ในวันที่สังคมไทยลุ่มหลงกับ “มนุษย์ฮัคยักษ์เขียว-ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่สร้างประวัติศาสตร์ ทำลายสถิติการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อย่างถล่มทลายด้วยคะแนนกว่า 1.4 ล้านเสียง จน “ลูกขุนพลอยพยัก” ประดิษฐ์วาทกรรม เชิดชูราวกับเป็น“ฉันทามติ” เสียอย่างนั้น
แต่ตรงข้ามกับการปฏิบัติหน้าที่อย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะพิษภัยธรรมชาติที่องค์กรที่เกี่ยวข้องประกาศเตือนกรณี“ร่องมรสุมกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในระหว่าง “วันที่ 5-9 กันยายน ซึ่งจะส่งผลให้หลายพื้นที่ในประเทศไทยประสบภาวะน้ำท่วมได้ ไม่เว้นแม้แต่กรุงเทพมหานคร”
แล้วเย็นวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมาฝนฟ้ากระหน่ำเทลงมาหลายกระทอก ถนน,ตรอกซอกซอยพื้นที่กทม.มีน้ำเอ่อล้นรอการระบายมากมาย อีเว้นท์ที่เห็นในการปฏิบัติหน้าที่ของ “มาเฟียเสาชิงช้า” กลับเป็นการช่วยเข็นรถที่ทนบาดแผลกับน้ำรอการระบายไม่ไหวไปต่อไม่ได้
แต่ในเวลาที่ “ทีมไทยแลนด์” ละเมอเพ้อพกไปกับภาพลวงตาเหมือนการเมืองไทยเมื่อสองทศวรรษที่แล้ว กับกำเนิด “อัศวินคลื่นลูกที่สาม-ตาดูดาวเท้าติดดิน”ด้วยความเชื่อที่ว่า “รวยแล้วไม่โกง” จนบัดนี้หูตาบางส่วนก็ยังไม่สว่างมากพอ โดยเฉพาะ “ส่ำสัตว์ในคอกที่ได้อาหารสดอาหารเม็ดคอยดูแลทั้งตนเองและโคตรเหง้า”
เมื่อไม่เบิกเนตรตาสว่างไม่มากพอก็ไม่เห็นคุณค่า “ฮีโร่พันธุ์นรก” ที่สร้างคุโณปการต่อสังคมไทยหลังเป็น “ท้าวมาลีวราช” ยุติความขัดแย้งแตกแยกของสังคมไทย และยุติการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์จากสงครามแย่งชิงอำนาจทางการเมือง
“ฮีโร่พันธุ์นรก”อย่าง “เฮลล์บอย”ที่ไม่ต่างไปจากพฤติกรรมของ “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” หัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติที่ยึดอำนาจการบริหารประเทศจากรัฐบาลรักษาการของ “นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล” ที่ขึ้นมามีอำนาจหลังการตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของ “กรรเชียงปูผู้ตระบัดสัตย์-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกรณีการโยกย้าย “นายถวิล เปลี่ยนศรี” พ้นเก้าอี้เลขาฯสมช. และย้ายพลตำรวจเอกวิเชียร พจน์โพธิ์ศรี จากผบ.ตร. มาดำรงตำแหน่งแทนเพื่อแต่งตั้ง “พลตำรวจเอกเพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นญาติขึ้นเป็นผบ.ตร.” เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นการกระทำที่มีผลประโยชน์แอบแฝงขัดต่อรัฐธรรมนูญ
แน่นอนกำเนิด “ลุงตู่” (ทางการเมือง) อาจไม่สง่างามนักในสายตาของผู้รักประชาธิปไตย แต่ระหว่างการตั้งไข่ไปจนถึงการเดินนั้นสง่างามสร้างความเจริญมากมายตลอด 8 ปี บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี นักวิชาการอิสระนักรัฐศาสตร์ประวัติศาสตร์อย่าง “อัษฎางค์ ยมนาค” โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจ เฟซบุ๊คถึงผลงานที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม 15 โครงการตลอดวาระนายกรัฐมนตรีอย่างน่าสนใจยิ่ง
ก่อนปิดท้ายว่า “ที่ผ่านมาแม้ประเทศไทยจะเจอกับเรื่องวิกฤตซ้อนวิกฤต ไม่ว่าจะจาก “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)”, ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงเกิดความแตกแยก ทางความคิดมากมายแค่ไหนก็ตาม รัฐบาลก็ยังเดินหน้าพัฒนาประเทศ อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ โครงการ EEC และการศึกษาด้วย”
ทำไมจึงว่า “ลุงตู่ เป็นฮีโร่พันธุ์นรก” หากเคยชมเคยอ่านการ์ตูนและชมภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คงไม่มีคำอธิบายใดๆ อีกแล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี