การค้าแบบหาบเร่ แผงลอย ต้องไม่ใช่การค้าขายโดยยึดเอาพื้นที่บนบาทวิถีเป็นที่ประกอบธุรกิจแบบถาวร เพราะหาบเร่ แผงลอย ก็บอกตรงๆ อยู่แล้วว่าเป็นการหาบของเร่ไปขายตามที่ต่างๆ และแผงลอย ก็คือการตั้งแผงลอย โดยไม่ใช่แผงขายของ หรือขายสินค้าใดๆ แบบถาวร ปักหลักค้าขายอยู่บนบาทวิถีหรือที่สาธารณะแบบผูกขาด
เราทุกคนต่างได้พบได้เห็นมานานแล้วว่า ในกรุงเทพฯ(รวมถึงเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศไทย) มีผู้ค้าขายสินค้าที่จงใจยึดบาทวิถี และพื้นผิวการจราจร รวมถึงที่สาธารณะต่างๆ เป็นที่ค้าขายแบบถาวร แต่ดันเรียกตัวเองว่าหาบเร่ แผงลอย แล้วเราก็ได้พบว่าปัญหาของการค้าขายแบบนี้ก่อให้เกิดปัญหาผู้สัญจรบนทางเท้า (บาทวิถี) ไม่มีทางเดิน ต้องลงไปเดินบนพื้นผิวการจราจร ก่อให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดตามมา และยังส่งผลต่อสวัสดิภาพของผู้ที่ไม่สามารถเดินทางสัญจรบนทางเท้าได้ตามปกติ
อันที่จริง สาธารณชนที่มีใจเป็นธรรมมิได้รังเกียจการค้าขายแบบหาบเร่ แผงลอย แต่ขอย้ำว่าต้องเป็นหาบเร่ แผงลอยจริงๆ และต้องไม่รุกล้ำพื้นที่บนทางเท้าจนไม่เหลือพื้นที่ไว้ให้ผู้คนสัญจรได้โดยสะดวก สาธารณชนรู้ดีว่าหาบเร่ แผงลอยเป็นหนทางหนึ่งของการค้าขายที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและมีรายได้ปานกลาง เพราะหากไม่มีหาบเร่ แผงลอยแล้ว ประชาชนก็จะต้องไปซื้อหาข้าวของต่างๆ รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มจากร้านค้าที่ถูกผูกขาดโดยนายทุนระดับใหญ่ของประเทศ รวมถึงนายทุนข้ามชาติ ซึ่งขายของในราคาแพงกว่าหาบเร่ แผงลอยหลายเท่า
แต่ปัญหาคือ สาธารณชนเห็นชัดว่าผู้ค้าที่อ้างว่าเป็นหาบเร่ แผงลอยนั้น มิได้เป็นหาบเร่ แผงลอยจริงๆ เพราะมีการจับจอง ยึดพื้นที่สาธารณะเป็นที่ทำกินของตนเองแบบถาวร โดยมิได้นำพาต่อความเดือดร้อนของผู้ใช้ทางเท้า แถมยังรุกล้ำกินพื้นที่บนทางเท้าจนก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้ที่ต้องใช้ทางเท้า
มีคำถามว่าทำไมจึงมีการอนุญาต หรือปล่อยปละละเลยให้ผู้ค้าขายยึดพื้นที่ทางเท้าได้ คำตอบเรื่องนี้คือ เป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐผู้มีอำนาจจัดการดูแลรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยบนทางเท้าปล่อยปละละเลย เพิกเฉย ไม่ทำตามหน้าที่ของตนเอง ซึ่งสาธารณชนพบว่าหลายต่อหลายพื้นที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีหน้าที่ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของทางเท้า โดยสมคบคิดกับผู้มีอิทธิพล หรือมาเฟีย เรียกเก็บค่าใช้พื้นที่บนทางเท้า โดยผู้ค้าขายต้องจ่ายเงินโดยมิชอบให้กับผู้มีอิทธิพล และเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยบางครั้งเป็นการจ่ายเงินให้กับผู้มีอิทธิพล แล้วผู้มีอิทธิพลก็นำเงินส่วนแบ่งไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐอีกทอดหนึ่ง
ดังนั้นจึงยังคงปรากฏมาจนถึงปัจจุบันว่า แม้การขายของต่างๆ บนทางเท้าจะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ทว่าก็ยังคงสามารถทำผิดกฎหมายได้ตลอดเวลา ซึ่งความผิดที่บังเกิดขึ้นนั้นเป็นผลของความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับมาเฟียหรือผู้มีอิทธิพล
มีผู้โต้แย้งว่าหากไม่ยินยอมให้มีหาบเร่ แผงลอยขายของบนบาทวิถี ก็เท่ากับเป็นการปิดหนทางการทำมาหากินโดยสุจริตของคนยากคนจน เมื่อมีผู้อ้างเช่นนี้ ก็มีการตั้งคำถามกลับว่า แน่ใจหรือว่าผู้ที่ยึดทางเท้าเป็นที่ทำมาหากินโดยถาวร คือผู้มีฐานะยากจนที่แท้จริง เพราะในหลายต่อหลายกรณีพบว่าผู้ที่ยึดทางเท้าเป็นที่ทำกินโดยถาวรนั้น มิใช่คนยากคนจน แต่เป็นผู้มีฐานะดี ที่สามารถเปิดร้านขายสินค้าในอาคารได้ แต่กลับเลือกขายสินค้าบนทางเท้าเพราะมีลูกค้าจำนวนมาก และเสียค่าดำเนินธุรกิจถูกกว่าการเปิดร้านค้าของตัวเอง หรือการต้องจ่ายค่าเช่าอาคารสถานที่สำหรับขายสินค้า
ปัญหาการยึดพื้นที่บนทางเท้าและที่สาธารณะเพื่อขายสินค้าแบบถาวร โดยอ้างว่าเป็นหาบเร่แผงลอย เป็นปัญหาที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต้องแก้ให้ได้โดยเร็ว เพราะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯได้สัญญาไว้ว่าจะทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองน่าอยู่ของคนทุกคน และต้องไม่ทำให้ผู้สัญจรบนทางเท้าต้องได้รับผลกระทบทางลบ แล้วที่สำคัญคือต้องทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่มีระเบียบ และมีความสะอาด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี