นายทักษิณ ชินวัตร วิพากษ์วิจารณ์การเมืองไทย โดยเริ่มจากการพูดถึงภาพยนตร์อินเดียที่กำลังโด่งดัง เรื่อง Gangubai Kathiawadi (คังคุไบ กฐิยาวาฑี) หรือหญิงแกร่งแห่งมุมไบ จากนั้น ก็ด่ากราดนักการเมืองและพรรคการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับตนเอง
“...ย้อนดูประเทศไทย นักการเมืองที่เป็นโสเภณี มีอยู่เยอะมาก บางคนขายตัวให้พรรคการเมืองบางพรรค หรือจะเรียกว่าจะเปิดซ่องก็ได้ เอางบประมาณไปแลก เอาไปล่อ และสัญญาว่าจะใช้เงิน รับรองว่าการเลือกตั้งหน้าได้รับบทเรียนแน่ และไม่เชื่อว่า นักการเมืองประเภทนี้จะรอดกลับเข้ามาในสภาอีกในสมัยหน้า”
1. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครสส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ให้ข้อคิดความเห็นที่แหลมคม
ระบุว่า ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวนอกจากจะให้ความบันเทิง ยังให้ข้อคิดในหลากหลายมุมมาก หนึ่งในข้อคิดที่อยากจะชวนท่านอดีตนายกรัฐมนตรีได้ขบคิดไปพร้อมๆกันก็คือ Be Honest ความซื่อสัตย์และจริงใจจะทำให้คุณเป็นคนที่ดีกว่าเดิม
ในประโยคที่คังคุไบพูดในภาพยนตร์ว่า “..คนจะคิดว่าเราไม่ซื่อสัตย์ก็ไม่เป็นไร แต่จงทำงานสกปรกด้วยความซื่อสัตย์ด้วยความจริงใจอย่างที่สุด…”
ซึ่งถ้าเปรียบประโยคนี้ กับสุภาษิตของไทย ใกล้เคียงกับสุภาษิตที่ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน”
แล้วทำไมคังคุไบถึงพูดเช่นนี้ ถึงแม้ว่าใครจะไม่เห็นว่าเธอซื่อตรงกับตัวเองและเต็มที่กับงานแค่ไหน ถึงแม้ว่างานของเธอจะไม่ถูกยอมรับในสังคมแค่ไหน แต่คนที่จะเห็นและรับรู้ได้ก็คือตัวเธอของคังคุไบเอง และเธอคนที่จะเห็นจุดอ่อน-จุดแข็ง เปลี่ยนความกลัวและข้อบกพร่องทั้งหมดจนพัฒนาให้เป็นความกล้าและพลังเพื่อให้เป็นเธอในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นๆ ได้ จนเปลี่ยนจาก “โสเภณี”
กลายเป็น “นายกของกามธิปุระ” ได้ในที่สุด
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อไปอีกว่า ตนไม่ทราบว่าท่านอดีตนายกรัฐมนตรีได้รับชมฉากนี้และได้ยินวาทะนี้ของคังคุไบหรือไม่ และหากได้ยินแล้วรู้สึกเช่นไร เพราะเรื่องความ “ซื่อสัตย์” นั้นเป็นจริยธรรมสำคัญของผู้นำ และนักการเมือง หากเป็นผู้นำที่ขาดจริยธรรมเรื่องความซื่อสัตย์แล้วก็อาจจะนำพาประเทศชาติให้เกิดความเสียหาย และวิกฤตศรัทธาได้ ดังในอดีตที่นายกรัฐมนตรีต้องกลายเป็นนักโทษหลบหนีคดีทุจริต หลบหนีไปอยู่ดูไบ ซึ่งแตกต่างกันอย่างลิบลับกับผู้ที่ทำอาชีพโสเภณีกลายเป็น “นายกของกามธิปุระ”
นี่คือสิ่งที่ท่านอดีตนายกฯ ต้องถอดบทเรียนและคำนึงถึงแก่นสารของเรื่องให้ถ่องแท้ และย้ำเตือนให้ทายาททางการเมืองและพรรคเพื่อไทยตระหนัก
“สิ่งที่คุณทักษิณควรคิดคือ ความซื่อสัตย์ต่อคนไทยต่อประเทศชาติ ที่ผ่านมาท่านไม่เคยพูดถึงปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้น ในคดีต่างๆ ของท่านเลย ไม่ว่าจะเป็นคดีหวยบนดิน คดีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้รัฐบาลเมียนมา คดีนอมินีหุ้นบริษัทชินคอร์ปเป็นคู่สัญญากับรัฐ เป็นต้น และที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการไต่สวนของป.ป.ช.ทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และอนุมัติสั่งซื้อเครื่องบินการบินไทย สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ กระทบต่อพี่น้องประชาชนเท่าไหร่ หากท่านจำไม่ได้ ก็อย่าสอนจริยธรรมคนอื่น หากท่านมีความละอายก็รีบกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย รีบกลับมาเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกหลานในอนาคต” น.ส.ทิพานัน กล่าว
2. การเมืองไทย นักการเมือง พรรคการเมือง ก็เหมือนคนในสังคมทุกอาชีพ
คือ มีคนดี คนเลว ปะปนกัน
นักการเมือง สส. หรือแม้แต่ข้าราชการ ประเภทขายตัวแลกโหวต ขายตัวแลกตำแหน่ง แลกโอกาสทางการเมือง แลกการได้เป็นผู้สมัคร สส. ของพรรคที่ตนเองคิดว่าจะชนะด้วยหวังผลประโยชน์ตอบแทนบางประการต่อไป มีมาทุกยุค แต่ไม่ใช่นักการเมืองทุกคนทุกพรรค
หากพฤติกรรมเช่นนั้น ถูกตราหน้าเสมือนซ่องโสเภณี
น่าคิดว่า พฤติกรรมของคนที่หากิน หาผลประโยชน์ กอบโกยเข้ากระเป๋าส่วนตัว จากการใช้งานนักการเมืองในสังกัดของตนเอง อาทิ แก้สัญญาสัมปทานให้บริษัทตนเอง เป็นต้น พฤติกรรมคนพวกนี้ แม้ไม่ได้ขายตัว แต่คือคนหากิน หาผลประโยชน์ ต่างอะไรกับ “แมงดา” – “พ่อเล้า”
บางกรณี เด็กในสังกัดไม่เต็มใจทำให้ ก็ทุบ ตี ขู่เข็ญ ลงโทษ โยกย้าย
บางกรณี ไปควบรวม เทคโอเวอร์เอาซ่องขนาดกลาง ขนาดเล็ก เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในซ่องใหญ่ของตนเอง
พอเจ้าหน้าที่ทลายซ่อง แมงดาพวกนี้ก็หนีหายเข้ากลีบเมฆทิ้งให้ลูกน้องติดคุกติดตะรางไป
เอวัง การเมืองไทย ระบอบแมงดาหาทางกลับบ้าน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี