แมลงวันไม่ตอมกันเอง คือคำที่สังคมใช้วิพากษ์วิจารณ์คนในแวดวงสื่อสารมวลชน ด้วยเหตุที่ว่าเวลาคนในแวดวงอาชีพสื่อฯ ทำผิด ทำเลว ทำเรื่องร้ายๆ แต่คนในวงอาชีพสื่อฯ จะหุบปากนิ่ง ไม่วิพากษ์วิจารณ์คนอาชีพเดียวกัน แต่ขอบอกว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่านั้นไม่เป็นจริงในทุกกรณี เพราะอย่างน้อยยังมีคนในวงการสื่อฯ หลายคน รวมถึงผู้เขียนด้วยที่ติดตามวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวไม่ปกติในไทยพีบีเอสมาโดยตลอด
ไทยพีบีเอสแปรสภาพมาจากไอทีวี แล้วเมื่อมาเป็นไทยพีบีเอสก็กลายสภาพเป็นองค์กรอิสระแต่ทว่าชื่อที่แปะว่าคำว่าอิสระ กลับไม่ได้ยืนยันว่า องค์กรแห่งนี้ปราศจากเหตุทุจริต ต้องย้ำและขีดเส้นใต้ว่ายังคงมีเรื่องราวต่างๆ นานามากมายที่บ่งบอกว่ายังคงมีเหตุทุจริตสารพัดสารพันอยู่ภายในไทยพีบีเอส และเหตุทุจริตต่างๆ นานานั้นไม่เคยได้รับการแก้ไขให้หมดสิ้นไป
ในแต่ละปี ไทยพีบีเอสได้รับเงินสนับสนุนกิจการประมาณ 2.4-2.8 พันล้านบาท (ข้อมูลปี 2566 ได้เงินสนับสนุนกิจการ 2.84 พันล้านบาท)
ไทยพีบีเอสตั้งขึ้นในสมัยรัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประมาณช่วงกลางปี 2550 แล้วออกอากาศในนามไทยพีบีเอสเมื่อต้นปี 2551 โดยใช้รูปแบบสถานีโทรทัศน์สาธารณะ แต่ทว่าเป็นสาธารณะเพียงแค่ชื่อเท่านั้น เพราะภายในองค์กรไม่ได้เป็นสาธารณะแม้แต่น้อย เนื่องจากเป็นที่ทำมาหากินของคนจำนวนหนึ่งที่วนๆ เวียนๆ เข้าไปเกาะกินไทยพีบีเอสเป็นที่หากินตลอดมาจนถึงบัดนี้ เพราะฉะนั้น จึงเห็นว่ามีคนสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยบางรายเข้าไปเกาะไทยพีบีเอสเป็นที่ทำมาหาเลี้ยงกระเพาะ นอกจากนั้นยังมีนักข่าวบางจำพวกเข้าไปเกาะไทยพีบีเอสเป็นที่หากินด้วย แล้วก็ยังมีกลุ่มที่เรียกตั้งเองประมาณว่า NGOs ก็เข้าไปเกาะไทยพีบีเอสเป็นสถานที่ผลิตเงินเพื่อเลี้ยงกระเพาะตัวเอง
ถามว่าตั้งแต่ตั้งไทยพีบีเอสมาจนถึงบัดนี้ สังคมไทยได้ประโยชน์อะไรมาก หากจะถามให้ตรงประเด็นคือ หากประเทศไทยไม่มีไทยพีบีเอส คนไทยจะไม่มีข่าวสารข้อมูล หรือรายการทีวีให้เสพ กระนั้นหรือ ตอบชัดๆ ว่าไม่เลย ต่อให้ไม่มีไทยพีบีเอส สังคมไทยก็ไม่เดือดร้อน และรับรองว่าสังคมไทยยังคงมีข่าวสารให้เสพอย่างแน่นอน แต่หากไม่มีไทยพีบีเอสแล้ว คนที่เดือดร้อนมากที่สุดก็คือฝูงคนกลุ่มที่ทำมาหากินอยู่ด้วยเงินหล่อเลี้ยงไทยพีบีเอส
ที่ผ่านมานั้น ไทยพีบีเอสถูกวิพากษ์ว่าเป็นแหล่งเงินแหล่งทองของคนบางจำพวก ดังนั้นจึงเห็นว่าคนจำพวกหนึ่งชอบเวียนว่ายวนไปวนมาอยู่ภายในไทยพีบีเอส โดยไม่ยอมไปผุดไปเกิด ในวันหนึ่งกินตำแหน่งนี้ ครั้นต่อมาอีกช่วงหนึ่งก็หมุนไปกินตำแหน่งโน้น ตำแหน่งนั้น ขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องยากเย็นกับการชี้ให้เห็นชัดว่ามีใครบ้างที่เวียนว่ายหาเงินวนไปวนมาอยู่ในไทยพีบีเอส
ลองเข้าไปค้นหารายชื่อกรรมการนโยบาย กรรมการบริหาร และกรรมการสรรหา ตั้งแต่ชุดแรกๆ มาจนถึงชุดล่าสุด แล้วจะบอกได้คำเดียวว่ามีหลายรายที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิด แต่ยังคงทำตัวเป็นเสมือนวิญญาณที่ไม่ยอมทิ้งร่างที่เน่าเปื่อยแล้ว เหตุที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิดเพราะว่าไทยพีบีเอสมีเงินให้ใช้ ให้ถลุง และให้ผลาญปีละอย่างน้อย 2 พันล้านบาท
ขอบอกว่าเงินอย่างน้อย 2 พันล้านบาทต่อปี สามารถนำไปใช้สร้างประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้กับแผ่นดินไทยได้มากกว่าปล่อยให้สูญสลายไปกับคนบางจำพวกที่เวียนว่ายอยู่ในไทยพีบีเอส
ล่าสุด อยู่ในช่วงเวลาการสับเปลี่ยนร่างผู้อำนวยการไทยพีบีเอส แต่เมื่อดูรายชื่อผู้ที่ถูกคัดเลือกให้ผ่านเข้าไปสัมภาษณ์โดยคณะกรรมการชุดที่ดูๆ แล้วก็พบว่าบางรายมีความพิสดารพิลึกพิลั่นมิใช่น้อย และที่สำคัญนั้นกรรมการบางรายไม่มีภูมิความรู้ด้านการผลิตสื่อรายการทีวีเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำ บางรายก็ชอบเสนอหน้าออกทีวีเป็นระยะๆ แต่กลับมีชื่อเข้าไปเป็นกรรมการคัดเลือกผู้อำนวยการไทยพีบีเอส
แต่ที่น่าสมเพชยิ่งกว่าคือคนบางคนที่มีชื่อหลุดเข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้มีสิทธิ์แสดงวิสัยทัศน์ และสอบสัมภาษณ์เพื่อชิงตำแหน่งผู้อำนวยการ คือผู้ที่คนในไทยพีบีเอสเขาตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการทำงานกับไทยพีบีเอส บางรายนั้น คนไทยพีบีเอสบอกกันด้วยว่า หากินแบบอัฐยายซื้อขนมยายในไทยพีบีเอส บางคนดูแล้วพบว่าน่าจะมีนอกมีในกับงบฯ ของไทยพีบีเอส บางคนเคยอยู่ไทยพีบีเอส แต่ปัจจุบันไม่ได้อยู่แบบเต็มตัว แต่มีร่างทรงคงอยู่ในไทยพีบีเอส แต่ก็ยังคงเข้าไปหากินเวียนว่ายในไทยพีบีเอส
หากยังจำได้ว่าในสมัยก่อนนั้น คนทั่วไปวิจารณ์เชิงหยามเหยียดว่าช่อง 9 อสมท คือ แดนสนธยา แต่ในยุคนี้ คนที่รู้เช่นเห็นชาติคนในไทยพีบีเอสวิจารณ์ว่าแดนโลกันต์ แหล่งทำมา
หากินของวิญญาณร้ายที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิด
เฉลิมชัย ยอดมาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี