ดูกร ท่านผู้เจริญ!!…ข้อเท็จจริงยามนี้ ไม่มีใครเลยสักคนที่จะทราบว่า ประชาชนคนไทยจะได้เลือกตั้งทั่วไปเพื่อหาฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ชุดใหม่มาทำภารกิจเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงใช่แค่เข้ามาหาผลประโยชน์ทุจริตคอร์รัปชั่นหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ และประชาชนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 38,268,375 คน หรือคิดเป็น 74.69 เปอร์เซ็นต์ ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 51,239,638 คน (ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562)เลือกให้ท่านผู้ทรงเกียรติมาทำหน้าที่แทนเขาเหล่านั้น
อย่างที่บอก อย่าได้หาว่าใครจะทราบกำหนดวันเวลาการจัดการเลือกตั้งทั่วไป แม้แต่ “ไต้ก๋งชราที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี”, “ผู้เฒ่าขี้โรค-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ" หรือกระทั่ง “ขงเบ้ง อย่าง พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา” ที่นั่งบนเชิงเทินตีขิมหลอกฝ่ายตรงข้ามอย่างบันเทิงใจ เพราะมั่นใจว่า “3 ป.ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟไม่กลัวไฟ”
“ทองแท้ไม่กลัวไฟ” คำนี้มาจากสุภาษิตจีนแต้จิ๋วว่า “จิง กิม ปุก พ่า ห้วย เหลี่ยง จิง ลี่ ปุก พ่า ฉ่ำ งั้ง” แปลเป็นไทย“ทองแท้ไม่แพ้ไฟ สัจธรรมไม่กลัวคำติฉินนินทา”
ประโยคสุภาษิตนี้มีความหมายว่า “คนที่ยึดมั่นตั้งมั่นในความดี อดทนต่อการพิสูจน์ความจริง ก็จะสามารถผ่านพ้นอุปสรรคหรืออันตรายต่างๆ ได้” ทว่าข้อเท็จจริงตามหลักวิทยาศาสตร์นั้น “ทอง” สามารถหลอมละลายได้ แม้ ทองคำหรือเรียกโดยย่อว่า “ทอง” เป็นธาตุลำดับที่ 79 สัญลักษณ์ คือAU เป็นโลหะแข็งสีเหลือง เกิดเป็นธาตุอิสระในธรรมชาติ ไม่ว่องไวต่อปฏิกิริยา และทนทานต่อการขึ้นสนิม ทั้งยังไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี แต่ทองคำก็แปรสภาพได้ที่จุดหลอมเหลว 1,064 องศาเซลเซียส จุดเดือดอยู่ที่ 2,701 องศาเซลเซียสมีความถ่วงจำเพาะ 19.3 และมีน้ำหนักอะตอม 196.67 ทองมีความหนาแน่น 19.3 x 103 kg/m3 ค่าความหนาแน่นสัมพัทธ์ของทองหรือ ถ.พ. มีค่าเท่ากับ 19.3 เท่าของความหนาแน่นของน้ำ ทองจึงสามารถหลอมละลายได้ ทำให้สังคมโลกมีเครื่องประดับแสดงความไม่เท่าเทียมกันในสังคมได้ใส่โชว์โอ้อวดกัน
แต่ในสังคมการเมืองไทยวันนี้ ใครล่ะทองแท้ ใครล่ะกระเบื้อง
เราคิดว่าสถานการณ์ที่ผ่านมาสังคมไทยทราบมาตลอดว่าใครได้ทำอะไรอย่างไรไว้ จึงไม่แปลกใจที่ “ไต้ก๋งชรา”จะท้าทาย “พรรคการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ที่คุยโวโอ้อวดจะล้มรัฐบาลภายใต้ญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือการหลอกด่ารัฐบาลอย่างเป็นทางการ ที่แม้จะสร้างหลักฐานเท็จนำมาหลอกลวงสังคมไทยครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่สามารถโน้มน้าวให้ฝ่ายการเมืองคว่ำรัฐบาลไต้ก๋งชราจนไม่สามารถเดินต่อไปได้สักที รวมถึงการสุมหัวกันคว่ำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ที่จะเข้าสู่รัฐสภาในวาระที่ 3 เร็วๆนี้ แต่กระนั้นก็ตามยังไม่สามารถโน้มน้าวชักจูงให้สังคมไทย ให้ประชาชนส่วนใหญ่คล้อยตามเห็นดีเห็นงามคว่ำรัฐนาวาไต้ก๋งชราได้จนจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในไม่ช้านี้
ตรงข้ามกับคู่ขัดแย้ง “สัมภเวสีเร่ร่อนหนีคุก”ที่ออกมาเคลื่อนไหวผ่านสังคมโซเชียลอย่าง “โลกอินเตอร์เนต-คลับเฮ้าส์ ช่อง CARE คิดเคลื่อนไทย” ที่มีสิ่งมีชีวิตไร้สามัญสำนึกคอยชูคอเสนอหน้าดิกๆ ชื่นชมเชิดชูอย่างไม่คิดชีวิต ไม่สนใจความจริงที่ถูกเปรียบเยี่ยง “สุนัขหลายสิบตัวในคอกจันทร์ส่องหล้า”เสนอ “เฟคนิวส์” บ้าง “ปฏิบัติการไอโอ” บ้าง อย่างเชี่ยวชาญ เพื่อให้รัฐนาวาไต้ก๋งชราบอบช้ำ
แต่ไม่ว่าความพยายามเยี่ยงนั้นจะมาในรูปแบบใด “ไต้ก๋งชรา”ก็หาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนทนพิษบาดแผลไม่ไหวแต่อย่างใด ทั้งยังมีประชาชนคอยให้กำลังใจเสมอ ยังคงเป็นทองที่ไม่แพ้ไฟไม่กลัวไฟ
ดังคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่า “เราจักทำกรรมอันใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาปเราจักเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นๆสืบไป” สันดอนจึงขุดยากตามกรรม โจรก็ยังคงเป็นเยี่ยงโจรไม่ว่าจะสวมใส่อาภรณ์ใดประพฤติอย่างไร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี