำลังออกมาก่อความวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ก่อนหน้ามีการรวมตัวกันมาแล้วอาละวาดอย่างหนัก นายตำรวจที่ร่วมมือกันหยุดการเคลื่อนไหว “ม็อบ” ที่ผ่านมาได้มีนายตำรวจที่มีฝีมือในการสกัดกั้นม็อบได้คือ พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ท่านเฝ้าอยู่กับ “ม็อบ” ทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้บรรดาม็อบจำหน้าท่านได้ท่านคลุกคลีกับการสกัดม็อบ ไม่ให้เข้าไปในสถานที่สำคัญและเจรจากับผู้นำม็อบให้พวกกลุ่มม็อบเดินทางกลับได้หลายครั้งขณะนี้ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็น “ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3” ควบคุมดูแล 8 จังหวัดทางภาคอีสาน มีจังหวัด สุรินทร์ นครราชสีมาบุรีรัมย์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และจังหวัดยโสธร... แต่ละจังหวัดการปกครองยุ่งยากพอสมควรแต่ด้วยประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ท่านมีความสามารถมาก ประกอบกับท่านเคยเป็นนายเวร “พล.ต.อ.สมชาย มิลินทางกูร” อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ มาก่อนและท่านเคยดูแลงานตำรวจทางหลวงมาด้วย ทำให้ท่านสามารถดูแลทุกจังหวัดในภาค 3 ได้ดี ประกอบกับท่านเป็นนายตำรวจที่ผ่านประสบการณ์มามากทั้งบู๊และบุ๋น สามารถที่จะเข้าไปพัฒนาปรับปรุงทั้ง 8 จังหวัดให้มีความทันสมัยและเจริญรุ่งเรืองมากกว่าที่เป็นอยู่ เนื่องจากท่านเคยเป็นนายเวรมาก่อนทำให้ท่านคล่องตัวในการดูแล 8 จังหวัดได้เป็นอย่างดี
ขณะนี้กองบัญชาการต่างๆ ใน “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” มีปัญหามากขึ้นเนื่องมาจากบรรดาลูกหลานของอดีตนายตำรวจที่เข้ามาเป็นตำรวจด้วยการใช้บารมีของบิดาที่เคยอยู่ในตำแหน่งที่ให้คุณให้โทษกับตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานต่างๆ นายตำรวจกลุ่มนี้มักจะใช้อำนาจนำบุตรชายบ้าง บุตรหญิงบ้างเข้ามาบรรจุเป็นตำรวจภายในโดยไม่ต้องผ่านการสอบการคัดเลือกและบรรจุในหน่วยงานสำคัญ ทำงานไม่ได้สั่งงานไม่เป็นไม่มีระเบียบวินัยในการเป็นตำรวจ หลายหน่วยงานที่ลูกอดีตนายตำรวจเข้ามาดำรงตำแหน่งไม่กี่ปีก็ได้ตำแหน่ง “พล.ต.ต.” โดยไม่ต้องสอบแข่งขันไม่ต้องแย่งชิงกับใคร และยังได้เงินพิเศษอีก บางหน่วยงานสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชามาตั้งแต่ไก่โห่และเลิกงาน 5 โมงเย็น ตามเวลาราชการ ถ้าใครฝ่าฝืนจะต้องถูกลงโทษ แต่เจ้าตัวคนสั่งมาทำงาน3 โมงเย็นกลับเวลา 5 โมงเย็น แต่ลงในสมุดทำงานส่วนกลางเช้ามาทำงาน 8 โมงเช้า กลับ 5 โมงเย็น เป็นผู้บังคับบัญชากวดขันผู้ใต้บังคับบัญชาให้ตรงต่อเวลา แต่ผู้บังคับบัญชาลงเวลาโกงประมาณ 8 ถึง 9 ชั่วโมง ซึ่งไม่ควรประพฤติตนเช่นนี้แม้ว่านายตำรวจคนนั้นจะเป็นลูกอดีตนายตำรวจที่เคยเป็นผู้บริหาร“กรมตำรวจ” ในอดีตมาแล้วยิ่งไม่ควรปฏิบัติเช่นนี้ ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรุณาตรวจสอบและลงโทษตามกฎระเบียบของสตช.เพื่อไม่ให้กฎระเบียบของ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” (สตช.) ที่กำหนดขึ้นมาไร้ความหมาย การกระทำเช่นนี้เสียชื่อ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” อย่างมาก...สวัสดีครับ....
เกลือสมุทร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี