เป็นอีกงานใหญ่ช่วงท้ายปีที่เพิ่งผ่านพ้นไป กับ“Thailand Smart City Expo 2022” ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-2 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการนำเสนอชุดข้อมูลการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และเมืองอัจฉริยะ (Livable & Smart City) บนฐานงานวิจัยและนวัตกรรม สำหรับใช้ประโยชน์ในการพัฒนาเมืองน่าอยู่ และเมืองอัจฉริยะที่สอดคล้องกับบริบทประเทศไทย
กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุน ด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) หนึ่งในองค์กรร่วมจัดงานครั้งนี้ กล่าวว่า การพัฒนาเมืองน่าอยู่และเมืองอัจฉริยะภายใต้บริบทแบบไทย จะมุ่งเน้นประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกระดับที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนา ทั้ง “ระดับนโยบาย” เช่น สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (ETDA) ธนาคารโลก (World Bank) และ “ระดับภาคีเครือข่ายมหาวิทยาลัยในพื้นที่” อาทิ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยนเรศวร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ตลอดจนภาคีเครือข่ายภาคเอกชน อาทิ บริษัทพัฒนาเมือง บริษัท มิตรผลวิจัย พัฒนาอ้อยและน้ำตาล จำกัด รวมทั้งภาคีเครือข่ายท้องถิ่น อาทิ สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อทำให้เกิดความร่วมมือในการขับเคลื่อนเมืองน่าอยู่จากนโยบายสู่การปฏิบัติ (Policy in Action) อย่างเป็นรูปธรรม ภาคีเครือข่ายทุกระดับได้บรรลุความร่วมมือร่วมกันสถาปนาภาคีเครือข่ายเมืองอัจฉริยะประเทศไทย (Smart City Alliance Thailand) เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และเมืองอัจฉริยะ
โดยกำหนดบทบาทให้ บพท. มีหน้าที่สนับสนุนกระบวนการด้านวิชาการเพื่อการขับเคลื่อนแผนงานวิจัยด้านการพัฒนาเมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และเมืองอัจฉริยะ (Livable & Smart City) เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำของประเทศ สนับสนุนชุดความรู้ เครื่องมือในการบริหารจัดการเมืองทั้งระบบ ได้แก่ นักวิชาการ หรือ ผู้เชี่ยวชาญ องค์กรที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมวิจัยด้าน
การพัฒนาเมืองและท้องถิ่น
เพื่อให้งานในโครงการต่างๆ บรรลุเป้าหมายสนับสนุนการพัฒนาระบบพื้นที่กลางในการเผยแพร่ข้อมูล องค์ความรู้ และเรียนรู้กระบวนการวิจัยด้านการพัฒนาเมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และเมืองอัจฉริยะ (Livable & Smart City) เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำระหว่างสถาบันวิชาการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคชุมชน ภาคเอกชนและกลไกภาคีที่เกี่ยวข้อง
ร่วมจัดทำและผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยด้านการพัฒนาเมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และเมืองอัจฉริยะ (Livable & Smart City)เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายระดับหน่วยงาน กรม กระทรวง และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนดำเนินงานหรือกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่พิจารณาเห็นสมควรและเห็นชอบร่วมกัน
ด้าน ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร บพท. ชี้แจงเพิ่มเติมว่าชุดข้อมูลการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และเมืองอัจฉริยะ (Livable&Smart City) บนฐานงานวิจัยและนวัตกรรม จะเป็นรากฐานที่มั่นคงในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ครอบคลุมทั้ง 7 มิติ คือ มิติด้านการจัดการพลังงานที่ดี (Smart Energy) มิติด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี (Smart Environment) มิติด้านการจัดการระบบการขนส่งคมนาคมที่ดี (Smart Mobility)
มิติด้านการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ (Smart Economic) มิติด้านการพัฒนาทักษะความรู้ตลอดจนการมีส่วนร่วมของพลเมือง (Smart People) มิติด้านความสะดวกสบายและปลอดภัย (Smart Living)และมิติด้านการบริหารจัดการที่โปร่งใสมีธรรมาภิบาล (Smart Governance) ซึ่งจะส่งผลให้พลเมืองในเมืองอัจฉริยะ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (พ.ศ.2566-2570)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี