สภาพการเมืองของประเทศไทยในขณะนี้มีความเสื่อมโทรมถึงขีดสุด แทบจะหาพรรคการเมืองที่เป็นพรรคการเมืองที่แท้จริงไม่ได้ แทบจะหานักการเมืองที่เป็นนักการเมืองที่แท้จริงไม่ได้ แทบจะหาสัจจะและความเชื่อถือใดๆ จากการเมืองไม่ได้
สภาพเช่นนี้ทำให้ทั่วทั้งประเทศตกอยู่ในสภาพที่ไว้วางใจอะไรใครไม่ได้ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งแหล่งที่ใหญ่โตหรือต่ำต้อยเพียงใด คำพูดทั้งหลายมักจะเป็นไปในลักษณะ “คราใดมีโอกาส ผู้ฉลาดพยายาม ส่อเสียดและใส่ความ เพื่อประโยชน์ ณ ตนถึง”
แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าจะตรัสสอนไว้เป็นอันมากว่า สัจจะ ทำให้คนเป็นคน ผู้ที่ไม่มีสัจจะ ไม่มีทางที่จะไม่ทำความชั่ว การสร้างกรรมทำชั่วทั้งหลายเป็นของประจำตัวและเป็นของคู่กันกับผู้ที่ไร้สัจจะ ดังนั้นใครก็ตามที่ไม่ซื่อถือความสัตย์ ไม่ดำรงความสัตย์ ย่อมอยู่ไม่ไกลจากความชั่ว และคนผู้นั้นที่จะไม่ทำความชั่วนั้นไม่มี
ในอดีตก็เคยมีการซื้อเสียงในการเลือกตั้งเพื่อหวังได้คะแนนเสียงจากประชาชน เริ่มต้นจากการให้อามิสเล็กๆ น้อยๆ เช่น ปลาทูบ้าง จอบเสียมบ้างต่อมาก็กลายเป็นใช้เงินเป็นค่าตอบแทน และในที่สุดก็พัฒนากลายเป็นการซื้อเสียง ซื้อเป็นรายคน ซื้อยกครอบครัว กระทั่งซื้อยกหมู่บ้าน จึงทำให้พัฒนาการแห่งความชั่วช้าเลวทรามทางการเมืองค่อยๆ เติบใหญ่ขึ้น
นั่นเป็นเรื่องของการซื้อเสียงจากประชาชน โดยนักซื้อคือผู้ที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนของประชาชน คนพวกนี้เมื่อเห็นประชาชนเป็นสินค้า
ตัวเองก็ค่อยๆ กลายเป็นสินค้า เพราะเมื่อซื้อได้ก็ขายได้ก็คือขายตัว โดยการขายเสียงกันในสภา ในลักษณะไม่เข้าประชุมบ้าง เข้าประชุมแล้วไม่ออกเสียงบ้าง หรือไม่ก็โหวตสวนกับพรรคที่ตัวเองสังกัด โดยไปโหวตสนับสนุนพรรคที่จ่ายเงินซื้อ
แม้จะมีเสียงติเตียนประณามแต่ไม่นานก็เงียบหายไป และกลายเป็นแบบอย่างให้แก่การซื้อ สส.ในสภา ที่ค่อยๆ พัฒนาจากการซื้อเสียงในสภากลายมาเป็นการซื้อหัวในสภา คือซื้อตัวของ สส.เสียเลย ปล่อยให้สังกัดอยู่พรรคเดิมแต่โหวตเสียงให้กับพรรคที่ซื้อ ทำให้การซื้อยกระดับขึ้นสู่ขั้นใหม่ เป็นขั้นการซื้อเสียงในสภา
ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ผิดจรรยาบรรณ ที่จะต้องถูกถีบหัวส่งออกจากตำแหน่ง แต่ก็หามีใครเอาใจใส่ทำให้การเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ใส่ใจว่าสิ่งเหล่านี้กระทบต่อศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของผู้แทนราษฎรขนาดไหน
เพราะการปล่อยปละในลักษณะสมรู้สมยอมเช่นนี้จึงทำให้การซื้อแบบนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดา จนในที่สุดต้องมีการตรากฎหมายให้พรรคการเมืองที่มี สส. แบบนี้สามารถขับไล่ สส. แบบนี้ออกจากพรรคได้ แต่ก็ไม่วายที่จะมีมือจัญไรไปหาทางออกไว้ให้ว่าถึงแม้จะถูกขับไล่ไสส่งออกจากพรรคเดิมก็มีสิทธิ์ที่จะไปหาพรรคใหม่สังกัดได้จึงกลายเป็นช่วยเหลือผู้สร้างกรรมทำชั่วทรยศต่อประชาชนหนักขึ้นไปอีก
จากการซื้อขายที่สลับซับซ้อนมากขึ้นจึงทำให้เกิดลัทธิบ้านใหญ่ขึ้นในหลายเขตเลือกตั้งของประเทศไทย กลายเป็นบางตระกูลผูกขาดในการเป็นผู้แทนราษฎร และใช้อำนาจอิงแอบสร้างฐานอำนาจของตน ทำให้พื้นที่นั้นเป็นอาณาจักรส่วนตนหรือตระกูลเดียว แล้วสืบทอดวงศ์วานว่านเครือ สส. กันสืบมาไม่ขาดสาย นี่คือการสืบสันตติวงศ์ทางการเมือง ซึ่งเป็นการทรยศต่อระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรงที่สุด
เมื่อซื้อเสียง ซื้อ สส. ได้ ก็ขายผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนได้โดยไม่ต้องละอายต่อบาป เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อใช้เป็นทุนรอนในการซื้อเสียง ซื้อ สส. ต่อไปอีก
ดังนั้นพฤติกรรมชั่วช้าเลวทรามนี้ก็ได้ขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวาง บางพรรคการเมืองได้ใช้เป็นกิจกรรมหลักในทางการเมือง ฉ้อฉลปล้นชาติปล้นราษฎรอย่างไม่ไยดีต่อบาปกรรม เพื่อนำเงินเหล่านั้นแบ่งไปซื้อเสียง ซื้อ สส. และกระทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
ในวันนี้มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าพรรคการเมืองไหน นักการเมืองคนไหน ซื้อ สส. เข้าพรรค ซื้อเสียงจากประชาชน ซื้อหัวคะแนนเข้ามาเป็นเครื่องมือในการซื้อเสียง ทำกันอย่างโจ่งแจ้งโจ๋งครึ่ม จนเป็นข่าวโด่งดังก้องกระหึ่มไปทั้งแผ่นดิน
ปรากฏการณ์เช่นนี้คือสัญญาณหมายว่าระบอบประชาธิปไตยสิ้นสูญไปจากบ้านเมืองของเราแล้ว สภาพที่เป็นอยู่คือการค้าทาสและขายชีวิต
ขายความเป็นมนุษย์ เพียงเพื่อผลตอบแทน โดยไม่คำนึงถึงผิดชอบชั่วดีกันอีกแล้ว และแน่นอนว่าย่อมไม่คำนึงถึงความเป็นไปในแผ่นดินว่าจะฉิบหายวายวอดเป็นกลียุคสักเพียงไหน
วันๆ ในสถานการณ์นับถอยหลังการเลือกตั้งบรรยากาศของทั้งประเทศเต็มไปด้วยการซื้อ คือซื้อ สส.เข้าพรรค ซื้อนักการเมืองมาเข้าพรรค ซื้อหัวคะแนนมาเข้าพรรค เอางบประมาณแผ่นดินไปฟาดหัวนักการเมืองเพื่อให้ยอมเป็นพวก บ้านเมืองจึงเต็มไปด้วยเรื่องซื้อขายความเป็นมนุษย์ในลักษณะที่ว่ามานี้
บ้านเมืองของเราในวันนี้อยู่ในวิกฤตทั่วด้าน ข้าวยากหมากแพง อาณาประชาราษฎรเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า แต่หามีใครใส่ใจแก้ไขความเดือดร้อนทุกข์เข็ญเหล่านั้นไม่ แต่ละวันมีแต่ข่าวคราวเรื่องซื้อเรื่องขายความเป็นคนกันอย่างไม่ละอายต่อบาป
สินค้าคนล้นตลาดอนาถไฉน คนพอใจเป็นทาสเงินกว่าเดินหนี
โลกจึงวุ่นคุณธรรมถูกย่ำยี แต่กูนี้ยอมตายไม่ขายตัว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี