l ชีวิต และความตาย ของมนุษย์คนหนึ่ง เป็นเรื่องที่มีความสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ เพราะ “ความคิด ความเชื่อฯจะกำหนด การใช้ชีวิตของคน”
ความคิด ความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์ ๒ ทาง คือ
๑. ชีวิตของคนคนหนึ่ง มีเกิดหนเดียว และตายหนเดียว
๒. ชีวิตของคนคนหนึ่ง มีเกิด ดับ หลายครั้งหลายหนการเวียนไหว้ตายเกิด มีชาติก่อน ชาตินี้ และชาติหน้า
l หากคนมีการศึกษา เรียนรู้ เรื่องชีวิตและความตายตามหลักเหตุผล และวิทยาศาสตร์
คนเรา จะได้ใช้ชีวิตในปัจจุบัน อย่างคุ้มค่า มีความหมายและมีประโยชน์ต่อตนเอง ผู้อื่นและสังคมมิใช่การทุ่มเท “ความคิด เวลา ทุน ฯลฯ” ให้ความสำคัญแก่ชีวิตในสวรรค์ ในภพหน้า ซึ่งจะมีส่วนลด “ความคิด” ในการทำเพื่อปัจจุบันลงไปไม่น้อย
l เรามาศึกษาทำความเข้าใจ ลำดับความคิดความเชื่อในเรื่องนี้กัน : ด้วยใจกว้าง มีสติใช้ปัญญาความจริง
ความคิดที่ ๒ : เป็นความคิดความเชื่อ ที่มาก่อน ยาวนานมากตั้งแต่ความเป็นมนุษย์เกิดขึ้น จากวิวัฒนาการของชีวิตของสิ่งต่างๆ ก่อนจะมาเป็น ชีวิตมนุษย์ มนุษย์ ยุคดึกดำบรรพ์ ยุคก่อนและยุคประวัติศาสตร์
มีประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณา
๑. อาศัยความคิด ความเชื่อ จาก ฟ้าดินน้ำลมไฟ และ ฯลฯ
๒. ไม่ได้ใช้เหตุผลที่ถูกต้องตามความเป็นจริง ไม่มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และ อื่นๆ ที่เกี่ยวกับชีวิต
๓. ฯลฯ
จนมาถึงยุควิทยาศาสตร์ ที่เริ่มมีหลักการ เหตุผล อย่างเป็นขั้นตอน ในช่วงประมาณ ๒,๐๐๐ ปี
l ในยุควิทยาศาสตร์ เราเริ่มเข้าใจ ด้วยเหตุผลมากขึ้น ซึ่งสามารถพิสูจน์ ที่ไปที่มาได้ ชีวิตเริ่มต้นของการพัฒนา จาก........
l แปดลำดับขั้นสำคัญๆ ของการจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
๑. สปีซีส์
๒. สกุล
๓. วงศ์
๔. ลำดับ
๕. ชั้น
๖. ไฟลัม/ส่วน
๗. อาณาจักร
๘. โดเมน
แล้วจึงมาถึงชีวิต
1. ดูคำอธิบาย ที่เป็นวิทยาศาสตร์ ข้างท้ายได้ความจริงว่า “ชีวิต มีที่มา และมีวิวัฒนาการ เป็นกระบวนการ” มิใช่เป็นเรื่องของ “วิญญาณ จิต ที่อยู่อิสระได้”
2. “การเกิดของชีวิตคนหนึ่ง” มีหลายส่วนที่เกี่ยวข้องและเรื่องของเวลา
(๑) การผสมพันธุ์ของ “อสุจิ” ของพ่อ กับ “ไข่” ของแม่
(๒) พ่อแม่ มีส่วนที่มาจาก “โครโมโซม ดีเอนเอ” ของบรรพบุรุษ
(๓) การต้องเวลาฟูมฟัก ในช่วงอยู่ในครรภ์มารดา
(๔) ฯลฯ
l ประเด็น ที่คนในยุคก่อน ไม่เข้าใจ เนื่องจากมีความรู้ไม่พอ และความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยให้เหตุผลที่ถูกต้องเป็นจริง
1. ประเด็นเกี่ยวกับ “การเกิดของชีวิต และการเกิดของมนุษย์” มีคำอธิบายที่แนบท้ายมา
2. ประเด็นเกี่ยวกับ “ความตาย”
๑. เป็นเรื่องของความไม่รู้ อวิชชา
- ขาดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความตาย หรือมีทัศนคติในเชิงลบ คือ มองว่าความตายเป็นการสูญเสีย เป็นการจากไป หรือเป็นด้านมืดของชีวิต
- เป็นเรื่องที่มนุษย์ส่วนใหญ่ ไม่รู้จริง จึงทำให้เกิดความกังวล
- เป็นความหวังของคนทุกข์ คนยากจนในปัจจุบัน การมีความหวังในชีวิตที่ดีกว่า สำหรับโลกหน้า
๒. ทัศนะทางศาสนา
-ศาสนาที่มีพระเจ้าเป็นศาสดาสอนว่า “ความตายใช่การจบชีวิต” แต่มีชีวิตใหม่ที่กำหนดโดยพระเจ้า
-ศาสนาที่มีมนุษย์ เป็นศาสดา ก็มิได้พูดชัด แต่มีการให้หลักคิดไปตีความ
(๑) เน้นให้คิดและทำดี ในปัจจุบัน
(๒) ไม่พูดชัดในเรื่องชาติหน้า แต่มีการถูกนำไปใช้ ว่ามีชาติหน้า กายดับ จิตยังอยู่
๓. แม้ในยุคปัจจุบัน การศึกษาและอธิบาย อย่างสมบูรณ์ ครบถ้วน ยังมีไม่มาก แต่มีรูปธรรมของการแสดงออกว่า
คนในประเทศพัฒนา ที่นับถือพระเจ้า เริ่มลดลง มีการตั้งข้อสงสัย และคำถามมากขึ้น หันมาให้ความสนใจเรียนรู้และปฏิบัติ ในเรื่องของชีวิต สมาธิ และการมาสนใจศาสนาที่มนุษย์เป็นศาสดามากขึ้น
แต่ปัญหาใหญ่ที่เป็นอุปสรรคบางประการ คือ
๑. มนุษย์ที่เจริญแล้ว ยังไม่ได้ทุ่มเทเอาจริง ที่จะศึกษาเรียนรู้ความจริงในเรื่องชีวิตและความตาย
๒. ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์โลกและชีวิต ยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนถูกต้องสมบูรณ์ได้
๓. บทบัญญัติในคัมภีร์ของทุกศาสนา มีหลักการใช้ชีวิตให้ได้ดีและนำไปปฏิบัติได้ผลจริง
๔. สังคมโลก สังคมทุนนิยม และสังคมของประเทศต่างๆยังมีคนส่วนน้อย ที่มีอำนาจ ฐานะทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจและศาสนาฯ ยังคงได้ประโยชน์ จาก “ความเชื่อ นี้อยู่ไม่น้อย”
๕. คนส่วนใหญ่ ขาดการพัฒนาด้านคุณภาพ ในการศึกษาเรียนรู้ และการแสวงหาความจริง
l ข้อมูลแนบท้าย
ชีวิต วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ชีวิต คือสถานะที่แยกสิ่งมีชีวิตหรืออินทรีย์ออกจากสิ่งไม่มีชีวิตหรืออนินทรีย์และสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว สิ่งมีชีวิตเติบโตผ่านกระบวนการสันดาป การสืบพันธุ์และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อม สิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดสามารถพบได้ในชีวมณฑลของโลก ส่วนประกอบทั่วไปของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ - พืช สัตว์ เห็ดรา โพรทิสต์ อาร์เคีย และแบคทีเรีย - คือ เซลล์ที่มีส่วนของน้ำและคาร์บอนเป็นหลัก และเซลล์แหล่านี้ถูกเรียบเรียงอย่างซับซ้อนตามข้อมูลจากหน่วยพันธุกรรม สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการสันดาป เพิ่มความสามารถในการเจริญเติบโต ตอบสนองต่อสิ่งรอบตัว และ มีการปรับตัวและวิวัฒนาการโดยการผ่านการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
สิ่งที่มีคุณสมบัติเหล่านี้เท่านั้น ที่ถือว่า เป็นสิ่งมีชีวิต
ชีวิต คือ หน่วยที่ต้องใช้พลังงาน มีคุณสมบัติทั้งกายภาพและชีวภาพดังต่อไปนี้
๑. ลักษณะเฉพาะในการจัดการของระบบร่างกาย specific oganization
๒. มีกระบวนการสันดาป metabolism
(๑) กระบวนการสลาย catabolism
(๒) กระบวนการสร้าง หรือ anabolism
๓. มีการสืบพันธุ์ reproduction
๔. มีการเจริญเติบโต growth
๕. มีการเคลื่อนไหว movement
๖. มีความรู้สึกตอบสนอง irritability
๗. มีการปรับตัวและวิวัฒนาการ adaptation and evolution
๘. มีภาวะธำรงดุล homeostasis
โครงสร้างสิ่งมีชีวิต
ทุกชีวิตมีประกอบด้วยส่วนที่เล็กสุดเรียกว่าเซลล์
-บางสิ่งมีชีวิตมีเพียง เซลล์เดียว (สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว)
-บางสิ่งมีชีวิตประกอบด้วยหลายๆ เซลล์มารวมกัน (สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์) เพื่อให้มีหน้าที่การทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง กลุ่มของเซลล์ที่มารวมๆ กันเป็นกลุ่มของเซลล์เรียกว่า เนื้อเยื่อ ในสัตว์จะเราจะแบ่งกลุ่มเนื้อเยื้อเป็นสี่ประเภทหลักๆ คือ กลุ่มเนื้อเยื่อบุผิว, กลุ่มเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน,กลุ่มเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ, กลุ่มเนื้อเยื่อประสาท กลุ่มเนื้อเยื้อบางส่วนจะทำงานร่วมกัน เป็นอวัยวะ ที่มีหน้าที่เฉพาะยกตัวอย่างเช่น (หัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือด หรือผิวหนังที่ทำหน้าที่ปกป้องเราจากสภาพแวดล้อมภายนอก) การร่วมตัวของกลุ่มเนื้อเยื้อรวมกันเป็นระบบอวัยวะของร่างกาย เช่น ระบบสืบพันธุ์, ระบบย่อยอาหาร ซึ่งร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิต
เซลล์
ทฤษฎีเซลล์ (Cell Theory) มีสาระสำคัญ คือ
“สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ประกอบด้วย เซลล์ และผลิตภัณฑ์ของเซลล์”
“เซลล์ทุกชนิดย่อมมีกำเนิดมาจากเซลล์ที่มีอยู่ก่อน”
ถือเป็นรากฐานสำคัญของชีววิทยาสมัยใหม่ มีสาระสำคัญคือ
๑. สิ่งมีชีวิตทั้งหลายประกอบด้วยเซลล์และผลิตภัณฑ์ของเซลล์
๒. เซลล์ที่เกิดใหม่ย่อมต้องมาจากเซลล์เดิมเท่านั้น
๓. เซลล์ทุกชนิดมีส่วนประกอบพื้นฐานและกระบวนการสร้างและสลาย (Metabolism)
๔. เหมือนกันพฤติกรรม กิจกรรม และกระบวนการต่างๆ ที่ดำเนินอยู่ของสิ่งมีชีวิต เป็นผลมาจากการทำงานร่วมและประสานกันของกลุ่มเซลล์ ฯลฯ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี