วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / อ่านระหว่างบรรทัด
อ่านระหว่างบรรทัด

อ่านระหว่างบรรทัด

สันติสุข มะโรงศรี
วันจันทร์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 02.00 น.
13 ปี คดียึดทรัพย์ทักษิณ ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยหรือ?

ดูทั้งหมด

  •  

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษายึดทรัพย์ของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ที่ได้จากการขายหุ้นและเงินปันผล รวมทั้งสิ้น 46,373 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ฐานร่ำรวยผิดปกติ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สมควร อาศัยอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตน เป็นการกระทำที่ขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม (คดีนี้ไม่มีโทษจำคุก)


มาปีนี้ ทักษิณส่งลูกสาวลงสู่สนามการเมืองหวังแย่งชิงอำนาจรัฐ

ป่าวประกาศบนเวทีซ้ำๆ ว่า “พ่อใหญ่ทักษิณอยากกลับบ้าน”

ให้สัมภาษณ์ซ้ำซาก ว่าทักษิณถูกกลั่นแกล้งMy dad was GONG ฯลฯ

ทักษิณก็เคลื่อนไหวการเมืองถี่ยิบ ราวกับบงการพรรคเอง บอกจะกลับบ้านแน่นอน ไม่ติดคุก(แล้วมาอ้างทีหลังว่าไม่ต้องอาศัยออกกฎหมาย ไม่ต้องพึ่งพรรคการเมือง ซึ่งใครจะเชื่อ)

ทั้งหมด ทำราวกับสังคมไม่ได้เรียนรู้เลยว่าคดียึดทรัพย์ทักษิณนั้น ได้ตีแผ่ “ความจริง” เกี่ยวกับการฉ้อฉลอำนาจรัฐ เอื้อประโยชน์แก่ตนเองมโหฬารที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างไร?

13 ปี คดียึดทรัพย์ทักษิณ ตอกย้ำอะไรบ้างที่สังคมไม่ควรลืม?

1. ศาลฎีกาฯ ชี้ชัดว่า ทักษิณคือเจ้าของหุ้นชินฯ ตัวจริงโดยตลอดช่วงที่ยังเป็นนายกฯ แต่ใช้วิธีใช้ตัวแทนเชิด อำพรางความเป็นเจ้าของไว้

ประการสำคัญ ขณะเป็นนายกฯ ได้อาศัยอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจส่วนตัวโดยมิชอบ หลายกรณีสำคัญ ได้แก่ กรณีแปลงสัมปทานโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต, กรณีเงินกู้เอ็กซิมแบงก์เอื้อกิจการโทรคมนาคม, กรณีแก้สัมปทานมือถือลดอัตราส่วนแบ่งรายได้พรีเพด, กรณีแก้ไขสัญญาอนุญาตให้ใช้เครือข่ายร่วม (ROAMING), กรณีแก้สัมปทานดาวเทียม กรณีดาวเทียมไอพีสตาร์ (หลังจากนั้นจึงมีคดีความผิดทางอาญาในแต่ละกรณีที่เป็นความผิดกับผู้เกี่ยวข้องโดยตรงตามมา)

ขณะนั้น ศาลฎีกาฯ ตัดสินยึดเฉพาะส่วนที่เพิ่มขึ้นหลังดำรงตำแหน่งนายกฯ และเงินปันผล (ถือว่าเป็นทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นมาโดยมิชอบ ร่ำรวยผิดปกติ)รวม 46,373 ล้านบาท

จากเงินที่รวบรวมขายหุ้นทั้งหมด 76,261ล้านบาท

โดยคืนส่วนที่เหลือ 30,247 ล้านบาท เพราะเห็นว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เงินที่มีอยู่แต่เดิม

ต่างกับการยึดทรัพย์กรณีคดียาเสพติด เจอเท่าไหร่ยึดหมด ไม่มีคืนให้ เพราะถือเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดด้วย

ครั้งนั้น ตระกูลชินวัตรจึงได้เงินคืนไปกว่าสามหมื่นล้านบาท

2. ในคดีทักษิณร่ำรวยผิดปกติฯ แม้นายพานทองแท้นางสาวพินทองทา อ้างว่าตนเป็นเจ้าของหุ้นชินฯ แต่ศาลฎีกาฯ ชี้ขาดว่า ทักษิณเป็นเจ้าของตัวจริง เพียงแค่ซุกใส่ชื่อลูกๆ และแอมเพิล ริช ไว้ เท่านั้นเอง

โดยต่อมา คดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและส่วนรวม (คำพิพากษา ปี 2563) ศาลฎีกาฯ ชี้ขาดไว้อย่างชัดแจ้ง

ระบุว่า พานทองแท้ - พินทองทา - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร - บรรณพจน์ ดามาพงศ์ ที่ปรากฏชื่อถือหุ้นชินฯในช่วงทักษิณเป็นนายกฯ นั้น ล้วนแต่เป็นผู้ถือหุ้นแทนนายทักษิณ เพื่อหลบเลี่ยงกฎหมายทั้งสิ้น

คุณหญิงพจมานเป็นคนชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนให้นายบรรณพจน์

ส่วนการขายหุ้นให้นายพานทองแท้ นางสาวยิ่งลักษณ์ และนายบรรณพจน์ ต่างก็ใช้วิธีออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อชําระค่าซื้อหุ้น มีกําหนดใช้เงินเมื่อทวงถามโดยไม่มีดอกเบี้ย พูดง่ายๆ คือ ยังไม่จ่ายเงินค่าหุ้นจริงๆ ศาลระบุถึงขนาดว่า “ตามพฤติการณ์ดังกล่าวจึงน่าเชื่อว่า แท้จริงไม่มีการโอนซื้อขายและไม่มีการชําระราคากันจริง” แถมมีเอกสารเชิงลึกจากธนาคารกลางประเทศสิงคโปร์ประกอบ มัดแน่น ว่าเจ้าของหุ้นชินตัวจริง คือ ทักษิณและภริยาโดยตลอด ยังคงเป็นผู้ควบคุมกิจการชินคอร์ปในขณะนั้น พร้อมกับอาศัยอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจส่วนตัว

ศาลฎีกาฯ ชี้ขาดว่า ทักษิณยังคงเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทชินคอร์ปฯ ซึ่งเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐ โดยให้บุคคลอื่นมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นแทน อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม และฝ่าฝืนกฎหมาย

ศาลวินิจฉัยว่า ทักษิณได้มอบนโยบายและสั่งการกรณี พ.ร.ก.เก็บภาษีสรรพสามิตจากกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งได้รับสัมปทานจากรัฐ และให้คู่สัญญาภาคเอกชนนำภาษีสรรพสามิตมาหักออกจากส่วนแบ่งรายได้หรือค่าสัมปทานที่คู่สัญญาภาคเอกชนจะต้องนำส่งให้คู่สัญญาภาครัฐได้ เอื้อประโยชน์ให้แก่เอไอเอส และบริษัท ดีพีซี ทั้ง 2 บริษัทเป็นบริษัทในเครือของบริษัทชินคอร์ปฯ ซึ่งจำเลยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ให้ทั้ง 2 บริษัทได้รับคืนเงินภาษีสรรพสามิต โดยมีสิทธินำไปหักออกจากค่าสัมปทานที่ต้องนำส่งให้ ทศท. และ กสท. เป็นผลให้ ทศท. และ กสท. ได้รับความเสียหาย

พิพากษาลงโทษ ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ จำคุก 2 ปี

ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น จำคุก 3 ปี

รวมเป็นจำคุก 5 ปี

3. ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา ยังมีคดีทุจริตประพฤติมิชอบอีกหลายคดี ด้วยมูลเหตุจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เอื้อประโยชน์แก่ทักษิณ

ศาลมีคำพิพากษาชี้ขาด ปรากฏพยานหลักฐานข้อมูลความจริง

และมีบุคคลที่กระทำผิดต้องติดคุกติดตะรางไปจำนวนมาก

เฉพาะที่เป็นความผิดทางอาญาของนายทักษิณ ได้แก่ คดีปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ คุก 3 ปี, คดีหุ้นชินคอร์ปฯ (ใช้นอมินีถืออำพรางความเป็นเจ้าของและภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคม) 5 ปี, คดีหวยบนดิน คุก 2 ปี

หลายคดี ทักษิณเป็นฝ่ายชนะ เช่น คดีเงินกู้กรุงไทย คดีทีพีไอ เป็นต้น

นอกจากนี้ คดีที่เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เอื้อประโยชน์แก่คนในครอบครัวทักษิณ เช่น คดีสัมปทานดาวเทียม หมอเลี๊ยบ อดีต รมว.ไอซีทีคุก 1 ปี, คดีพาสฟอร์ต นายสรพงษ์ อดีต รมว.ตปท. คุก 2 ปี, คดีธรณีสงฆ์อัลไพน์ ยงยุทธ คุก 2 ปี,คดีช่วยเลี่ยงภาษี อดีตอธิบดีสรรพากรคุก 3 ปี, คดีลดค่าสัมปทานเอไอเอส อดีต ผอ.องค์การโทรศัพท์ คุก 6 ปี เป็นต้น

4. ข้างต้น เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น

ในโอกาสครบรอบ 13 ปี คดียึดทรัพย์ทักษิณ ร่ำรวยผิดปกติ สังคมไม่ควรปล่อยให้ผู้มีผลประโยชน์ส่วนได้เสีย ดำเนินการบิดเบือนความจริง ตัดตอนสาระสำคัญ หรือแม้แต่โกหกหน้าตาเฉย ราวกับว่าทักษิณถูกกลั่นแกล้ง

ทั้งๆ ที่ ในคำพิพากษาของศาลมากมายหลายคดี ล้วนตอกย้ำถึงพฤติการณ์อาศัยอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์โดยมิชอบ อย่างชัดเจน โจ๋งครึ่ม

ไม่ควรจะมีคำแก้ตัวแบบดูถูกสติปัญญาคนฟัง โดยประดิษฐ์วาทกรรม เช่น

“ขายหุ้นในตลาด ไม่ต้องเสียภาษี” - ความจริง กรณีทักษิณขายหุ้นชินฯ ที่ถูกเรียกเก็บภาษีนั้น คือ การขายหุ้นจากแอลเพิล ริช ให้ลูกๆ นอกตลาดหลักทรัพย์ต่างหาก จากนั้นค่อยให้ลูกๆ ขายต่อให้กลุ่มเทมาเส็กในตลาดอีกทอด (และที่ขายยกลอตได้หมด ก็เพราะอาศัยอำนาจรัฐแก้กฎหมายปลดล็อกสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติก่อนแค่ไม่กี่วัน)

“ถูกกลั่นแกล้ง” – ความจริง การแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์แก่ตนเอง เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนทักษิณเป็นนายกฯ ไม่เกี่ยวกับรัฐประหาร คดีทักษิณไม่มีการสร้างหลักฐานเท็จมาใส่ร้ายเลย มีแต่หลักฐานจริงที่มีอยู่แล้วทั้งนั้น (และบางคดีเมื่อหลักฐานไม่ชัดเจน อาทิ คดีกรุงไทยศาลก็ยกประโยชน์ให้จำเลย)

“อยากกลับบ้าน” – ความจริง ไม่มีใครห้ามทักษิณกลับบ้าน ตนเองหนีคดีไปเอง โดยหนีโทษจำคุก หนีหมายจับ ทั้งๆ ที่ บริวารที่กระทำผิดถูกศาลพิพากษา ก็ติดคุกกันอยู่จำนวนมาก

บทเรียน 13 ปี คดียึดทรัพย์ร่ำรวยผิดปกติ กลายเป็นว่า ฝ่ายที่เคยอ้างว่าให้ “ก้าวข้ามทักษิณ” กลับพยายามชักนำสังคมกลับไป “ติดหล่มทักษิณ” อีกครั้ง

ด้วยวาทกรรมทักษิณอยากกลับบ้าน อยากให้ทักษิณกลับมาช่วยงาน

โดยไม่ได้เรียนรู้เลยว่า ทักษิณกลับมาต้องติดคุกตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ และยังมีอีกหลายคดีรออยู่

สันติสุข มะโรงศรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:21 น. ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี
22:14 น. ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2
22:06 น. จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก
22:01 น. พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’
21:55 น. ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่
ดูทั้งหมด
การทูตหยุดโลก 'อ.ธรณ์'ชี้ความสำคัญ ในหลวงเสด็จเยือนจีน
ยูเนสโกประกาศยกย่อง 'ในหลวงรัชกาลที่ 9' และ 'สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ'
เบื้องหลังฉลองพระองค์ 'สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี'
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
งดงามดุจจันทรา! เปิดรายละเอียด'ไหมเปลือก 6 เส้น' ที่สุดแห่งเส้นใยชั้นนอกสู่ฉลองพระองค์อันวิจิตร
ดูทั้งหมด
การกลับมาของสภาพคล่องโลกหลัง Government Shutdown สหรัฐฯ - จะเป็นตัวเร่งรอบใหม่ของตลาดคริปโตหรือไม่?
ชะตาชีวิตของ‘ทักษิณ’
เทศกาลลอยกระทง...ขยะที่ลอยไม่ไปไหน กับปัญหาคอร์รัปชันที่ยังไม่จมหาย
3 หลี่ กงกง
1.76 หมื่นล้านบาท ทำไมทักษิณต้องจ่ายภาษีขายหุ้นชินฯ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่

จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก

เรื่องชวนคิด!!! เลือก'ปธ.กกต.คนใหม่'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?

ศึกอสรพิษ!‘งูบู๊ตะขาบ’ สุดท้ายไม่พ้นมือกู้ภัยอุดรธานี

ฟุตบอลลั่นกวาดหมด! สมาคมกีฬาฟันธง241ทองซีเกมส์

แฟนคลับส่งกำลังใจ! 'เก้า สุภัสสรา'เผยป่วยเนื้องอกในมดลูก เมนส์มาไม่หยุดจนเป็นลม

  • Breaking News
  • ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี
  • ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2 ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2
  • จาก\'อังกฤษ\'สู่\'ไทย\' : เปิดใจ\'จู๊ด เบลล์\'วันแจ้งเกิดช้างศึก จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก
  • พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’ พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’
  • ปากดีต้องโดนแบบนี้! \'ยุ้ย ญาติเยอะ\'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่ ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ไทยยืนหยัด  ในสงครามล่าเมืองขึ้น ด้วย Reciprocal Tariffs

ไทยยืนหยัด ในสงครามล่าเมืองขึ้น ด้วย Reciprocal Tariffs

17 พ.ย. 2568

ปรากฏการณ์ ‘หมอนทอง... วิทยา’

ปรากฏการณ์ ‘หมอนทอง... วิทยา’

10 พ.ย. 2568

ปิดฉากมหากาพย์  ค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ปิดฉากมหากาพย์ ค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว

3 พ.ย. 2568

ถ้าลงนามแล้ว กัมพูชาไม่ทำ?

ถ้าลงนามแล้ว กัมพูชาไม่ทำ?

27 ต.ค. 2568

อัยการสูงสุดคนใหม่ ปมอุทธรณ์คดี 112 ทักษิณ  บทพิสูจน์ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม

อัยการสูงสุดคนใหม่ ปมอุทธรณ์คดี 112 ทักษิณ บทพิสูจน์ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม

20 ต.ค. 2568

การเมืองยุคหลังลุงตู่

การเมืองยุคหลังลุงตู่

13 ต.ค. 2568

ความจริง... ทองคำในทุนสำรองฯ ของไทย

ความจริง... ทองคำในทุนสำรองฯ ของไทย

6 ต.ค. 2568

ไม่อุทธรณ์คดี 112 ทักษิณ ?!?!

ไม่อุทธรณ์คดี 112 ทักษิณ ?!?!

29 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved