“หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏในสไตล์ “บุคคลแนวหน้า”สงครามการเลือกตั้ง แม้จะเป็นเวทีย่อยๆ ในเขตเลือกตั้งที่ 9 กรุงเทพมหานคร (เขตหลักสี่และเขตจตุจักรบางส่วน)ระเบิดขึ้นอย่างตั้งใจหรือไม่ คงยากคาดเดา เพราะพฤติกรรมการหาเสียงวิธี “เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้เพื่อน” อย่างไร้มารยาทเป็นลักษณะปกติของนักการเมืองไทยไม่ว่าจะยุคสมัยไหน เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “ไม้หน้าสาม” สะดุดตาข้อความในทวิตเตอร์ของ “บิ๊กอ้วน – ภูมิธรรม เวชยชัย” ติ่งสำคัญของ “ทักษิณ ชินวัตร” และอดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยุคที่มีคนชื่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”นำทัพกับนโยบาย “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” นำความหายนะมาสู่อุตสาหกรรมข้าวไทยอย่างหนัก ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ คล้ายกับว่าต้องการสื่อสารถึงใครคนใดคนหนึ่งและกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งว่า “นั่นสิ ! ควรระวังเรื่อง “มารยาททางการเมือง” ที่สมควรด้วยนะ หลังที่แชร์ทวีตข้อความของ “Yingyot Kansorn”ที่ทวีตข้อความตอบโต้ “รังสิมันต์ โรม รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล” ที่ทวีตข้อความกระแหนะกระแหนโพสต์แซะ “ผิดหวังพรรคเพื่อไทย ไม่ถูกใครหลอกใช้ เดินหน้าต้านคสช.”ว่า “อยู่ก้าวไกล ผิดหวัง “เพื่อไทย” อาการหนักน่ะเรา ... อะไรของยู? ก้าวไกลกับเพื่อไทยจะอย่างไรก็คือ “มิตร” จะวิจารณ์จะอะไรก็ควรมีเส้นแบ่ง เรื่องของเพื่อไทย คนจะผิดหวังก็ควรเป็นคนเพื่อไทย คนที่เลือกพรรคเพื่อไทย คนก้าวไกลจะมาผิดหวังอะไรกับเพื่อไทย คนละพรรค ควรหรือที่มาก้าวก่ายเรื่องของพรรคอื่น เป็นฝ่ายค้านก็ไปด่ารัฐบาลโน่นด่ากันเองมีประโยชน์อะไร” “ไม้หน้าสาม”บอกตรงนี้จะได้เข้าใจชัด “สาวไส้ให้กากิน” !!! มันส์ดีออก...
nn จะคาดหวังอะไรมากกับคำว่ามิตรจากพรรคก้าวไกล บทบาทนี้ถือว่าธรรมดาอย่างสร้างสรรค์ยิ่งนัก ย้อนไปเมื่อก่อนการศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกรณี “นิติกรรมอำพรางเงินกู้สู้ศึกเลือกตั้ง”ที่ทำให้ “พรรคอนาคตใหม่” หมดอนาคตสิ้นวาสนาตามมาตรา 92 วรรคสองให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากกระทำความผิดตาม มาตรา 72 ของพ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 “ไม้หน้าสาม”เขียนให้ย้อนอ่านคำให้การของ “เจ๊กทอน – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในขณะนั้น ที่ให้ต่อหน้าบัลลังก์ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคดีถือหุ้นสื่อบริษัท วี ลัค มีเดีย ก่อนการลงสมัครรับเลือกตั้งเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งอย่างน่าทึ่งน่าศึกษาน่าเคารพน่าสนใจ เขาบอกว่า... “ผมตั้งใจอย่างจริงจังว่าอยากจะทำงานการเมืองโดยไม่มีข้อผลประโยชน์เหมือนที่คุณทักษิณโดนมาก่อน เพราะผมไม่ได้ตั้งใจมานั่งที่นี่เพื่อทำอย่างนี้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ผมอยากจะผลักดันประเทศชาติให้ไปข้างหน้า ให้หลุดจากความขัดแย้ง ให้กลับมาเป็นประชาธิปไตย ให้มีนิติรัฐ นิติธรรมในประเทศนี้” ฤๅสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยลืมกันไปแล้วลืมอาการ “เหยียบหัวเพื่อน เพียงเพราะผลประโยชน์” จนมาถามหามารยาททางการเมืองในปัจจุบันนี้...น่าสมเพช !?!? ยิ่งนัก...
nn ที่น่าสมเพชกว่าคือการดำเนินการตามกระบวนยุติธรรมที่ยังไม่สิ้นสุดแต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดใด ทั้งทางแพ่งและอาญา ไม่ใช่แค่ประเด็นที่กล่าวมาข้างต้น แต่ต้องถามกันให้ชัด “คดีติดสินบนเจ้าพนักงาน 20 ล้านบาททุจริตที่ดินทรัพย์สินฯ” ที่อยู่ในความดูแลของบก.ป. ซึ่งผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 จนถึงวันนี้ใช้เวลากว่า 1 ปีแต่คดีนี้กลับไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้มีคำพิพากษาจำคุก “ประสิทธิ์ อภัยพลชาญ” อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และ สุรกิจ ตั้งวิทูวณิช พนักงานบริษัทเอกชน สองผู้ต้องหารับเงินสินบนเพื่อจัดหาที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินฯ ให้กับนายสกุลธร โดยทั้งคู่ได้ให้การเป็นประโยชน์ ประกอบกับพนักงานสอบสวนมีคำพิพากษาซึ่งระบุชัดเจนว่า สกุลธรน้องเจ๊กทอน จ่ายเงินสินบนจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อต้องการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ย่านชิดลม ซึ่งปัจจุบันจำเลยทั้งสองได้ออกจากเรือนจำมาแล้ว แต่ผู้จ้างวานร่วมกระทำความผิดกลับยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมแต่อย่างใดมีเพียงรับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น ซึ่งเป็นความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ “เจ๊กธนาธร” ต่อสู้เรียกร้องสังคมไทยมาโดยตลอด..
.nn ยังไม่รวมข้อกล่าวหาคดี“เรือยอร์ชของเจ๊กธนาทรที่แจ้งจดที่เกาะคุก ซึ่งเป็นเกาะฟอกเงิน เขตปกครองตนเองของประเทศนิวซีแลนด์" แต่ไม่มีในรายการทรัพย์สินที่แจ้งต่อป.ป.ช.ในขณะเข้ารับตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย หรืออย่างกรณี “เจ๊กทอน, แม่สมพร และพี่ชนาพรรณ” ถือครองที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบกว่า 77 แปลง รวม 3,098 ไร่ เรื่องเหล่านี้ต้องมีเหตุและผลของความล่าช้า ไม่มีคนไทยคนไหนอยู่เหนือกฎหมายความเหลื่อมล้ำจะไม่เกิดขึ้นหากปฏิบัติต่อทุกคนภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกันอย่างเท่าเทียมกัน นี่หรือ“นักการเมือง” ที่สำรอกต่อหน้าบัลลังก์ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า “ผมตั้งใจอย่างจริงจังว่า อยากจะทำงานการเมืองโดยไม่มีข้อผลประโยชน์เหมือนอย่างคุณทักษิณโดนมาก่อน แต่อยากเข้ามาผลักดันประเทศชาติใหเดินไปข้างหน้า ให้หลุดจากความขัดแย้ง ให้กลับมาเป็นประชาธิปไตย ให้มีนิติรัฐนิติธรรมในประเทศนี้”... อย่าเชื่อ “ไม้หน้าสาม”เพียงเพราะอ่านข้อความเหล่านี้ ลองกลับไปตรวจสอบข่าวสารที่เผยแพร่ทางสื่อหลักทุกแขนงแล้วจะทราบคำตอบว่า “เจ๊กทอน” ได้ดำเนินการทุกอย่างโดยบริสุทธิ์ยุติธรรมไร้ซึ่งความเหลื่อมล้ำหรือไม่ แม้กระทั่งการเข้ารับ “วัคซีนบูสเตอร์โดส”... เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”สินะ “โตเป็นกระบือ!!แล้วตั้งสติพิจารณาตริตรองเถิด”...
nn ปี่กลองการเมืองเชิดโหมโรงวินาทีนี้ เจ็บปวดสุดคงไม่พ้น “ทหารแก่, พรรคพลังประชารัฐ, พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย”ที่ยังสุมหัวเป็นรัฐบาลมาเกือบตลอดวาระ เลยถูกฝ่ายตรงข้ามบดบี้ทุกเรื่องแบบเลือดสาดให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งขยี้ขยายประเด็นให้หมดสภาพ “ชนาภา สินธุไพร” รองโฆษกพรรคเพื่อไทยสบช่องฉวยโอกาสขยี้ฝ่ายตรงข้ามว่า “ยุคข้าวยากหมากแพง ค่าครองชีพสวนทางค่าแรงของแพงทั้งแผ่นดิน เพื่อไทยสับยุคนี้ยุค “ของแพงค่าแรงถูก คนไทยเจอวิกฤตซ้อนวิกฤต สัญญาณอันตรายเกี่ยวกับปากท้องของคนไทยได้เริ่มขึ้นแล้วในทุกมิติ ของแพงทั้งแผ่นดิน แต่ค่าแรงราคาถูก ที่สำคัญ“ทหารแก่ – พลเอกประยุทธ์” สั่งให้เวิร์ก ฟรอม โฮมทุกวัน นอนหลับสบายได้ทุกคืน”หล่อนบอกงง!?!?! ใครอยู่ใกล้นางช่วยอธิบายให้ประเทืองปัญญาด้วยเถิด ทำไมต้อง “เวิร์ก ฟรอม โฮม”...
nn ทิ้งท้ายกับเรื่องน่าเศร้ากรณีการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของเพื่อนและครอบครัว ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ “คุณแม่ทองเปลว เตียววณิชกุล มารดาของ พันตำรวจเอก ณัชชัชพงศ์ ศศลักษณานนท์อดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี,เพื่อนคณะเรา อำนวยศิลป์รุ่นลูกป๋า 52” ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา สิริิอายุ 83 ปี ตั้งศพสวดอภิธรรมที่วัดโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี จนถึงวันที่ 16 มกราคม 2565 เวลา 19.00 น. วันจันทร์ที่17 มกราคม 2565 ออกศพไปสุสานเม่งจิน ตำบลบ้านเลือกอำเภอโพธาราม และทำพิธีบรรจุศพ...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี