วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 02.00 น.
มิจฉาชีพยุคดิจิทัล

ดูทั้งหมด

  •  

รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเตอร์เนตในประเทศไทย ปี 2565 จัดทำโดย ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลสํานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รวบรวมข้อมูลที่พบว่า “คนไทยกับชีวิตดิจิทัลเป็นของคู่กันไปแล้ว”โดยข้อมูลจากรายงานที่ระบุถึงปี 2564 มีคนไทยเข้าถึงอินเตอร์เนตกว่า 52 ล้านคน คิดเป็นเกือบร้อยละ 80 จากประชากรทั้งหมดราว 66 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่มีคนไทยเข้าถึงอินเตอร์เนตราว 24 ล้านคน

แต่อีกด้านหนึ่ง “เทคโนโลยีกลายเป็นช่องทางหากินใหม่ๆ ของมิจฉาชีพ” ดังเรื่องที่ทำเอาตื่นตระหนกเมื่อเดือนม.ค. 2566 ที่ผ่านมาอย่าง “สายชาร์จดูดเงิน” เมื่อมีผู้ออกมาเปิดเผยว่า แค่เสียบสายชาร์จทิ้งไว้อยู่ดีๆ เงินในบัญชีก็ถูกโอนออกไปจำนวนมาก กระทั่งปรากฏความจริงในเวลาต่อมาว่า แต่กรณีที่เป็นข่าวสาเหตุมาจาก “แอปพลิเคชั่นดูดเงิน” ไม่ใช่สายชาร์จดูดเงินแต่อย่างใด แม้อุปกรณ์ดังกล่าวจะมีอยู่จริงก็ตาม


โดยสายชาร์จดูดเงิน เป็นอุปกรณ์ดัดแปลงให้ดักจับข้อมูลซึ่งการใช้งานจะต้องรอให้เหยื่อนำโทรศัพท์มาเสียบซึ่งก็มีคำเตือนมาตลอดว่าไม่ควรใช้สายชาร์จจากแหล่งที่ไม่แน่ใจหรือไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะสายชาร์จที่ถูกเสียบทิ้งไว้ในพื้นที่สาธารณะ แต่อุปกรณ์นี้ก็มีข้อจำกัดคือมิจฉาชีพต้องซุ่มรออยู่ในบริเวณที่ไม่ห่างจากจุดที่เสียบสายชาร์จวางกับดักไว้ขณะที่แอปพลิเคชั่นดูดเงิน หรือแอปพลิเคชั่นที่ฝัง “มัลแวร์” โปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์ไว้ หากเผลอติดตั้งไปในเครื่องแล้ว มิจฉาชีพสามารถเข้าถึงข้อมูลการใช้งาน หรือแม้แต่ควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เตือนประชาชน 8 ข้อ ลดความเสี่ยงการตกเป็นเหยื่อ 1.ไม่กดลิงก์ที่เเนบมากับข้อความสั้น (SMS) หรือกดลิงก์ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นต่างๆ เพราะอาจเป็นการดักรับข้อมูล หรือการฝังมัลแวร์ของมิจฉาชีพ 2.ไม่ดาวน์โหลด หรือติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชั่นที่ผู้อื่นส่งมาให้โดยเด็ดขาด แม้จะเป็นโปรแกรมที่รู้จักก็ตามโดยหากต้องการใช้งานขอให้ทำการติดตั้งผ่าน App Store หรือ Play Store เท่านั้น

3.ระมัดระวังแอปพลิเคชันที่ขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล เช่น อัลบั้มรูปภาพ, ไมโครโฟน, ตำแหน่งที่ตั้ง, หมายเลขโทรศัพท์, รายชื่อผู้ติดต่อ เป็นต้น 4.หากท่านตกเป็นเหยื่อ เผลอติดตั้งแอปพลิเคชั่นแล้ว ให้รีบเปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane Mode) เพื่อตัดสัญญาณไม่ให้โทรศัพท์สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เนตได้ รวมถึงถอดซิมโทรศัพท์ออกจากนั้นเข้าไปติดต่อกับศูนย์บริการโทรศัพท์ที่ท่านใช้งานอยู่

5.ไม่ใช้อุปกรณ์ใดๆ ในจุดให้บริการสาธารณะ หรือจากคนแปลกหน้า 6.ไม่ควรอนุญาตให้เว็บไซต์ หรือเบราว์เซอร์ (Web Browser) จดจำรหัสผ่านส่วนตัว หรืออนุญาตให้เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ 7.ไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ แล้วเข้าใช้งานเว็บไซต์ที่มีความเป็นส่วนตัว เช่น อีเมล, ธุรกรรมทางการเงิน, การเทรดหุ้น เป็นต้น และ 8.ไม่ควรเข้าใช้เว็บไซต์ที่ไม่มีความปลอดภัย เช่น เว็บพนัน, เว็บลามกอนาจาร รวมถึงการแอดไลน์ด้วย นอกจากนั้น ทางกระทรวงดิจิทัลฯ ยังเปิดเผยรายชื่อแอปฯ อันตราย กว่า 200 แอปพลิเคชั่น

ข้างต้นคือเหตุการณ์และความเคลื่อนไหวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเดือน ม.ค. 2566 ขณะที่หากย้อนไปช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2565 ในงานแถลงข่าวบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มีการเปิดเผย “10 อันดับการหลอกลวงทางไซเบอร์”ไล่ตั้งแต่ 1.หลอกลวงซื้อขายสินค้า จำนวน 47,864 ครั้ง คิดเป็น 32.78% ความเสียหาย 695,562,100 บาท

2.หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม จำนวน 20,325 ครั้ง คิดเป็น 13.92% ความเสียหาย 2,297,494,979 บาท 3.หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน จำนวน 17,559 ครั้ง คิดเป็น 12.02% ความเสียหาย 742,731,024 บาท 4.หลอกให้ลงทุน (ที่ไม่เข้าลักษณะฉ้อโกง) จำนวน 13,572 ครั้ง คิดเป็น 9.29% ความเสียหาย 66,100,207,026 บาท 5.หลอกลวงทางโทรศัพท์เป็นขบวนการ (Call Center) จำนวน 11,178 ครั้ง คิดเป็น 7.65% ความเสียหาย 2,338,579,710 บาท 6.หลอกลวงซื้อขายสินค้า (เป็นขบวนการ) จำนวน 8,022 ครั้งคิดเป็น 5.49% ความเสียหาย 54,309,000 บาท

7.หลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน จำนวน 4,158 ครั้งคิดเป็น 2.85% ความเสียหาย 166,253,946 บาท 8.หลอกให้โอนเงิน (ไม่เป็นขบวนการ) จำนวน 2,711 ครั้ง คิดเป็น 1.86% ความเสียหาย 17,926,215 บาท 9.หลอกให้รักแล้วลงทุน จำนวน 2,444 ครั้ง คิดเป็น 1.67% ความเสียหาย 1,063,173,413 บาท และ 10.เงินกู้ออนไลน์ ดอกเบี้ยเกินอัตรา จำนวน 1,996 ครั้ง คิดเป็น 1.37% ความเสียหาย 17,208,545 บาท

อนึ่ง ในส่วนของการหลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน เป็นอีกภัยออนไลน์ที่ปรากฏบนหน้าสื่อบ่อยครั้ง โดยผู้เสียหายที่หลงเชื่อเข้าไปขอกู้เงินมิจฉาชีพแล้วถูกขอให้โอนเงินเป็นค่าดำเนินการต่างๆ นานา กระทั่งรู้ตัวในท้ายที่สุดว่านอกจากจะไม่มีทางได้เงินกู้แล้วยังต้องเสียเงินที่มีอยู่ในตัวไปอีก โดย ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชวนทำความเข้าใจการกู้เงินผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่านบทความ “กู้ออนไลน์...ต้องรู้ทันโจร” แบ่งแอปฯ
กู้เงิน หรือบริการสินเชื่อออนไลน์เป็น 3 ประเภท

1.สินเชื่อในระบบ (เป็นผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต) ให้เงินกู้เต็มจำนวนในอัตราดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด 2.เงินกู้นอกระบบ แม้จะได้เงินจริงแต่มักได้ไม่เต็มจำนวน ต้องเสียค่าธรรมเนียมก่อน แต่ตอนผู้กู้จะจ่ายคืนต้องจ่ายเต็มจำนวน อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด ใช้วิธีการติดตามทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่คุกคามหรือทำให้อับอาย เช่น กำหนดให้ผู้กู้ต้องโหลดแอปฯ ที่อนุญาตให้เจ้าหนี้เข้าถึงรายชื่อบุคคลที่บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ไว้ ทำให้เจ้าหนี้สามารถโทรศัพท์ไปติดตามทวงถามกับคนเหล่านั้นได้

และ 3.มิจฉาชีพ หลอกลวงโดยทำทีให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลพร้อมยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องคล้ายกับการขอกู้เงินจริงๆ กับธนาคาร แต่เมื่อทำแล้วนอกจากจะหลอกเหยื่อให้โอนค่าธรรมเนียม ยังหลอกต่อไปอีกเรื่อยๆ ว่าขั้นตอนมีปัญหาต่างๆ นานา กระทั่งเหยื่อเริ่มรู้ตัวก็จะตัดการติดต่อไป ทั้งนี้ ธปท. ได้จัดทำรายชื่อและช่องทางการติดต่อที่ถูกต้องของผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต โดยประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของ ธปท. https://www.bot.or.th/ แล้วพิมพ์ในช่องค้นหาว่า “เช็คแอปเงินกู้” ซึ่งจะพบรายชื่อผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตทั้งสถาบันการเงินและ Non-bank และผู้ให้บริการที่ปัจจุบันปิดดำเนินการไปแล้ว

