วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

“24.98 ล้านตัน” เป็นจำนวนของ “ปริมาณขยะมูลฝอยในประเทศไทยตลอดทั้งปี 2564” ตามข้อมูลของ กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งแม้จะลดลงจากปี 2563 เนื่องจากปี 2564 เกิดสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ค่อนข้างต่อเนื่องยาวนานเมื่อเทียบกับปี 2563 ส่งผลให้การล็อกดาวน์กินระยะเวลานานกว่า ปริมาณการเดินทางจึงลดลง แต่อีกด้านหนึ่ง การอยู่บ้านส่งผลให้ธุรกิจรับ-ส่งอาหารและสินค้าเฟื่องฟูขยะประเภทพลาสติกทั้งถุงและกล่อง ตลอดจนภาชนะโฟมก็เพิ่มขึ้น
เมื่อเร็วๆ นี้ สมัชชาคนจน องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ที่มีภารกิจขับเคลื่อนงานสิทธิของชุมชนคนระดับฐานราก จัดบรรยาย (ออนไลน์) เรื่อง “การจัดการขยะกับการพัฒนาเมือง” ผ่านทางเฟซบุ๊คแฟนเพจ “สมัชชาคนจน Assembly of The Poor” โดยมีผู้บรรยายคือ จารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่ง เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เคยได้รับรางวัลชนะเลิศเทศบาลด้านสิ่งแวดล้อมยั่งยืนยอดเยี่ยมระดับประเทศ ประจำปี 2562 จัดโดย กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม มาแล้ว
จารุวัฒน์กล่าวว่า ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง เป็นหน้าที่สำคัญที่แต่ละท้องถิ่นต้องทำ เพื่อให้เป็นหน้าเป็นของท้องถิ่นและผู้นำท้องถิ่นนั้นๆ เพราะฉะนั้นบ้านเมืองจะต้องสะอาดไว้ก่อน และต้องอยู่ในสายตาของชาวบ้านในท้องถิ่นด้วย แต่การบริหารจัดการขยะในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน โดยขึ้นอยู่กับบริบทของพื้นที่ เช่น“พื้นที่ในชนบท” หากท้องถิ่นไม่อยากสิ้นเปลืองงบประมาณ ต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านเรื่องการจัดการขยะ ซึ่งต้องเริ่มต้นจากครัวเรือนของตัวเองก่อนอาทิ ขุดหลุมเพื่อทิ้งเศษอาหารและใบไม้
แต่หากเป็น “พื้นที่ที่มีความเจริญเข้ามา” (เช่น ชุมชนเมืองหรือกึ่งเมือง) จะต้องมีงบประมาณและบุคลากรในการทำงาน เช่น มีถังขยะให้เพียงพอมีพนักกวาดถนน มีพนักงานเฝ้าหลุมขยะ และพนักงานกลบขยะ เป็นต้น ซึ่งในพื้นที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ก็เคยหลงทางกับการจัดการขยะมาก่อนโดยในอดีตผู้บริหารท้องถิ่นทำงานอย่างไรก็ปล่อยให้ทำแบบเดิมซ้ำๆ เช่น พนักงานกวาดถนนทั้งวัน เก็บขยะวันละ 1 รอบ และบ่อขยะเต็มแล้วหาที่ทิ้งใหม่
อย่างไรก็ตาม การทำแบบนี้จะไม่สามารถทำให้ขยะหมดไปจากเมือง โดยตามหลักทฤษฎีประชากร 1 คน สามารถสร้างขยะต่อวันประมาณ 1 กิโลกรัม ดังนั้น หากประชากรในเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์มีอยู่ประมาณ 35,000-40,000 คน ขยะต่อวันจะอยู่ประมาณ 35-40 ตัน จึงจำเป็นต้องปรับปรุงการทำงานใหม่ นำเรื่องของการจัดการขยะมาเป็นยุทธศาสตร์ของการบริหารท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องของการจัดการขยะ การเก็บขนขยะ และการกำจัดขยะ โดยจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านแยกขยะตั้งแต่ที่บ้าน
“จากการที่ได้ศึกษาดูงานหลายๆ จังหวัด จึงทำให้ช่วงเริ่มต้นในการแก้ปัญหาเรื่องขยะด้วยการเมื่อเก็บขยะจากบ้านเรือนมาแล้วจะต้องมีโรงคัดแยกขยะจึงต้องมีคนคัดแยกขยะแต่ละประเภทออกจากกัน ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร นอกจากนี้การเก็บและกวาดขยะเปลี่ยนจากวันละ 1 ครั้ง เป็นวันละ 2 ครั้งโดยแบ่งเป็นช่วงเช้าตั้งแต่ 04.00-08.00 น. และช่วงบ่ายตั้งแต่ 13.00-17.00 น. ซึ่งแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
เวลาต่อมาได้ศึกษาเรื่องการจัดการขยะ พบว่าจะต้องเริ่มจากสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้าน โดยการให้ชาวบ้านรู้จักความหมายของขยะเสียก่อน โดยจำกัดความหมายขยะไว้ว่า ของที่ใช้ไม่ได้ มีพิษ ติดเชื้อ เมื่อชาวบ้านเข้าใจจะสามารถคัดแยกขยะได้ จากการทดลองกับชาวบ้านพบว่า ขยะมากว่าร้อยละ 80 เป็นถุงพลาสติกซึ่งชาวบ้านสามารถคัดแยกไปขายของเก่าได้ ซึ่งทำให้มีขยะที่นำไปทิ้งจริงๆ จำนวนน้อยมาก” จารุวัฒน์ กล่าว
นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เล่าต่อไปว่า หลังจากนั้นได้จัดทำโครงการ “ถนนปลอดถัง” ซึ่งหมายถึงชุมชนปลอดถังขยะใหญ่ แต่มีถังขยะเล็กทุกหลังคาเรือน เพื่อลดความขัดแย้งของคนในชุมชนแต่ยังมีปัญหาเรื่องขยะที่ชาวบ้านเก็บไว้ในบ้าน ถ้ามีจำนวนมากเกินไปจะทำให้รกบ้าน จึงได้ตั้งกองทุน “จิตอาสารักษาสิ่งแวดล้อม” แล้วจัดหาเงินกองทุนให้
โดยให้ทางเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ทำ 5ส. (สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ และสร้างนิสัย) แล้วนำวัสดุที่ได้เอาไปขายเพื่อเป็นเงินทุน รวมถึงส่งผู้นำชุมชนที่สนใจเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม ไปเรียนรู้เรื่องการคัดแยกขยะรีไซเคิล และให้กลับรวมตัวเป็นกรรมการกองทุน เพื่อไปรับซื้อขยะกับชาวบ้านที่เก็บไว้ ทั้งนี้ ผลที่ได้คือ หลังจากดำเนินและสำรวจบ่อขยะในเทศบาล พบขยะในพื้นที่ลดลงเหลือเพียง 25 ตันต่อวัน จากเดิมประมาณ 70 ตันต่อวัน
ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทำให้อาจารย์จากมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ เข้ามาเก็บข้อมูลและวิจัยร่วมกับเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และขยายผลออกไปท้องถิ่นอื่นๆ ด้วย โดยในปัจจุบันมีเครือข่ายร่วมงานแล้ว 20 เทศบาล!!!

‘ภูธัชชัย BUS’ จากนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้สู่ศิลปินไอดอล เผยเรื่องลับๆ ในวงใครนอนกรนดังที่สุด!
‘เอกชัย ศรีวิชัย’นำ ‘สรรพลี้หวน’วรรณกรรมใต้ขึ้นจอเงิน
‘เจี๊ยบ พิจิตตรา’แชร์ความสุขเล็กๆ หลังกลับไปบ้านเกิด
'จูรี นุ่มแก้ว'ยืนยันเหตุกู้ภัยเจ็ตสกีโดนยิงไล่หลัง ผวาจนต้องถอนตัว คือเรื่องจริง!!
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงคว้าเหรียญทองศิลปะบังคับม้า ประเภททีม ประเดิมการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี