แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn แต่การจะนำความรู้ไปใช้ให้สำเร็จผลสมบูรณ์แท้นั้น จะต้องกระทำด้วยความรอบคอบ รู้จักกาลเทศะและยึดหลักศีลธรรมเป็นเครื่องเตือนใจ ให้ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีที่งามด้วย ถ้าทุกคนตั้งใจพยายามที่จะกระทำให้ได้ดังนี้ ก็เชื่อว่าจะสร้างสรรค์ความสำเร็จทั้งในด้านอาชีพการงาน และเกียรติคุณความดี อันจะส่งผลให้สังคมส่วนรวมมีความผาสุกมั่นคงยิ่งยิ่งขึ้นไปได้อย่างแน่นอน... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันที่ 27 พฤษภาคม 2565)...
nn การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวมทั้งหมด 11 คน คือ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประวิตร วงษ์สุวรรณ อนุพงษ์ เผ่าจินดา อนุทิน ชาญวีรกูล จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เฉลิมชัย ศรีอ่อน ศักดิ์สยาม ชิดชอบ สุชาติ ชมกลิ่น ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สันติ พร้อมพัฒน์ และนิพนธ์ บุญญามณี จะเกิดขึ้นในวันที่ 19-22 กรกฎาคม นี้ แต่เท่าที่สาธารณชนได้ยินข่าวก็มักจะเป็นเพียงการคุยโวโม้ใส่กันไปกันมาระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล ตามสไตล์น้ำท่วมทุ่ง แล้วยิ่งได้เห็นโปสเตอร์ที่พรรคเพื่อไทยทำออกมาเพื่อโฆษณาการอภิปรายฯ ในครั้งนี้ โดยใช้รูปแบบใบปิดภาพยนตร์ก็ยิ่งทำให้คนที่เห็นแล้วอมยิ้ม เพราะดูการ acting ของแต่ละรายในโปสเตอร์แล้วก็ได้แต่ถามว่า ตกลงแล้วจะอภิปรายฯ จริงจังหรือจะเล่นละครกันแน่ มีเสียงถามเชิงหยันเล็กๆ ว่า ทำไมสส.บางนางจึงต้อง acting มากถึงเพียงนั้น ตกลงว่าอยากเล่นหนังใช่ไหม ถ้าใช่ก็ไปแสดงหนังเสียเลยจะดีกว่า อย่าเสียเวลาเป็น สส.ต่อไปเลย ว่าแต่ว่าจะมีใครเขาจ้างไปแสดงหรือเปล่าหนอ...
nn คอการเมืองไทยรู้ดีว่าการอภิปรายฯ ครั้งนี้ ก็ไม่ต่างไปจากปาหี่การเมือง ไม่ต้องหวังว่าฝ่ายค้านจะล้มรัฐบาลได้ เพราะเมื่อดูข้อเท็จจริงจากจำนวน สส. ของแต่ละฝ่ายก็เห็นชัดๆ ว่าต่างกันชนิดที่ว่าฝ่ายค้านไม่มีสามารถล้มรัฐบาลได้...
nn สส.ซีกรัฐบาลมี 267 เสียง ฝ่ายค้านมี 208 เสียง ส่วนอีก 1 เสียงของฝ่ายค้านที่มาจากการชนะที่ลำปาง ก็ยังไม่แน่ใจว่า กกต. จะรับรองก่อนวันอภิปรายฯ หรือไม่เพราะฉะนั้น เมื่อเทียบเสียง 267 ต่อ 208 ก็เห็นชัดๆ ว่าใครชนะ แต่เรื่องที่บางคนหวั่นใจว่าเสียงของกลุ่มธรรมนัส พรหมเผ่า 17 เสียง ที่ออกจากพลังประชารัฐของบิ๊กป้อม แล้วไปตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย จะไม่โหวตให้รัฐมนตรีบางคนนั้น แต่เมื่อพิจารณาเชิงลึกแล้วก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรมากนัก เพราะพรรคเล็กพรรคน้อยก็ยังมีใจให้กับรัฐบาล งานนี้มีเสียงเล่าลือกันหนักมากว่าเครื่องแจกเงินตั้งไว้พร้อมแล้ว ต่างฝ่ายต่างพร้อมแจก งานนี้รับรองมีคนบางคนอิ่มจนกระเป๋าพองแน่นอน ส่วนเรื่องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ต้องหวังให้เสียเวลา เพราะหากบิ๊กป้อมกับบิ๊กตู่ยังตกลงกันได้ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยกเว้นแค่เพียงบิ๊กป้อมบอกบิ๊กตู่ตรงๆ ว่าขอเป็นนายกรัฐมนตรีแทนก็แล้วกัน หากเกมออกมาแบบนี้ ก็อาจจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีได้...
nn แวะไปดูเรื่องน่ารักน่าชังจากผู้ว่าฯกทม. ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุผู้ที่ชื่นชอบการ Live แทบจะทุกอิริยาบถของตนเอง มีคำถามว่าสิ่งที่ชัชชาติประกาศว่าจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ 214 เรื่องนั้น ล่าสุดอยู่ในตำแหน่งมาครบหนึ่งเดือนแล้ว ทำอะไรลุล่วงไปแล้วบ้าง นอกจากฉายหนังกลางแปลง เล่นดนตรีในสวนฯ กินข้าวกับคนเก็บขยะและกวาดถนน และ Live วิ่งๆๆๆๆ มีคำถามว่ามีแนวคิดหรือยังว่าจะแก้ปัญหารถติดวินาศสันตะโรในกรุงเทพฯอย่างไร มีคำถามว่า ในขณะที่หลังคาบ้านรั่วโหว่รูเบ้อเร่อ ฝนตกลงใส่จนน้ำเจิ่งนองไปทั้งบ้าน คนในบ้านหาที่หลับที่นอนไม่ได้ แล้วทำไมไม่ซ่อมหลังคาบ้านให้ดีก่อน เหตุใดจึงมัวแต่ไปทาสีประตูรั้วบ้าน นี่หรือคือคนที่อ้างว่าศึกษาปัญหาของกรุงเทพฯมาอย่างดีเป็นเวลา 2 ปีกว่า...
nn ในขณะที่การค้าการขาย การทำมาหากินค่อนข้างฝืดเคือง เพราะถูกพิษเศรษฐกิจนานัปการทั้งในและนอกประเทศรุมเร้าอย่างหนัก แต่ก็กลับปรากฏว่ามีการทำมาหากินแบบหนึ่งที่ยังคงฟูฟ่องเหมือนฟองสบู่ นั่นก็คือการ (อ้างว่า) อบรมในหลักสูตรต่างๆ นานา สารพัดชนิด หลักสูตรที่ว่านั้นมีทั้งที่เป็นการร่วมมือกันระหว่างคนในมหาวิทยาลัยของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐกับเอกชน แต่บางหลักสูตรก็เกิดจากความจงใจของเอกชนเพียงลำพัง แต่ทว่าไปอาศัยชื่อของคนบางคนในบางหน่วยงานของรัฐเข้าไปร่วมจัด...
nn หลักสูตรพิสดารสารพัดชนิดที่เห็นๆ กันอยู่ในสังคมในวันนี้มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายหลักสูตรละเป็นหลักแสน หากมีการต้องเดินทางไปต่างประเทศด้วยก็จะต้องจ่ายเพิ่มอีก มีคนที่เคย (เสียรู้) ซึ่งหลงเข้าไปเป็นเหย่ือบอกเล่าให้ ธรรมกร ฟังว่า เหตุที่ยอมเสียเงินมากมายเข้าไปอบรมก็เพราะคิดว่าจะได้มีพรรคมีพวก เพื่อหวังจะได้อาศัยเป็นเส้นเป็นสายในการทำการค้าธุรกิจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ที่ได้เห็นชัดๆ คือการกินการเที่ยวกันเป็นประจำ แต่ที่สงสัยมากที่สุดก็คือทำไมมีคนจากภาครัฐเข้าไปอบรมได้ น่าสงสัยว่าทำไมเบิกค่าอบรมหลักสูตรได้ ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะให้ผลประโยชน์ใดๆ กับหน่วยราชการอย่างเป็นรูปธรรม...
nn มีคำถามเชิงฟ้อง พร้อมรูปภาพประกอบคำฟ้องที่ส่งมาจากผู้อ่านแนวหน้าหลายราย ฝากให้ ธรรมกร ช่วยถามหน่วยงานของรัฐ เช่น ตำรวจ สำนักงานเลขาฯคณะรัฐมนตรี รวมถึงหน่วยงานทุกหน่วยที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการดูแลเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของไทย คำฟ้องที่ผู้อ่านแนวหน้าฝากถามมาคือ ทำไมมีการประกาศขายเครื่องราชฯ ผ่านบริษัทขายของผ่านระบบออนไลน์ได้ คำถามต่อมาคือ ยุคนี้ใครก็ตามที่ต้องการได้เครื่องราชฯ สามารถสั่งซื้อเครื่องราชฯ ชนิดต่างๆ ได้โดยผ่านระบบการขายสินค้าออนไลน์ได้แล้วกระนั้นหรือ ที่น่าตกใจมากก็คือมีการโฆษณาขายเครื่องราชฯ ตระกูลช้างเผือก และมงกุฎไทย กันอย่างเอิกเกริก จนทำให้เกิดคำถามตามมาว่าใครใคร่ซื้อใคร่หาเครื่องราชฯ ก็สามารถสั่งซื้อได้ตามสะดวก เช่นนั้นหรือ มีคำถามต่อไปว่า แล้วคนขาย เคยตรวจสอบก่อนหรือไม่ว่าคนสั่งซื้อมีสิทธิ์นำเครื่องราชฯ ไปใช้ได้ตามยศศักดิ์ที่กำหนดไว้ตามกฎหมายหรือไม่ หรือใครๆ ก็ซื้อได้ ใครๆ ก็นำไปใส่ได้ คำถามสุดท้ายคือผู้รักษากฎระเบียบของบ้านของเมืองไทย หายหัวไปไหนกันหมด หรือหูหนวกตาบอดกันจนหมดสิ้นทั้งแผ่นดินแล้ว...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี