แน่นอนช่วงเวลานี้ “พิกุลทอง” จะร่วงสักกี่ดอกก็ไม่พ้นคำว่า “ประชาธิปไตย” คำเดียวที่ปลุกปั่นให้สังคมตื่นตูมเต้นตามเริ่มขึ้นหลังการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 การแบ่งขั้วถูกหยิบมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 โดยกลุ่มอำนาจเก่าที่ถูกรัฐประหารคว้าผ้าดิบเขียนคำว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” มาห่อกาย ขณะที่ถีบส่งฝ่ายตรงข้ามให้เป็น “ฝ่ายเผด็จการสืบทอดอำนาจ”
4 ปีผ่านไป พรรคการเมืองซีกที่ถูกสาดสีว่าเป็นฝ่ายเผด็จการสืบทอดอำนาจ รังสรรค์ความเจริญความสงบความรุ่งเรืองให้สังคมไทยผ่านพ้นวิกฤตมาได้ โดยเฉพาะวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)ท่ามกลางเสียงชื่นชมของนานาอารยประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ จนถึงวันสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่ง และเตรียมจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566
คำว่า “ประชาธิปไตย” ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ฝ่ายหนึ่งเขียนลงบนผ้าดิบแล้วนำมาห่อคลุมกายเช่นเดิม บางกลุ่มบางก๊วนประกาศกลางเวทีตามล่าหา “ประชาธิปไตย”ที่หายไปคืนกลับมา
ตลอด 4 ปีผ่าน ในฐานะสื่อมวลชน ยังคงเห็นเสรีภาพในการคิดการพูดอย่างไม่มีกรอบจำกัด โดยไม่ล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นไม่ล่วงละเมิดข้อกฎหมาย ยังคงเห็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ อยู่กับสังคมไทย ยังเห็นการชุมนุมเรียกร้องที่ไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงในระบอบประชาธิปไตย และเห็นการเรียกร้องที่อ้างประธิปไตยแต่ไม่เคารพกฎหมายและสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ทั้งยังมีพรรคการเมืองคอยปลุกปั่นให้กระทำฝ่าฝืนกฎหมายด้วย
การเลือกตั้งจะเป็นพิธีกรรมหนึ่งในระบอบประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยไทยไม่เวิร์กเอาเสียเลยตลอด 91 ปีที่มีการปฏิวัติสยามในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระราชทานรัฐธรรมนูญให้บังคับใช้กับสังคมไทยผ่าน 3 สถาบัน ทั้งบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ
เหตุที่ “ประชาธิปไตยไทยไม่เวิร์ก”เพราะประชาธิปไตยที่ดีที่สุดคือ 1 คน 1 สิทธิ์ ทุกคนไปลงคะแนนเลือกตั้ง เพื่อจะได้รัฐบาลที่ดี
แต่จริงๆแล้วคนมีสิทธิ์ทั่วไปไม่รู้วิธีโหวตลงคะแนนเลยทำให้ประชาธิปไตยไม่ได้ผล ยกตัวอย่าง เช่น สมมุติว่าคุณจะขึ้นเครื่องบิน ก่อนเครื่องจะทะยานจากพื้นสู่อากาศ คุณและผู้โดยสารทุกคนจำเป็นต้องลงคะแนนเลือกกัปตันเพื่อขับเครื่องบินโดยมีผู้เสนอตัว สองคน กับภารกิจที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายสูงนี้
คนแรกบอกว่าถ้าคุณเลือกให้เขาทำหน้าที่กัปตัน เขาจะทำตามกฎการบินสากลอย่างเคร่งครัด และบินที่ระดับความสูง 30,000 ฟิต ขณะที่คนที่สองโน้มน้าวว่า ถ้าคุณเลือกเขาทำหน้าที่กัปตันขับเครื่องบิน เขาจะจัดให้คุณได้นั่งชั้นธุรกิจ
เราจะไม่พูดถึงเงินจำนวนมหาศาลที่สะพัดในการเลือกตั้งทุกครั้ง แต่ในความเป็นจริงของสังคมไทยการลงคะแนนโหวตส่วนใหญ่นั้นใช้ความรู้สึกโดยไม่ค่อยมีข้อมูลตามธรรมชาติซึ่งผลการโหวตก็คือคนส่วนใหญ่จะโหวตกัปตันที่เสนอให้นั่งเครื่องบินชั้นธุรกิจ จึงได้คนแย่ๆ ที่ไม่ยึดกฎกติกามาทำหน้าที่ทั้งที่เขาคนนั้นไม่มีประสบการณ์การบินสักน้อยนิด และกว่าจะรู้ เครื่องบินก็ตกลงทะเลไปเสียแล้ว
การบริหารประเทศชาติบ้านเมืองก็เช่นกันมันยากเหมือนกับการขับเครื่องบิน ต้องอาศัยความชำนาญประสบการณ์หลายปีภาษี อาวุธสงคราม ภูมิศาสตร์การเมือง สุขภาพ ชายแดน ปัญหาเหล่านี้ต้องการมืออาชีพ ต้องใช้เวลา 10 ปี ในการขับเครื่องบินลำนี้ แต่รัฐบาลของเราที่ใครๆ ก็สามารถโหวตได้ ใครๆ ก็เป็นได้ ประชาธิปไตย เปลี่ยนรัฐบาลทุก 4 ปี แต่ปัญหาเหล่านี้ต้องใช้เวลาแก้ไข 20 ปี
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งพิจารณาอย่างถ่องแท้อย่างมีข้อมูลดีหรือยัง
จะเลือกใครมาทำหน้าที่กัปตันเครื่องบิน จะเลือกแบบที่เสนอความสะดวกสบายแต่ไร้ประสบการณ์ หรือเลือกกัปตันอาชีพมาทำหน้าที่ก่อนเครื่องบินตก
สมควรใช้คนละสิทธิ์เลือกใครมาเป็นรัฐบาล มือไร้ประสบการณ์แต่โปรยยาหอม
หรือเลือกผู้มีประสบการณ์ที่ทำแล้ว ทำอยู่ มาทำต่อ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี