ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นคือปัญหาระดับชาติ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการพัฒนาประเทศไทย ไม่ว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือรัฐประหาร ก็ยังไม่สามารถสะสางปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ดังปรากฏว่าจำนวนคดีทุจริตคอร์รัปชั่นทั้งเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์การใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางมิชอบด้วยกฎหมายมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีบรรดานักการเมือง ข้าราชการระดับสูงซึ่งกระทำผิดถูกศาลพิพากษาให้จำคุกมากมายหลายคดี ว่ากันว่า ตั้งแต่ยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 หากบ้านเมืองมีผู้บริหารประเทศที่ซื่อสัตย์สุจริต ถนนทุกสายในประเทศไทย คงมีงบประมาณมากพอที่จะให้ใช้ทองคำเทพื้นถนน
ต้องเข้าใจบริบทและนิยามตามพจนานุกรมของคำว่า โกง,ทุจริต, คอร์รัปชั่น และวงจรอุบาทว์ก่อนว่า โกง หมายความถึง การใช้อุบาย หรือเล่ห์เหลี่ยมหลอกเพื่อเอาเปรียบ หรือเอาผลประโยชน์มาเป็นของตน ส่วนคำว่า “ทุจริต” หมายถึง ความประพฤติชั่ว โกง คดโกง ฉ้อโกง คำว่า “คอร์รัปชั่น” หมายถึง ทุจริต, ไม่ซื่อสัตย์,ฉ้อราษฎร์บังหลวง ฯลฯ ขณะที่ “วงจรอุบาทว์” หมายถึง การสมรู้ร่วมคิดระหว่างข้าราชการประจำกับฝ่ายการเมือง เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเงินงบประมาณแผ่นดิน การเรียกรับผลประโยชน์จากภาคเอกชนเพื่อให้มาซึ่งงานกลายเป็นทำเนียมปฏิบัติ ถ้าผู้ประกอบการรายใดไม่ก้มหัวให้กับขบวนการฉ้อราษฎร์บังหลวง ก็ไม่อาจทำธุรกิจการค้าให้เจริญก้าวหน้าได้ การเข้าสู่อำนาจของฝ่ายการเมือง “เงิน” ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการชี้ชัดชัยชนะ “การเลือกตั้ง” วังวนทุจริตคอร์รัปชั่นจึงเบ่งบานท้าทายกฎหมายบ้านเมือง คุณธรรม จริยธรรม หลักธรรมาภิบาลกลายเป็นวลีโก้หรูที่ไม่มีการยึดถือปฏิบัติอย่างจริงและจริงใจ
การเมืองไทยหลังยุค “ป๋าเปรม-พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กระโดดลงจากหลังเสือหลังจากบริหารประเทศมายาวนานเกือบ 1 ทศวรรษ (ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2523-4 เมษายน 2531) สังคมไทยต้องทนทุกข์ทรมานกับ“นักการเมืองเจ้าเล่ห์ทั้งระบบ “บุฟเฟ่ต์คาร์บิเนต” ในยุคสมัย “พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ” ซึ่งว่ากันว่าเป็นยุคทองที่สุดของเศรษฐกิจไทยก็ได้ จากการเปิดประตูการค้าสู่อินโดจีน (เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าแปลงกายเป็น “เสือตัวที่ 5”) กระทั่งมาถึงเศรษฐกิจยุคทักษิโณมิกส์หรือ “ระบอบทักษิณ” ซึ่งเป็นที่มาของ“นโยบายประชานิยม”ก็หาได้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนเจ้าของประเทศและสังคมไทยทุกภาคส่วนทุกหมู่เหล่าไม่ เพราะต้องยอมรับว่าเป็นยุคที่เกิดการคอร์รัปชั่นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เกิดการทุจริต คอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย ผลประโยชน์ตกแก่ครอบครัวและพวกพ้องจนเป็นคดีความมากมายหลายคดี ทฤษฎีทักษิโณมิกส์ยังถูกนำมาบงการรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามวาทกรรม “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวที่เกิดการทุจริตทั้งในส่วนของการรับจำนำ และการขายข้าวในระบบจีทูจี จนเกิดความเสียหายกว่า 7-8 แสนล้านบาท ซึ่งศาลมีพิพากษาคดีทุจริตนี้แล้ว
“ไม่นานมานี้ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านกว่า 208 เสียง จะยื่นญัตติขอซักฟอกรัฐมนตรีเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคลตามบทบัญญัติมาตรา 151 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่ออกแขกไว้ถึงความล้มเหลวความเสียหายในการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น การทุจริตคอร์รัปชั่นการฉ้อราษฎร์บังหลวง การเอื้อประโยชน์ แสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมหากเนื้อหาสาระในการอภิปรายไม่เข้าข่าย “หมาเห่าใบตองแห้ง”อย่างที่ผ่านๆ มา ประกอบด้วยการแสดงหลักฐานและสร้างเอกสารเท็จประกอบ ทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศและสังคมไทยใช่เพื่อตนเองและพวกพ้อง เพราะนี่คือความงดงามของระบอบประชาธิปไตย”
แน่นอนในฐานะสื่อที่ยึดอุดมการณ์และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ เราจะร่วมกับเพื่อนสื่อมวลชน คิดตามรายงานเปิดโปงขบวนการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมอันตราย และจะตีแผ่ถึงพฤติกรรมการทุจริตคอร์รัปชั่นของผู้ประกอบการที่ไร้ยางอาย ทำธุรกิจการค้ามุ่งแต่ผลประโยชน์ โดยไม่คำนึงถึงความหายนะของบ้านเมืองจาก“ญาติโก โหติกา” นักเลือกตั้งในสภาฯ โดยเฉพาะผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมภาพรถบรรทุกขนกากฯมาทิ้งบริเวณทล.หมายเลข 359 สระแก้ว-เขาหินซ้อน จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นรถกลุ่มบริษัทโลกสีเขียวรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกทั้งโรงงานที่รับขยะในพื้นที่ปราจีนบุรีแห่งนี้สามารถกำจัดกากที่ไม่อันตรายเท่านั้น และหากมีการตรวจสอบพบว่าทิ้งผิดประเภท กรมโรงงานจะมีคำสั่งปิดโรงงานเหมือนอย่างในจังหวัดชลบุรีหรือไม่?
เรายินดีจะร่วมมือช่วยเหลือนักเลือกตั้งขจัดการฉ้อราษฎร์บังหลวงครั้งนี้ด้วยข้อมูลและเอกสารหลักฐานแท้จริงครบถ้วน ... แน่ใจหรือนี่คือยุคที่ นายกรัฐมนตรีประกาศการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง เป็น “วาระแห่งชาติ”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี