lส่องชีวิตของมนุษย์ สัตว์ประเสริฐ ที่ฝึกและพัฒนาได้ ด้วย ธรรม สติปัญญา ความจริง 17

lกราบสวัสดี พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักและเคารพ

กราบสวัสดี พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักและเคารพ และ

กราบสวัสดี พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักและเคารพ

วันนี้ที่ผมได้กล่าวสวัสดี พ่อแม่พี่น้องชาวไทย ที่รักและเคารพ ถึง ๓ ครั้ง ๓ หน เพราะมีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับชีวิตของทุกคน และอนาคตของบ้านเมืองที่รักยิ่งของเรา ที่ผมจะขออนุญาต นำมาเล่าให้ทุกท่านฟังในวันนี้

lจากวันนี้ ไปอีก ๖ วัน ก็จะถึง “วันเลือกตั้ง ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖”

“วันชี้ชะตาของสังคมไทยแล้ว ว่าจะไปในทิศทางใด!” และผลของมันจะเป็นอย่างไร นั้น ! มีคนบางกลุ่มบางส่วน ปรารถนาจะเป็นผู้บงการ ผู้กำหนด ให้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง โดยนักเลือกตั้ง นายทุนเจ้าของพรรค พรรคการเมืองต่างๆ มีการเคลื่อนไหว ในทุกรูปแบบ โดยยอมเสียหน้าเสียตา ออกไปก้มกราบ ขอร้อง ขอเสียงจากท่าน ราวกับว่า “เขารักเคารพท่าน และถือว่าท่านเป็นคนสำคัญที่สุด” ในชีวิตที่จะขอให้ “ท่านเลือกพรรคนั้น เบอร์นี้” โดยใช้ทั้งนโยบายที่โก้หรู สัญญาว่าจะให้โน้นให้นี่ มากมาย ไม่แพ้กันในแต่ละพรรค รวมทั้ง มีการจ่ายเงินทองมหาศาล ก้อนโต ทั้งทางตรงและทางอ้อม มีรูปแบบที่หลากหลาย ซับซ้อน ซ่อนเงื่อนฯ ทั้งนี้ ความมุ่งหวังของเขา คือ เพื่อให้ “เขาและเธอ” ได้กลับมาครอบครองอำนาจรัฐของประชาชน

ถือเป็นการเลือกตั้ง ที่มีการแข่งขัน ชิงดีชิงเด่นกัน ครั้งใหญ่กว่าครั้งใดๆ ที่ผ่านมาในอดีต เพราะ “เดิมพัน ครั้งนี้ มันหมายถึงโอกาส ครั้งเดียว ครั้งใหญ่ และบางคนอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย”

lกราบสวัสดี พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักและเคารพ

การเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีความขัดแย้ง ความรุนแรง และการช่วงชิงกันทุกรูปแบบ

ไม่มี “คำว่ามิตร” ในระหว่างสงครามเลือกตั้ง

จะเกิดการแสวงหามิตร หลังการเลือกตั้ง คือในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เป็นต้นไป

หลากหลายรูปแบบที่ช่วงชิงกัน เพื่อสู่ชัยชนะของแต่ละพรรค

๑. การแข่งขัน ระหว่าง “ฝ่ายรัฐบาล” และพรรค “ฝ่ายค้าน”

๒. การแข่งขันในพรรคฝ่ายรัฐบาล

๓. การแข่งขันในพรรคฝ่ายค้าน

๔. การแข่งขัน ชิง “คะแนน สส.เขต และ สส.บัญชีรายชื่อ”

๕. การใช้ผลงานที่ได้ทำมา และนำเสนอสิ่งที่จะทำต่อ

๖. การใช้ “เงิน อำนาจ สื่อ นักวิชาการ พรรค มวลชน และอิทธิพลตะวันตกที่เข้าแทรกแซงการเลือกตั้งไทย”

๗. ใบเหลือง ใบแดงจาก กกต. โดยเฉพาะ “การยุบพรรค” หลังวันเลือกตั้ง

๘. การป่วนกวนเมือง อย่างรุนแรง ของพรรคฝ่ายแค้นที่ไม่ยอมรับ คำตัดสินของ กกต.

๙. ................................................................................

เรื่องต่างๆ เหล่านี้ บางคนก็ได้เห็นมาบ้างแล้ว และจะได้เห็นต่อไปข้างหน้า

lกราบสวัสดี พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักและเคารพ

แล้วเราจะคิดพิจารณาอย่างไร และเราจะเลือกพิจารณา เลือกพรรค คนใดในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ยากแก่ความเข้าใจจริงๆ

นักวิชาการและทีมวิเคราะห์การเมืองมืออาชีพ ได้แนะนำให้พิจารณาจากเหตุปัจจัยสำคัญฯ

๑.ศักยภาพ ผลงาน ที่ทำให้กับประชาชนและบ้านเมืองในช่วง ๔ ปี ที่ผ่านมา

(๑) ฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล : สร้างผลงานเป็นประจักษ์แก่สายตาคนไทยและโลก สัมผัสจำต้องได้

(๒) ฝ่ายค้าน นอกจากไม่มีผลงาน ยังเล่นจำอวด ป่วนบ้านเมือง เพื่อทำลายภาพพจน์ประเทศ

๒. การประเมินผลการเลือกตั้ง ต้องตั้งอยู่ความเป็นจริง มิใช่ โคมลอย

(๑) หากินกับภาพเก่าความฝันที่เลื่อนลอย ในยุคที่มีอำนาจมิชอบฯ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ทุกข์เจ็บปวด

(๒) การสร้างกระแส : ซ้ายจัด ของคนหนุ่มสาว จำนวนหนึ่งที่มิใช่คนส่วนใหญ่ของการเลือกตั้ง

๓. สิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่ ต้องการให้เกิดขึ้น คงอยู่ คู่บ้านคู่เมืองไทยไปตลอดกาล

(๑) สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนที่เป็นศูนย์รวมจิตใจประชาชน

(๒) ประเพณี วัฒนธรรม อันดีงามของสังคมไทย ที่ทั่วโลกชื่นชม และอยากมาเที่ยวฯ ลูก เคารพพ่อแม่ ลูกศิษย์เคารพครู ชาวบ้านเคารพกฎหมาย ประชาชน มีความเคารพ กตัญญู ต่อผู้มีพระคุณ และแผ่นดินเกิด คือ เป็นชีวิตที่มีความสุขกายสบายใจ มีชีวิตที่พออยู่ได้ ไม่ทุกข์ร้อนมากนักและมีการพัฒนาปรับปรุง ให้เกิดความรัก ความเคารพและความสามัคคีต่อกัน

(๓) ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง หรือ ปลดแอกอะไรไม่รู้แบบซ้ายจัดสุดซอย ตามความเชื่อของฝ่ายแค้นการทำลาย ยกเลิกระบบการเมืองเศรษฐกิจสังคม การค้าการประกอบการ ที่ดูเหมือนดี ซึ่งจะเกิดผลเสียหายใหญ่หลวงต่อส่วนรวม แต่เพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งของเขาเหมือนที่เคยเกิดขึ้น ในประเทศจีน สมัย RED GUARD และฮ่องกง ฯลฯ แต่ความจริง คือ การทำลาย การประกอบการฯ และชีวิตที่มีสุขของชาวบ้านชาวช่องและทำให้ประเทศชาติเสียหายเสียโอกาสในการพัฒนาไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม

โดยสรุป คือ

เราต้องเลือกตามเหตุปัจจัยที่เป็นจริง มิใช่เลือกตามโพลล์ชี้นำที่เกิดจากการสร้างกระแสขึ้นของนายทุนเจ้าของพรรคใหญ่

๑.ประชาชน ต้องการเลือก “พรรคการเมือง” ที่ก่อให้เกิด การร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาชาติบ้านเมือง ให้เกิดประโยชน์สุขต่อคนส่วนใหญ่

๒.และ จะไม่เลือก “พรรคการเมือง” ที่ก่อให้เกิด “ความเครียดแค้นชิงชัง และมีผลทำให้ประชาชนและประเทศวุ่นวายเดือดร้อน มีทุกข์ ไม่มีสุข”

lกราบสวัสดี พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักและเคารพ

ผมขอเรียนชี้แจงที่มาของการเป็นรัฐบาล จะได้มาอย่างไร?

ประเทศไทย มี สส. เขต ๔๐๐ และบัญชีรายชื่อ ๑๐๐ และรัฐธรรมนูญ กำหนด ให้มี สว. ๒๕๐ คน เพื่อมาถ่วงดุล กับ สส.ที่ได้มาจากการเลือกโดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม เป็นส่วนใหญ่ (จากระบบปัจจุบัน ที่ยังไม่มีการปฏิรูป)

ฝ่ายใด จะได้เป็นรัฐบาล และใครจะได้เป็นนายกฯ ฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล หรือ ฝ่ายค้าน

พรรคฝ่ายที่จะได้เป็นรัฐบาล ต้องมีคะแนนของ สส.เขต และบัญชีรายชื่อ มากกว่า ครึ่งหนึ่ง คือ 250 +

ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีคะแนน เสียงมากกว่าครึ่งหนึ่ง ของสมาชิก ทั้ง ๒ สภา (สส.+สว.) คือ 375 +

lกราบสวัสดี พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักและเคารพ

หัวใจหลักสำคัญที่ผมมานำเรียนเสนอให้ ท่านได้พิจารณาในการเลือกตั้ง ครั้งนี้ คือ

ผม “มิได้เป็นสมาชิกพรรคใด แต่ เป็นสมาชิกคนหนึ่งของประเทศไทย” นั่นคือ ผมมิได้เอาพรรคใดพรรคหนึ่ง เป็นตัวหลักชี้นำว่า จะเลือกใคร

แต่ผมเอาผลประโยชน์ของประเทศไทย เป็น “หัวใจ” ในการพิจารณาเลือก และเป็นการเลือกให้ทุกคะแนน มีผลที่เป็นจริง มีคุณค่า ความหมายและเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง โดยผมพิจารณาถึง “ผลประโยชน์สูงสุด” คือ

๑. ผมพิจารณาเลือก นายกรัฐมนตรี จากประวัติที่ดีงาม เป็นคนเก่าที่มีผลงาน และสามารถสานงานต่อ ก่องานใหม่ ได้ทันที่“ที่ได้รับเลือกไปแล้ว”

คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

๒. ผมไม่เลือก พรรคการเมืองฝ่ายค้าน ที่ไม่มีผลงาน แล้วใช้การยุยงปั่นป่วนสังคมให้แตกความสามัคคี

๓. ผมจะเลือก สส.เขต จากพรรคร่วมรัฐบาลที่มีโอกาสจะได้เป็น สส.สามารถไปร่วมงานกับนายกรัฐมนตรีได้ และเพื่อให้ รัฐบาลมีเสียงเกิน ๒๕๐ เสียง

นี่คือ “ความปรารถนาอันสูงสุดของผม ต่อการเลือกตั้ง ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖”

ด้วยรักและเคารพ ประชาชนและบ้านเมือง

ลุงสุข ชมจันทร์

คนไทยคนหนึ่ง ที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ฯยิ่งชีวิต