ก็ต้องบอกว่า “เทคโนโลยีช่วยให้เราสะดวกสบายขึ้น”แต่ขณะเดียวกัน “เทคโนโลยีก็ทำให้ภัยมาถึงตัวง่ายขึ้น” ครั้นจะหวังพึ่งรัฐก็ไม่ง่ายนักเพราะอาชญากรรมยุคดิจิทัลนั้นซับซ้อนจนการสกัดกั้นหรือแกะรอยจับกุมผู้กระทำผิดทำได้ยาก “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” แต่ละคนจึงควรตระหนักและระวังไว้ก่อนในเบื้องต้น!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
18:15 น. (คลิป) 'นายกอิ๊งค์' อ้าง! ใส่ชุดขาว ตอบนักข่าวเรื่อง 'ทักษิณ' ไม่ได้
18:12 น. ทำบุญอย่างไรให้ได้อานิสงส์มาก
18:00 น. (คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด 'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่
17:57 น. KNU ประกาศชัยชนะตีฐานทหารเมียนมาตรงข้ามช่องทางพุน้ำร้อนเมืองกาญจน์แตกกระเจิง
17:53 น. คดี‘ชั้น 14’พ่นพิษ! ‘บิ๊กต่าย’สั่งกองวินัยเตรียมสอบ‘หมอ รพ.ตำรวจ’
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 4-10 พ.ค.68
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
ดูทั้งหมด
อวสาน‘ทักษิณ’คุกรออยู่
ความต่างของ สิงคโปร์ กับ ไทย
คุกนรก (1)
นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’
บุคคลแนวหน้า : 9 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

(คลิป) 'นายกอิ๊งค์' อ้าง! ใส่ชุดขาว ตอบนักข่าวเรื่อง 'ทักษิณ' ไม่ได้

ได้โอกาสส่งออก! ‘อินโดนีเซีย’เผยปี’68คาดผลผลิตข้าวเหลือเกินบริโภคในปท.

ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

'DSI'ลงนามด่วนถึง'ผบ.ตร.-ปลัด มท.' ร่วมมือสอบสวนเอาผิดฟอกเงินคดีฮั้วเลือก สว.

(คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด 'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่

ไม่ปล่อยให้ผ่านมือ!'รอง ผกก.สืบฯฮีโร่'ขับรถกลางดึกเจอโจรผัวเมียงัดตู้เติมเงินจับทันที

  • Breaking News
  • (คลิป) \'นายกอิ๊งค์\' อ้าง! ใส่ชุดขาว ตอบนักข่าวเรื่อง \'ทักษิณ\' ไม่ได้ (คลิป) 'นายกอิ๊งค์' อ้าง! ใส่ชุดขาว ตอบนักข่าวเรื่อง 'ทักษิณ' ไม่ได้
  • ทำบุญอย่างไรให้ได้อานิสงส์มาก ทำบุญอย่างไรให้ได้อานิสงส์มาก
  • (คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด \'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า\' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่ (คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด 'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่
  • KNU ประกาศชัยชนะตีฐานทหารเมียนมาตรงข้ามช่องทางพุน้ำร้อนเมืองกาญจน์แตกกระเจิง KNU ประกาศชัยชนะตีฐานทหารเมียนมาตรงข้ามช่องทางพุน้ำร้อนเมืองกาญจน์แตกกระเจิง
  • คดี‘ชั้น 14’พ่นพิษ! ‘บิ๊กต่าย’สั่งกองวินัยเตรียมสอบ‘หมอ รพ.ตำรวจ’ คดี‘ชั้น 14’พ่นพิษ! ‘บิ๊กต่าย’สั่งกองวินัยเตรียมสอบ‘หมอ รพ.ตำรวจ’
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘สวนสัตว์มนุษย์’ บาดแผลยุคอาณานิคม

‘สวนสัตว์มนุษย์’ บาดแผลยุคอาณานิคม

3 พ.ค. 2568

สร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

สร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

26 เม.ย. 2568

ประชากรโลก2พันล้านคน ยังเข้าไม่ถึงสวัสดิการสังคม

ประชากรโลก2พันล้านคน ยังเข้าไม่ถึงสวัสดิการสังคม

19 เม.ย. 2568

เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายเดิม แม้จะยกเลิก-แก้ไขไปแล้ว

เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายเดิม แม้จะยกเลิก-แก้ไขไปแล้ว

12 เม.ย. 2568

ระวัง‘ปาร์ตี้โฟม-ไฟรั่ว’ ภัยอันตรายช่วงสงกรานต์

ระวัง‘ปาร์ตี้โฟม-ไฟรั่ว’ ภัยอันตรายช่วงสงกรานต์

5 เม.ย. 2568

‘ทุนโต-เทคโนโลยีก้าวไปไว’  แต่‘กลไกกำกับดูแล’ตามไม่ทัน

‘ทุนโต-เทคโนโลยีก้าวไปไว’ แต่‘กลไกกำกับดูแล’ตามไม่ทัน

29 มี.ค. 2568

สังคมไทยเริ่มตื่นตัว  สิทธิ‘ผู้ต้องหา-นักโทษ’

สังคมไทยเริ่มตื่นตัว สิทธิ‘ผู้ต้องหา-นักโทษ’

22 มี.ค. 2568

ระดมนักวิชาการไทย  รับมือ‘ทรัมป์2.0’เขย่าโลก

ระดมนักวิชาการไทย รับมือ‘ทรัมป์2.0’เขย่าโลก

15 มี.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved