รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกโจมตีมาโดยตลอด ด้วยการปล่อยข่าวเท็จว่าจะเลิกบัตรทอง เลิกโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า
แต่ในความเป็นจริง กลับเป็นรัฐบาลพลเอกประยุทธ์นี่เอง ที่เพิ่มงบประมาณให้กับกองทุนประกันสุขภาพถ้วนหน้าทุกปี ย้ำ ทุกปี
เพิ่มงบเหมาจ่ายรายหัวทุกปี
เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับประชาชนในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า(บัตรทอง) ทุกๆ ปีอีกเหมือนกัน
น่าแปลกใจ คนบางกลุ่มก็ยังคงพยายามบิดเบือนให้ร้ายด้วยความเท็จต่อไป เพื่อให้เกิดความสับสน เกลียดชัง ต่อต้าน เพียงเพราะพวกตัวเองอยากจะกลับมามีอำนาจบ้าง
1. ล่าสุด ครม.อนุมัติกรอบงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ประจำปีงบประมาณ 2566 วงเงินรวม 209,044 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2565 จำนวน 10,152 ล้านบาท
งบเหมาจ่ายรายหัว 3,385.98 บาทต่อประชากร เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว
2. งบประมาณสำหรับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ภายในวงเงิน 204,140 ล้านบาท ประกอบด้วย
2.1 ค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว 161,602 ล้านบาท (อัตราเหมาจ่ายรายหัว 3,385.98 บาท) เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 2.09
2.2 ค่าบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ 3,978 ล้านบาทแบ่งเป็น ค่าบริการรักษาฯ 3,402 ล้านบาท ค่าบริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี 575 ล้านบาท
2.3 ค่าบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 9,952 ล้านบาท
2.4 ค่าบริการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรัง 1,071 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าบริการเพื่อควบคุมป้องกันและรักษาผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง 997 ล้านบาท ค่าบริการผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังในชุมชน 73 ล้านบาท
2.5 ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 1,490 ล้านบาท
2.6. ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน 1,265 ล้านบาท
2.7. ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับการบริการระดับปฐมภูมิที่มีแพทย์ประจำครอบครัว (ทีม PHC) 188 ล้านบาท
2.8 ค่าบริการสาธารณสุขร่วมกับ อปท. 2,772 ล้านบาท
2.9 เงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้รับบริการและผู้ให้บริการ 437 ล้านบาท
2.10 ค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 21,381 ล้านบาท
3. ที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง คือ การเดินหน้าให้ประชาชนสามารถฟอกไตฟรี ได้ทุกวิธีการ
มีรายงานข่าวว่า รองนายกฯ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รายงานในที่ประชุม ครม. ยืนยันว่า ตั้งแต่ 1 ก.พ. นี้ เริ่มเดินหน้าโครงการให้สิทธิผู้ป่วยโรคไตที่ใช้สิทธิบัตรทองเลือกฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมฟรีทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม หรือการล้างไตผ่านทางช่องท้อง โดยตัดสินใจร่วมกันกับแพทย์ ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว เป็นการเพื่อลดภาระประชาชน เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ป่วยไตในระบบบัตรทองอยู่ 63,694 คน ทั่วประเทศไทย ซึ่งเดิมตามขั้นตอนการรักษาจะเริ่มการรักษาด้วยการล้างไตทางช่องท้องเป็นทางเลือกแรก แต่หากสภาพร่างกายไม่พร้อม เข้าเงื่อนไขตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด สามารถเข้ารับการฟอกเลือดผ่านเครื่องไตเทียมได้ตามสิทธิประโยชน์
ปรากฏว่า ที่ผ่านมาก็มีผู้ป่วยจํานวนกว่า 6,500 คน ที่ไม่เข้าเงื่อนไขแต่ต้องการใช้วิธีบำบัดทดแทนได้ด้วยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมต้องชําระค่าใช้จ่ายเองครั้งละ 1,500 บาท ซึ่งนับเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ถึงขั้นสุ่มเสี่ยงต่อภาวะล้มละลายจากการรักษาพยาบาล
ดังนั้น รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข จึงเข้ามาแก้ปัญหาด้วยนโยบายให้ผู้ป่วยมีสิทธิเลือกวิธีการบำบัดทดแทนไตได้ ไม่ว่าจะเป็นการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมหรือการล้างไตผ่านทางช่องท้อง โดยตัดสินใจร่วมกันกับแพทย์ โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลเครือข่ายกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความพร้อมกว่า 663 แห่งทั่วประเทศ
4. เบื้องลึกเบื้องหลัง
นายศุภชัย ใจสมุทร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊คSuphachai Jaismut เปิดเผยว่า “บัตรทอง ฟอกไตฟรี” พูดแล้วทำ พรรคภูมิใจไทย ระบุบางตอนว่า
“...ฟอกไตฟรี สิทธิ์บัตรทอง
ทำได้จริง พูดแล้วทำ
นโยบายนี้ จะทำให้ผู้ป่วยโรคไต ที่ต้องรับบริการฟอกเลือด ไม่ต้องอยู่ในภาวะเสี่ยงล้มละลาย เพราะการรักษาพยาบาลอีกต่อไป
จากเดิม แม้จะมีสิทธิ์บัตรทอง แต่หากเลือกฟอกไต ทั้งที่สามารถเข้ารับการล้างไตได้ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1.5 พันบาท/ครั้งสัปดาห์หนึ่ง ต้องเข้ารับการรักษา 2-3 ครั้ง เดือนหนึ่งมี 4 สัปดาห์เฉพาะค่ารักษาต่อเดือนจึงสูงถึง 2 หมื่นบาท ไม่นับค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายจิปาถะ นี่คือความทุกข์ยากของผู้ป่วยฟอกไตสิทธิ์บัตรทอง ที่คนทั่วไปอาจไม่เคยรู้
แต่ท่านอนุทิน เข้าใจปัญหานี้ดี หาทางแก้ไข และเดินหน้านโยบาย “สิทธิ์บัตรทอง ฟอกไตฟรี” ในที่สุด เสียงสะท้อนที่ออกมาจากผู้ป่วย คือ ความยินดี เมื่อเขาไปถึงสถานพยาบาล กำเงินไปแล้ว แต่ไม่ต้องจ่าย เพราะได้รับประโยชน์จากสิทธิ์ใหม่ที่เกิดขึ้น
เป็นสิทธิ์ เพื่อให้คนไทยได้รับการบริการด้านสุขภาพที่ดีขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เป็นสิทธิ์ ที่เกิดหลังจากคนชื่ออนุทิน พูดไว้กับผู้ป่วยที่ จ.นครพนม ว่าจะแก้ปัญหาให้ และทำได้แล้ว ทำเพื่อผู้ป่วยทั้งประเทศ
ที่สำคัญนโยบายนี้ จะเป็นนโยบายยั่งยืน ปัจจุบัน สถานพยาบาลในเครือ สปสช. หลายแห่งกำลังทยอยปรับการให้บริการเพื่อให้สอดรับกับนโยบายนี้ เพราะคงจะมีคนเปลี่ยนวิธีรักษาพยาบาล จากล้างไต เป็นฟอกไต เพิ่มขึ้นผมอ่านความเห็นของผู้ป่วยฟอกไตบัตรทอง ที่วันนี้ได้ปลดพันธนาการเรื่องค่ารักษาพยาบาล เป็นความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความยินดี”
ขออนุโมทนาด้วย สำหรับความตั้งใจทำเพื่อประชาชนในครั้งนี้
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี