มหกรรมหลอกลวงประชาชนแบบซึ่งๆ หน้ากำลังจะกลับมาอีกครั้ง หลังจากสาธารณชนได้รับรู้ไปแล้วว่า ทางการ (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) ได้กำหนดวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายกเมืองพัทยาโดยระบุว่าวันเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 สำหรับวันเปิดรับสมัครผู้ชิงตำแหน่งทั้งสองคือ 31 มีนาคมถึง4 เมษายน
การเลือกตั้งทางการเมืองทุกชนิดในบ้านเมืองของเราถูกมองโดยสาธารณชนว่าไม่ต่างไปจากการเปิดเวทีโกหกอย่างถูกกฎหมายให้กับบรรดานักการเมือง รวมถึงบรรดานักเลือกตั้ง เพราะเป็นการให้โอกาสคนเหล่านั้นนำเรื่องโกหกสารพัดชนิดไปบอกกล่าวกับประชาชนได้โดยซึ่งหน้า อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่ต้องการแย่งชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. และนายกเมืองพัทยายังสามารถใช้โอกาสดังกล่าวเดินทางเพ่นพ่านไปสร้างเรื่องโกหกกับประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
คนไทยทราบเป็นอย่างดีว่านโยบายการเมืองที่นักการเมืองและนักเลือกตั้งใช้ในการหาเสียงนั้น ส่วนมากแล้วเป็นนโยบายที่อยู่บนฐานของการโกหก เพราะหลายเรื่องไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง แต่ถึงกระนั้นผู้หาเสียงเกือบทุกรายก็ยังจงใจโกหกประชาชนอย่างหน้าไม่อาย เช่น นโยบายเกี่ยวกับค่าแรงรายวันขั้นต่ำ นโยบายเบี้ยคนสูงอายุ นโยบายมีงานทำนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่ต่ำเกินความเป็นจริง เป็นต้น อันที่จริงยังมีนโยบายโกหกอีกหลายสิบเรื่อง แต่ไม่สามารถนำมาระบุได้หมดในที่นี้ เพราะหากนำนโยบายโกหกมาเขียนก็จะต้องใช้พื้นที่คอลัมน์อย่างน้อยเกือบๆ ครึ่งหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์
เมื่อถึงฤดูการหาเสียงเลือกตั้งเพื่อชิงตำแหน่งทางการเมืองทุกครั้ง สิ่งหนึ่งที่จะบังเกิดขึ้นก็คือการสาดโคลนสาดสีใส่กันอย่างหนัก
ระหว่างผู้ชิงตำแหน่ง แล้วก็จะได้ยินคำโกหกสารพัดชนิดเกิดขึ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะการโกหกว่าจะทำสิ่งโน่นนี่นั่นให้กับประชาชน และยังมีอีกสิ่งที่ตามมาคือความสกปรกโสโครกและความไร้ระเบียบของบ้านเมืองอันเกิดมาจากป้ายหาเสียงที่รกรุงรังไม่ต่างไปจากการโปรยขยะไปจนเกลื่อนบ้านเมือง แถมยังมีโปสเตอร์หาเสียงขนาดใหญ่ของผู้ชิงตำแหน่งการเมืองติดตั้งแบบไร้ความรับผิดชอบ เพราะปิดกั้นและกีดขวางทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะ โดยจะเห็นเป็นประจำว่าป้ายหาเสียงจำนวนไม่น้อยถูกนำไปติดตั้งที่หน้าปากซอย ทำให้ผู้ขับขี่ยวดยานไม่สามารถมองเห็นรถยนต์ และยานยนต์อื่นๆ ที่ขับมาทางด้านขวามือได้ชัดเจนเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นประจำ แล้วก็ยังต้องเผชิญกับรถแห่หาเสียงที่ถูกส่งออกไปสร้างความเกะกะกีดขวางการจราจรบนท้องถนนอีกด้วย
สิ่งเหล่านี้นับเป็นนรกของประชาชนอย่างชัดเจน เพราะประชาชนไม่ได้อะไรที่เป็นมรรคเป็นผล ไม่ได้ผลประโยชน์ใดๆ จากการกระทำดังกล่าวของบรรดาผู้ลงรับสมัครชิงตำแหน่ง นอกจากได้รับความเดือดร้อน รำคาญ และมลภาวะทางสายตาและทางหูอย่างที่สุด
นอกจากนี้ประชาชนยังจับได้เสมอๆ ว่าคำโกหกของผู้หาเสียงเลือกตั้งกลายเป็นลมปากที่หาแก่นสารสาระไม่ได้ อีกทั้งผู้หาเสียงที่จงใจโกหกประชาชนก็ไม่เคยรับผิดชอบใดๆกับคำโกหกที่จงใจปล่อยออกไป ดังจะพบได้ว่าหลายสิบหลายร้อยเรื่องที่ผู้ซึ่งชนะการเลือกตั้งได้จงใจโกหกไว้ ก็ไม่เคยบังเกิดเป็นความจริงขึ้นมา แม้ผู้โกหกจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งไปแล้วก็ตาม อาทิ เรื่องค่ารถไฟฟ้าราคายี่สิบบาทตลอดสาย หรือเรื่องแก้ไขปัญหาสุนัขและสัตว์จรจัด และเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ เป็นต้น
ขอย้ำยืนยันว่าประชาชนไม่ได้ขัดขวางการหาเสียงของนักการเมือง แต่ขอให้นักการเมืองทุกคนที่หาเสียงได้โปรดเลิกพฤติกรรมโกหกประชาชน และยกเลิกพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยผ่านการหาเสียงเลือกตั้ง เพราะมันคือนรกของประชาชน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี