l อาทิตย์ ๒๒ พ.ค. ๒๕๖๕ วันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
1.การเลือกตั้งครั้งนี้ มีการเลือกหลากหลาย
-เลือกเบอร์ใด ได้เป็น และเลือกเบอร์ใด ได้แค่เลือก
-เลือกแล้วดีใจที่เขาได้ และเลือกแล้ว เสียใจเธอไม่ได้ แต่เขาได้
-เลือกแบบมีเหตุผล รู้ทันเล่ห์กล คนหลอกลวง คนโกหกที่แอบอยู่เบื้องหลัง
-เลือกแบบอารมณ์ เอาความชอบ ความเชื่อ เป็นใหญ่ ไม่ได้ยึดความจริง
2.การเลือกแบบมีเหตุผล ได้คนทำงาน เลือกแบบอารมณ์ ได้นอมินี กลับเข้ามาโกงกินประเทศ
๑.การเลือกแบบมีเหตุผล ทำได้ยาก แต่เกิดผลดีต่อประเทศชาติ
ขาดการแสวงหาข้อมูลที่เป็นจริง
สื่อ และผู้สันทัดกรณี ที่แสวงหาความจริง มีน้อย
มีบางเบอร์ปกปิดข้อมูล อำพรางตน ทำให้คนเข้าใจผิด ไม่รู้เบื้องลึกข้างหลังภาพ
บางเบอร์ทุ่มทุน (ที่มีคนเป็นสปอนเซอร์) จ้างสื่อเชียร์แบบแยบยล
มีทีมงานและบุคลากร เป็นหมื่นคน ทำงานมากกว่า ๒ ปี (ใช้งบเท่าไหร่ ทำไม)
๒.การเลือกแบบมีอารมณ์ง่าย แต่บ้านเมือง เสียหายใหญ่
เป็นไปตามอารมณ์ ความชอบความไม่ชอบ ขาดการวิเคราะห์เจาะลึก
ไม่คำนึงถึงผลดีผลเสียหายใหญ่ต่อชาติบ้านเมือง
ไม่ได้ศึกษาว่า “นโยบายที่นำเสนอ” ทำได้จริง หรือโคมลอย เพียงหาคะแนน
ขาดความรับรู้ข้อเท็จจริง ว่า หากเลือกเบอร์นั้นไปแล้ว จะได้หรือไม่
เป็นการตัดคะแนน คนทำงานที่มีโอกาสเป็นคู่แข่งกับนอมินี หรือไม่
ไม่ตระหนักว่า “หากเกิดผลเสียต่อบ้านเมือง” ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
3.คะแนนที่จะได้รับจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีความจำกัด แม้ดูหลากหลาย
๑.คนส่วนใหญ่ มีกรอบคิดเรื่องสี มีเป้าหมายในการเลือกแล้ว เพียงแต่จะเลือกเบอร์ใด
ฝ่ายสีเหลือง จะเลือกเบอร์ ๓ ๔ ๖
ฝ่ายสีแดง จะเลือกเบอร์ ๑ ๘ ๑๑
๒.คนที่จะเลือกแบบอิสระ(ตัวจริง) คะแนนจะกระจายไปหลากหลาย ทำให้ปริมาณของคะแนนน้อย ไม่พอเพียงที่จะไปแข่งขันกับผู้มีสังกัดฯ การเลือก ทำให้ได้ “แค่เลือก” นอกจากไม่ได้แล้ว ยังเป็นการเสียโอกาสของบ้านเมือง ทำให้คนเป็นนอมินี มีโอกาส เข้ามาเป็นผู้ว่าฯ เป็นฐานเสียงของคนหนีคดี โกงบ้านเมือง
๓.คนส่วนหนึ่ง จะพิจารณาจากฐานความรู้ ความจริง
จึงจะไม่เลือก ผู้สมัครที่นำเสนอนโยบายที่ฉาบฉวย เป็นไปไม่ได้
จะไม่เลือกผู้สมัคร ที่สมัครอิสระ แต่ไม่อิสระจริง แต่แปลกมากที่ไม่มีการอธิบาย หรือตอบคำถาม ที่ชาวบ้านชาวเมืองสงสัยคนจะเลือก จากคนที่มีประสบการณ์ ผ่านงานมาจริง มาสานงานต่อก่องานใหม่
4.ผู้สมัคร เบอร์หนึ่ง อ้างว่า สมัครอิสระ
แต่หลักฐานข้อมูล บ่งบอกว่า เป็นนอมินีของพรรคหรือบุคคลที่เป็นเจ้าของพรรคเคยทำงานตำแหน่งสำคัญ เป็นรัฐมนตรีเกรด Aซึ่งสร้างปัญหาใหญ่ให้กับประเทศ พรรคการเมืองนั้น ไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. แต่ ผู้สมัคร สก. หาเสียงให้เอาทุนมากมายจากที่ไหน มาเป็นค่าใช้จ่าย คนช่วยงานเรือนหมื่น และจ้างสื่อยักษ์ฯไม่เคารพประชาชน โดยหลีกเลี่ยง กลบเกลื่อน ไม่อธิบาย “ข้อสงสัยใหญ่” แต่จะไปแสดงดราม่าในเรื่องอื่นๆ ที่ไม่สำคัญ มีการให้สื่อใหญ่ หรือผู้นำที่เคยมีบทบาทมากล่าวอ้างว่า “ถูกใส่ร้ายป้ายสี” (รวมทั้งการจ้างคอลัมนิสต์และสื่อใหญ่ใส่ร้ายฯ โจมตีผู้สมัครฝ่ายเหลืองที่จะมีโอกาสได้ ฯลฯ)
5.การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้ อยู่ภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรง และมีผลใหญ่ต่อบ้านเมือง
๑.ความขัดแย้งทางความคิดระหว่าง สีเหลือง และสีแดง สูงมากกว่าครั้งใดๆ
ฝ่ายสีเหลือง ยังเคลื่อนไหวอยู่ในเกณฑ์และยอมรับกติกาบ้านเมือง
ฝ่ายสีแดง เล่นนอกกติกา ไม่เคารพกฎหมายศาล มีการกล่าวหารัฐ และรัฐบาลที่สำคัญคือ การหมิ่นเหม่ต่อการใส่ร้ายป้ายสีและจาบจ้วงสถาบันฯไม่หยุดมีการชักนำต่างประเทศ เข้ามาแทรกแซง อ้างเรื่อง “สิทธิมนุษยชนที่ไม่มีขอบเขต” และกลุ่มผู้นำนักวิชาการ สื่อ ผู้ใหญ่ใจร้าย ที่แอบซ่อนเบื้องหลัง
๒.มีผู้มีอำนาจ เป็นกลุ่มทุนสามานย์ อยู่เบื้องหลัง ฝ่ายสีแดง
ส่วนหนึ่ง มีความรุนแรงแบบตรงๆ ขวานผ่าซาก ที่ไม่น่ากลัวและร้ายแรงเท่าอีกกลุ่มหนึ่งอีกส่วนหนึ่ง มากประสบการณ์ เล่นแบบแอบแฝงซ่อนเร้น อำพรางตัว ทั้ง “ตัวผู้สมัคร” ที่อ้าง เป็นผู้สมัคร“อิสระ”แต่ไม่อธิบายความจริงให้สาธารณผู้สนับสนุนหลัก ทั้งครอบครัว ทุ่มทุน สื่อ และมวลชน จากพรรคที่เขาเป็นเจ้าของ และมีการสั่งการให้ “พรรคการเมือง ๑” ไม่ส่งผู้สมัครลงผู้ว่าฯ หวังหลอกลวงประชาชน เพราะรู้ว่า “พรรคแตกแยก” คะแนนไม่พอต้องได้คะแนนจากประชาชนทั่วไป มาเสริมเพิ่มให้ จึงจะมีโอกาสชนะ
หาก “นอมินี” ชนะ ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.
ผู้มีอำนาจ สามารถใช้ “อำนาจผู้ว่าฯกทม.” สร้างฐานอำนาจ และสืบทอดอำนาจต่อ เพื่อให้ได้คะแนนเสียง จากการเลือกตั้งทั่วไปที่ครอบครัวของเขา จะส่ง “ลูกสาว” เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีอำนาจรัฐ และเปิดโอกาสให้เขา ซึ่งหนีคดีอยู่ต่างประเทศ กลับมาอย่างเท่ๆ ได้ตามที่คุยไว้
l มาพิจารณารูปธรรม ของปรากฏการณ์และความจริงที่จะเกิดขึ้น จากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้
๑.ผู้สมัครฯ ที่มีโอกาส และคะแนนเสียง ที่ประมาณการว่าจะได้รับ
มีเพียง ๗ เบอร์ ที่จะได้คะแนนเสียง ประมาณ ๑ แสน คือ
ฝ่ายเหลือง เบอร์ ๓ ๔ ๖
ฝ่ายแดง เบอร์ ๑ ๘ ๑๑
ฝ่ายอิสระ เบอร์ ๗
ฝ่ายอิสระ มีความจำกัด ในคะแนน
กลุ่มที่จะเลือก อยู่ในวงแคบๆ ในกลุ่มของตนเองและพวกพ้อง และบางส่วนฯ เพราะคะแนนส่วนใหญ่มีสังกัด ต้องการจะเลือกคนที่ได้ และไม่เลือกบางเบอร์ ที่มีปัญหาต่อบ้านเมือง
ในกลุ่มที่อยู่ในฝ่ายสี จะมีการตัดคะแนนกันพอสมควร เพราะหวังจะได้ และต้องการสร้างฐานทางการเมืองของตนและพวกพ้องต่อไปในอนาคต ฉะนั้น จึงต้องพิจารณาจากฐานคะแนน ที่เป็นจุดแข็งของตน
๑.ฝ่ายเหลือง เบอร์ ๓ ๔ ๖
เบอร์ ๓ จะได้คะแนนจากกลุ่มหนึ่งของ กปปส. และผู้สนับสนุน
เบอร์ ๔ จะได้คะแนนจากพรรค และผู้นิยมชมชอบ
เบอร์ ๖ จะได้คะแนนจากฐานผู้ว่าฯกทม. ทีมงานที่แข็งแกร่ง และ กปปส.
ประเมินแล้ว คะแนนมากที่สุด เรียงกันมา คือ เบอร์ ๖ ๔ ๓
๒.ฝ่ายแดง เบอร์ ๑ ๘ ๑๑
เบอร์ ๑ คะแนนจากพรรค คนที่ไม่ชอบรัฐบาลและสถาบัน คนรุ่นใหม่บางส่วน
เบอร์ ๘ คะแนนจากพรรคเพื่อไทย ทีมงานที่เดินงานมา ๒ ปีและผู้นิยมส่วนตัว
เบอร์ ๑๑ คะแนนจากพรรค ที่จะตัดคะแนนของเพื่อไทยได้มาก เพราะมีฐานใหญ่ใน กทม. ประเมินแล้ว คะแนนมากที่สุด เรียงกันมา คือ เบอร์ ๘ ๑ ๑๑
๒.คะแนนของผู้สมัครที่เหลือ
คะแนนประมาณ ๒ แสน ๖ เบอร์
คะแนนประมาณ ๓ แสน ๓ เบอร์
คะแนนประมาณ ๕ แสน++ ๒ เบอร์
คะแนนที่ได้เป็นผู้ว่าฯกทม. ประมาณ ๗-๘ แสนคะแนน
๓.ฉะนั้น ผู้สมัครที่มีโอกาสจะเป็นผู้ว่าฯกทม. ๒ คน คือเบอร์ ๖ และ เบอร์ ๘
l ใครจะมีโอกาสมากกว่ากัน
ตอบได้ยากมาก เพราะ
มีข้อมูลที่เราไม่รู้อีกมากพอควร
ส่วนคะแนนที่เราพอประมาณได้ส่วนหนึ่ง คือ
@ ฐานคะแนนของทั้ง ๒ เบอร์
ฝ่ายเบอร์ ๖
เบอร์ ๖ ที่ครองตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. มายาวนานมีการปูพื้นฐานคะแนนในพื้นที่ ทั้งในเขตต่างๆ และในส่วนกลาง มากพอควร
ทีมงาน ที่ทำงานและลงเลือกตั้ง สก. มีเป้าหมายตรง ในการเลือกผู้ว่าฯกทม.
มวลมหาประชาชน กปปส. จะเทคะแนนให้มากพอควร
คนไม่น้อย ต้องการ “ผู้ว่าฯกทม.ที่รู้งานจริง มีประสบการณ์” จะเลือก
คนอีกมากพอควร ไม่ต้องการให้ “ทักครอบครัวและลูกสาว” มีอำนาจ จะมาเลือกในวันเลือกตั้ง เพื่อป้องกันมิให้ “นอมินีของทักอ้อ” ได้
ฝ่ายเบอร์ ๘
การวางแผนของทัก และตัวนอมินี มีมานาน (ลงพื้นที่) ร่วม ๒ ปี
การใช้ทุนมหาศาล และสื่อยักษ์และอื่นๆ มีพลังในการสร้างดราม่า
ตัวผู้สมัครฯ มีภาพที่ดี ทั้งครอบครัว และตัวบุคคล
คะแนนพรรคเพื่อไทย จะถูกแบ่งออกไปจากการออกไปของ “คุณหญิงสุดารัตน์” ไปตั้งพรรค พร้อม สส. สก. สข. และทีมงานที่เป็นผู้กุมพื้นที่ในกทม.มาตลอด (ประเด็น ทักและนอมินี ก็คาดไม่ถึง ที่ทำให้คะแนนแตกและถูกแบ่งออกไป) อีกส่วนหนึ่ง ในปีกฮาร์ดคอร์ของสมาชิกเพื่อไทย ที่เริ่มถอดใจกับท่าทีของทักในเรื่องต่อ สถาบันฯ จะหันไปเทคะแนนให้ เบอร์ ๑ ที่เอาจริงมากกว่า
บทบาทชี้ขาด น่าจะมาอยู่ที่ตัว “นอมินี” มากขึ้น
รวมทั้ง แผนสุดท้ายของทักอ้อ ที่จะออกมาในช่วงสุดท้ายของการเลือกตั้งฯ เรื่องนี้ คู่แข่ง อย่าประมาทเด็ดขาด เพราะ “คนนี้”ทำได้ทุกอย่าง เพื่อตัวเองและครอบครัว
l สุดท้าย ขอเชิญชวนผู้มีสิทธิทุกท่าน ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งประวัติศาสตร์นี้โดย พิจารณาอย่างรอบคอบ ด้วยสติปัญญา ความจริงเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลักชัยและศูนย์รวมจิตใจของประชาชน ที่ทำให้เรามีวันนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี