ผลการเลือกตั้งอบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) ปรากฏออกมาแล้ว สาธารณชนได้รับรู้แล้วว่าพรรคการเมืองใหญ่ และพรรคการเมืองเล็กได้ที่นั่งอบต. ไปพรรคละกี่มากกี่น้อย ซึ่งจำนวนอบต. ที่ปรากฏนั้นคือตัวชี้วัดอนาคตการเลือกตั้งสส. (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร) ที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
ส่วนประเด็นสำคัญอีกเรื่องที่สาธารณชนเฝ้าจับตามองคือ ยิ่งใกล้จะถึงวันเลือกตั้งสส. ก็ยิ่งปรากฏข่าวนักการเมืองย้ายพรรค แต่บางคนเรียกว่านักการเมืองขายตัว ส่วนนักการเมืองก็อ้างว่าไม่ได้ขายตัว แต่ต้องไปอยู่กับพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์การเมืองไปด้วยกันได้ แต่ก็น่าประหลาดใจที่นักการเมืองจำนวนไม่น้อยย้ายพรรคไปมาจนจำไม่ได้แล้วว่าอยู่กับพรรคใดมาก่อนบ้าง
การย้ายพรรคของนักการเมือง เป็นการตัดสินใจย้ายเพราะอุดมการณ์การเมืองจริงแท้แน่หรือ หรือว่าย้ายไปย้ายมาเพราะมีผลประโยชน์ด้านเงินทองเป็นปัจจัยสำคัญ พรรคไหนให้ขอเสนอด้านเงินทองที่ดีกว่า ถูกใจกว่าก็ย้ายไปพรรคการเมืองนั้น ใช่หรือไม่
มีคำบอกเล่าจากนักการเมืองบางคนว่า มีข้อเสนอให้ย้ายพรรค โดยมีการสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ค่าตอบแทนนั้นมีทั้งเงินเดือนก้อนงาม และยังมีเงินพิเศษนอกจากเงินเดือนอีกด้วย ซึ่งบางคนบอกว่าเป็นเงินขวัญถุงเป็นสินน้ำใจแลกเปลี่ยนกับการย้ายพรรค ส่วนสินน้ำใจที่ว่านั้นจะมีมูลค่าเป็นหลักร้อยล้านบาท (ข่าวเล่าว่า 100-200 ล้านบาท)สำหรับนักการเมืองที่ลงเลือกตั้งเมื่อไรก็สามารถชนะการเลือกตั้งได้ทุกเวลา นักการเมืองจำพวกที่มีค่าตัวเป็นหลัก 100-200 ล้านบาทนั้น คือดาราเกรดเอทางการเมือง ซึ่งพรรคการเมืองต่างๆ ก็หมายปอง เพราะลงแข่งขันแล้วไม่เสียเงินฟรี เนื่องจากผูกขาดชัยชนะมาเกือบตลอดเวลา
มีข่าวจากวงการนักการเมืองเล่าสู่กันฟังอีกว่าพรรคใหญ่บางพรรคใจใหญ่มาก ถึงกับบอกกับสส. ของพรรคคู่แข่งว่า ยังไม่จำเป็นต้องย้ายพรรคในบัดนี้ แต่ขอให้เทใจให้กับพรรคที่ยอมจ่ายเงินให้ก็พอแล้ว เรียกง่ายๆ คือ ตัวอยู่กับพรรคการเมืองคู่แข่งไปก่อน แต่ขอให้ใจอยู่กับพรรคที่จ่ายเงินให้ก็พอแล้ว ส่วนอนาคตค่อยว่ากันใหม่ โดยเฉพาะในช่วงโหวตลงคะแนนประเด็นสำคัญๆ ในสภา ก็ขอให้โหวตสนับสนุนพรรคที่จ่ายเงินให้ โดยไม่ต้องสนใจกับมติของพรรคที่ตนเองสังกัด
พูดเพียงเท่านั้น คอการเมืองไทยก็คงรู้ซึ้งอยู่แก่ใจแล้วว่าพรรคไหนยอมจ่ายแพงเพื่อหวังดึงตัวสส. จำพวกดาราดาวเด่นให้เข้ามาอยู่กับพรรคของตัวเอง ส่วนบางคนจะเข้าใจเอาเองด้วยประสบการณ์การเมืองว่า พรรคหนึ่งมีสีน้ำเงิน ส่วนอีกพรรคหนึ่งมีสีแดง ก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะเป็นความเข้าใจส่วนบุคคลอันเกิดมาจากประสบการณ์ตรงที่ได้รับรู้มาโดยตลอด
นักการเมืองบางรายเล่นการเมืองมานานแล้ว และรู้ตัวดีว่าอายุมากแล้ว ไม่รู้จะตายวันตายพรุ่ง เมื่อได้รับข้อเสนองดงามเช่นนี้ ก็จึงไม่ลังเลที่จะตอบรับคำเสนอ เพราะอย่างน้อยๆ ก็มีเงินก้อนโตไว้ใช้ปรนเปรอชีวิตช่วงบั้นปลายของตัวเองได้อีกก้อนหนึ่ง
ไม่ใช่เรื่องแปลกพิสดารอันใดที่นักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อยจะหลงใหลได้ปลื้มกับอำนาจเงินตรา เพราะคนจำพวกนี้เล่นการเมืองก็เพราะต้องการอำนาจและเงินตรามาโดยตลอด ส่วนคำว่าอุดมการณ์การเมืองนั้นเป็นเพียงแค่คำลวงโลกเท่านั้น แต่คำลวงโลกที่ว่านั้นก็สามารถลวงให้คนจำนวนไม่น้อยหลงเชื่อได้ แต่การหลงเชื่อคำลวงนั้นก็มาพร้อมกับการจ่ายเงินเพื่อซื้อสิทธิ์ขายเสียงตลอดเวลา หลายคนจึงรู้ดีว่าเงินไม่มา กาไม่เป็น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี