ยุทธการเด็ดหัวสอยนั่งร้านรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ของพรรคฝ่ายค้านล้มเหลวไม่เป็นท่าผลคือพรรครัฐบาลชนะพรรคฝ่ายค้านไปตามความคาดหมาย การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันเสาร์ที่ 23 ก.ค.2565 เพื่อลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคลรวม 11 คนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 นั้น ผลการลงมติรัฐมนตรีแต่ละคนมีดังนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม องค์ประชุม 471 ไว้วางใจ 256 ไม่ไว้วางใจ 206 งดออกเสียง 9 ไม่ลงคะแนน 0
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ องค์ประชุม 471 ไว้วางใจ 241 ไม่ไว้วางใจ 207 งดออกเสียง 23 ไม่ลงคะแนน 0 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข องค์ประชุม 472 ไว้วางใจ 264 ไม่ไว้วางใจ 205 งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน 0 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี องค์ประชุม 472 ไว้วางใจ 268 ไม่ไว้วางใจ 193 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 0
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย องค์ประชุม 470 ไว้วางใจ 245 ไม่ไว้วางใจ 212 งดออกเสียง 13 ไม่ลงคะแนน 0 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม องค์ประชุม 472 ไว้วางใจ 262 ไม่ไว้วางใจ 205 งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 0 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม องค์ประชุม 472 ไว้วางใจ 249 ไม่ไว้วางใจ 205 งดออกเสียง 18 ไม่ลงคะแนน 0 นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ องค์ประชุม 470 ไว้วางใจ 244 ไม่ไว้วางใจ 209 งดออกเสียง 17 ไม่ลงคะแนน 0
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง องค์ประชุม 471 ไว้วางใจ 249 ไม่ไว้วางใจ 204 งดออกเสียง 18 ไม่ลงคะแนน 0 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย องค์ประชุม 472 ไว้วางใจ 246 ไม่ไว้วางใจ 206 งดออกเสียง 20 ไม่ลงคะแนน 0
และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน องค์ประชุม 471 ไว้วางใจ 243 ไม่ไว้วางใจ 208 งดออกเสียง 20 ไม่ลงคะแนน 0
ยุทธการเด็ดหัวสอยนั่งร้านของฝ่ายค้านนี้กลายเป็นว่านั่งร้านพังทับฝ่ายค้านระเนระนาดไปคนละทิศละทางปรากฏการณ์งูเห่าแปรพักตร์มีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ฝ่ายค้านเองก็ไม่มีหัว ที่เห็นเด่นชัดว่าใครจะเป็นผู้นำ ส่วนคนแดนไกลคงหมดสภาพและหมดสิทธิ์ที่จะกลับมาเล่นการเมืองอีกแล้ว สภาพฝ่ายค้านจึงกลายเป็นเป็ดง่อยไม่มีอานุภาพที่จะราวีรัฐบาล
สำหรับ ก้าวต่อไปของพลเอกประยุทธ์ที่จะต้องกระทำในเวลา 8 เดือนที่ยังเหลือเวลาอยู่ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2566 ก็คือการทำให้ประเทศไทยเกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามสโลแกนของพลเอกประยุทธ์ตั้งแต่ต้นนั่นเอง ซึ่งมาถึงขั้นนี้แล้วดูไม่น่าที่จะยากอะไรเพราะงบประมาณปี 2565 กับงบประมาณปี 2566 เป็นกระสุนดินดำของรัฐบาลให้ใช้อยู่แล้ว เมื่อมีงบประมาณอยู่ในมือพลเอกประยุทธ์ก็สามารถเดินหน้าสร้างผลงานและคะแนนนิยมทางการเมืองได้อย่างเต็มที่
โดยหาว่าจุดอ่อนและจุดบกพร่องของรัฐบาลอยู่ที่ตรงจุดไหนบ้างก็ต้องใช้งบประมาณที่มีเข้าไปแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนคนไทยทั้ง 66.8 ล้านคน ให้เกิดเป็นรูปธรรมจับต้องได้ไม่ต้องกลัวการถูกโจมตีเชื่อว่าส่วนราชการกระทรวงทบวงกรมต่างๆ อยู่ในกำมือของรัฐบาลตอนนี้พลเอกประยุทธ์ได้เปรียบด้านยุทธศาสตร์การเมืองเพียงแต่ให้เลือกยุทธวิธีที่ถูกต้องมาใช้ในสนามเลือกตั้งเท่านั้นข้อสำคัญพลเอกประยุทธ์ต้องแสดงภาวะการเป็นผู้นำให้เต็มที่ด้วยความมุ่งมั่นซื่อตรงจริงจังจริงใจอย่างไรเสียตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปีหน้าก็ยังคงเป็นของพลเอกประยุทธ์ต่อไปอยู่ดี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี