วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ทวนกระแสข่าว
ทวนกระแสข่าว

ทวนกระแสข่าว

สุทิน วรรณบวร
วันอังคาร ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ผลการเลือกตั้ง14พฤษภาคม มีส่วนสำคัญการกำหนดท่าทีรัฐบาลไทยในวิกฤตการเมืองเมียนมา

ดูทั้งหมด

  •  

นักวิชาการและนักสังเกตการณ์การเมืองสิงคโปร์กับนักวิชาการชาวออสเตรเลียกล่าวว่า ผลการเลือกตั้งในประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงท่าทีของไทยต่ออาเซียนว่าด้วยเรื่องวิกฤตเมียนมา

หนังสือพิมพ์ เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม ว่า พรรคการเมืองที่เรียกตัวเองว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตย เช่น พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยซึ่งมีนโยบายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาและสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารของฝ่ายนางออง ซาน ซู จี ทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ได้รับความนิยมมากกว่าพรรคการเมืองอนุรักษนิยม ที่ชื่นชมสถาบันกษัตริย์ และพรรคการเมืองฝักใฝ่ฝ่ายทหารในการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทย ดังนั้น ผลการเลือกตั้งที่ออกมาจะมีส่วนสำคัญในการกำหนดท่าทีของไทยกับอาเซียนในประเด็นวิกฤตการเมืองเมียนมา


หากพรรคก้าวไกลซึ่งเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลหลังการเลือกตั้งนโยบายของไทยต่อเมียนมาต้องเปลี่ยนไป รัฐบาลไทยต้องลดหรืองดให้การสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาและผลักดันให้มีปฏิสัมพันธ์ ให้มีการเจรจากับรัฐบาลสามัคคีแห่งชาติ (National Unity Government=NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาเมียนมาของพรรคเอ็นแอลดี ฝ่ายนางออง ซาน ซู จี มากขึ้น

นักสังเกตการณ์ทางการเมืองกล่าวกับเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ ว่ารัฐบาลที่เกิดจากการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม จะเจอกับปัญหาท้าทายทันที จากกรณีขัดแย้งรุนแรงในเมียนมา แรงกดดันจากสมาชิกอาเซียนพุ่งเป้ากดดันมาที่กรุงเทพฯให้ใช้ไม้แข็งต่อรัฐบาลทหารเมียนมา ถึงแม้ว่านโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ไม่ได้เน้นประเด็นวิกฤตการเมืองในเมียนมามากนัก แต่นักสังเกตการณ์ให้ความเห็นว่าเป็นเดิมพันที่สูงมากหากรัฐบาลใหม่ของไทยละเลยไม่สนใจช่วยแก้วิกฤตเมียนมา

ก่อนมีวิกฤตโควิด-19 แรงงานเมียนมากว่า 2 ล้านคน อาศัยทำมาหากินอยู่ในประเทศไทยและชาวเมียนมาหลายแสนคน ทะลักเข้ามาเพิ่มหลังทหารยึดอำนาจวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยมักใช้แรงงานเมียนมานับล้านๆ คนเหล่านี้ เป็นเงื่อนไขกดดันให้รัฐบาลทหารคืนประชาธิปไตยให้ชาวเมียนมาและพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย เคยใช้แรงงานต่างชาติร่วมกิจกรรมทางการเมืองชุมนุมประท้วงกดดันรัฐบาลทหารเมียนมา อีกทั้งยังเคยใช้แรงงานร่วมประท้วงแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย ในบางโอกาสแรงงานต่างชาติถูกใช้ให้จาบจ้วงสถาบันสูงสุดของประเทศไทย

พรรคการเมืองที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยมีนโยบายและพฤติกรรมไปในทิศทางเดียวกับสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตกคือกดดันคว่ำบาตรรัฐบาลทหารเมียนมาและให้การสนับสนุนฝ่ายต่อต้านการยึดอำนาจ

ในขณะที่รัฐบาลไทยซึ่งมีชายแดนติดกับเมียนมา เอนเอียงไปทางรัฐบาลทหารด้วยความสัมพันธ์ที่มีกับพลเอกมิน อ่อง หล่าย ผู้นำการยึดอำนาจและเป็นประธานคณะผู้บริหารแห่งรัฐ (State Administration Council=SAC)

ด้านแคนดิเดตนายกฯและพรรคการเมืองสำคัญๆ ของฝ่ายประชาธิปไตยที่ลงแข่งขันการเลือกตั้งที่มีนโยบายโอนเอียงไปทางตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกามักใช้เหตุการณ์รุนแรงในเมียนมาปลุกระดมว่าความขัดแย้งในสหภาพเมียนมาหลายโอกาสก็กระทบเทือนด้านความมั่นคงของไทยและสร้างความเดือดร้อน ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายและทรัพย์สินเสียหายในดินแดนของประเทศไทย มีหลายครั้งที่ทหารเมียนมาใช้เครื่องบินรบทิ้งระเบิดใส่ฝ่ายต่อต้านและกลุ่มชาติพันธุ์ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ชายแดนไทย และหลายครั้งที่ระเบิดพลาดเป้าหมายมาตกในหมู่บ้านชายแดนของประเทศไทยสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตทรัพย์สินคนไทยและชาวเมียนมาเอง

พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยที่ต่อต้านฝ่ายอนุรักษ์นิยมชื่นชมสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดถึงต่อต้านทหารที่ครอบงำการการเมืองไทยมานานปี บัดนี้ พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยกำลังได้รับความนิยมเหนือกว่าฝ่ายอนุรักษนิยมชื่นชมสถาบันฯมาก เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ รายงาน

ผู้เขียนเข้าใจว่ารายงานข่าวชิ้นนี้ มีพื้นฐานมาจากการปลุกกระแสของสื่อไทยที่คนในครอบครัวของอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และอาศัยข้อมูลจากการปั่นกระแสของโพลล์บางสำนักที่โหมเชียร์พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยอย่างน่าสงสัยในจรรยาบรรณทางวิชาการ

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์อ้างคำพูด นายเจมส์ คาร์ นักวิจัยจากสถาบันนานาชาติศึกษาในสิงคโปร์กล่าวว่า“รัฐบาลใหม่ (ของไทย) ต้องก้าวย่างอย่างระมัดระวังในความสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารเมียนมา

ไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ เราคาดหมายว่ารัฐบาลไทยยังคงดำรงความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลทหารเมียนมาและรัฐบาลไทยคงผลักดันร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับเมียนมาให้มีการเจรจาเพื่อหาข้อยุติกับชาติต่างๆในสมาชิกอาเซียน

และดูเหมือนว่าประเทศไทยจะเป็นการปฏิบัติต่อเนื่องการเจรจาแสวงหาข้อยุติตาม track 1.5 ที่รัฐบาลไทยริเริ่มเมื่อเดือนมีนาคม

Track 1.5 คือ การพูดคุยเจรจานอกกรอบอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งประเทศไทยได้เชิญประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับเมียนมารวมทั้งอินเดีย จีน ลาว ไทย และสมาชิกอาเซียนตลอดถึงตัวแทนรัฐบาลทหารเมียนมา และนักวิชาการมาพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการโดยมีผู้อำนวยการด้านยุทธศาสตร์ของพลเอกมิน อ่อง หล่าย และผู้แทนด้านสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลทหารเมียนมาที่อยู่ในสหรัฐอเมริกามาร่วมเจรจาเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา

“การพูดคุยนอกรอบอย่างไม่เป็นทางดำเนินไปด้วยดีที่สำคัญเราได้พูดกันเรื่องหยุดยิงด้วย”นักวิชาการด้านความมั่นคงหนึ่งใน ผู้ร่วมสัมมนา บอกแนวหน้า“แต่ดูเหมือนว่าทางอินโดนีเซียไม่ค่อยพอใจนัก”แหล่งข่าวกล่าว

อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนอาเซียนปี 2566 ไม่พอใจ พลเอกมิน อ่อง หล่าย ที่ไม่ปฏิบัติตามฉันทามติห้าข้อของอาเซียนและอินโดนีเซีย พยายามผลักดันให้มีการเจรจาครอบคลุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความขัดแย้งภายในเมียนมา

อย่างไรก็ตาม เครก เรมอนด์ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรียเลียกล่าวว่า “รัฐบาลใหม่ของไทยอาจไม่เห็นด้วยกับการเจรจา track 1.5 เพราะหลายชาติในอาเซียนเห็นว่า มันด้อยค่าและบ่อนทำลาย กระบวนการสันติภาพของอาเซียน และให้ความชอบธรรมแก่รัฐบาลทหารเมียนมา...ประชาคมอาเซียนใช้เวลานานผลักดันให้รัฐบาลทหารเมียนมาปฏิบัติตามฉันทามติห้าข้อ แต่ก็ประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย หนึ่งในฉันทามติห้าข้อคือให้ยุติความรุนแรงทันที และให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการเจรจาเพื่อแสวงหาข้อยุติ” เรมอนด์กล่าว

เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานด้วยว่า ตั้งแต่ยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือน นางออง ซาน ซู จี รัฐบาลทหารเมียนมาเลือกที่ใช้วิธีปราบปรามทำลายฝ่ายต่อต้านการยึดอำนาจเป็นเหตุให้พลเรือนเสียชีวิตและถูกจับจำนวนมาก

เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ก็เหมือนกับสื่อตะวันตกทั่วไปที่เสนอข่าวต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาเพียงด้านเดียว โดยไม่พูดถึงความโหดร้ายของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาที่เรียกว่า “กองกำลังพิทักษ์ประชาชน” (People Defense Forces หรือพีดีเอฟ) ฝ่ายกองกำลังติดอาวุธของ NUG ที่ก่อกวนวางระเบิดรายวันและสังหารประชาชนเป็นผักเป็นปลาเพียงแค่สงสัยว่าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเป็นสายให้ทหารหรือเป็นฝ่ายรัฐบาลทหารเมียนมา

พีดีเอฟซึ่งได้รับการสนับสนุนทางด้านอาวุธและปัจจัยจากประเทศตะวันตกให้ใช้กำลังอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลทหารเมียนมาที่ประเทศตะวันตกมีเป้าหมายให้เกิดสงครามกลางเมืองในเมียนมาเหมือนกับที่สหรัฐอเมริกาจัดการให้เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน

จึงไม่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่อกระแสหลักที่โปรตะวันตกโดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา จึงเสนอข่าวว่า หากพรรคก้าวไกลได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลนโยบายของรัฐบาลไทยที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลทหารเมียนมาต้องเปลี่ยนไป


สุทิน วรรณบวร
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
18:15 น. กกต.แจงอดีตพนักงานถูกกล่าวหารับเงิน 'ฮั้ว สว.' สั่งให้ออก-ตั้งคกก.สอบแล้ว
18:02 น. เข้มงวดทุกพื้นที่! ลุยตรวจสถานประกอบการบนภูทับเบิก ไม่พบการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน
17:39 น. สัตหีบบุกรวบ! ‘หนุ่มตระเวนลักทรัพย์’ พบสารเสพติด-อุปกรณ์ตัดสายไฟ
17:20 น. ตำรวจปืนดุ! ควงปืนลูกโม่ยิงเด็กปั๊ม 4 นัดดับคาที่ อ้างขัดแย้งมานานแล้ว
17:06 น. รัฐบาลยันยังคงเดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐ ย้ำไม่เกี่ยวกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
ดูทั้งหมด
สาวชุดหวือโชว์รอยสัก 'ของลับโผล่' ชี้แจงแล้ว 'ไม่ได้ตั้งใจ-ที่แปะหลุด-ดื่มหนัก'
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงทำริบบิ้นสีดำถวายความอาลัย
บุกจับ2วัยรุ่นสร้างตัว เปิดเหมืองบิทคอยน์ซุก'สวนมะพร้าวบ้านแพ้ว' โกงไฟหลวงมหาศาล
'กรณ์ ณรงค์เดช'หลั่งน้ำตา! กอดคุณพ่อเกษมดีใจชนะคดี
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
ดูทั้งหมด
ระวังการส่งออกเทียม
บุคคลแนวหน้า : 15 พฤศจิกายน 2568
ตำรวจกับโจร โจรกับตำรวจ
สงครามกับสันติ : ทรัมป์จะไปทางไหน?
ลิ้นสองแฉก
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กกต.แจงอดีตพนักงานถูกกล่าวหารับเงิน 'ฮั้ว สว.' สั่งให้ออก-ตั้งคกก.สอบแล้ว

ตำรวจปืนดุ! ควงปืนลูกโม่ยิงเด็กปั๊ม 4 นัดดับคาที่ อ้างขัดแย้งมานานแล้ว

รัฐบาลยันยังคงเดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐ ย้ำไม่เกี่ยวกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

แห่ส่งกำลังใจ! 'ทับทิม มัลลิกา'ผ่าตัดเนื้องอกในสมอง เผยอาการล่าสุดเซนซิทีฟเรื่องการมองเห็น

GC จับมือ กระทรวง อว. ต่อยอด โครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” สู่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สร้างเครือข่าย คนรุ่นใหม่ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำอาเซียน

รัฐบาลยันไทยแยกประเด็นความมั่นคง-การค้า ชี้ตามข้อเท็จจริง กัมพูชาละเมิดก่อน ย้ำจุดยืนต่อสหรัฐฯ ชัดเจน

  • Breaking News
  • กกต.แจงอดีตพนักงานถูกกล่าวหารับเงิน \'ฮั้ว สว.\' สั่งให้ออก-ตั้งคกก.สอบแล้ว กกต.แจงอดีตพนักงานถูกกล่าวหารับเงิน 'ฮั้ว สว.' สั่งให้ออก-ตั้งคกก.สอบแล้ว
  • เข้มงวดทุกพื้นที่! ลุยตรวจสถานประกอบการบนภูทับเบิก ไม่พบการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน เข้มงวดทุกพื้นที่! ลุยตรวจสถานประกอบการบนภูทับเบิก ไม่พบการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน
  • สัตหีบบุกรวบ! ‘หนุ่มตระเวนลักทรัพย์’ พบสารเสพติด-อุปกรณ์ตัดสายไฟ สัตหีบบุกรวบ! ‘หนุ่มตระเวนลักทรัพย์’ พบสารเสพติด-อุปกรณ์ตัดสายไฟ
  • ตำรวจปืนดุ! ควงปืนลูกโม่ยิงเด็กปั๊ม 4 นัดดับคาที่ อ้างขัดแย้งมานานแล้ว ตำรวจปืนดุ! ควงปืนลูกโม่ยิงเด็กปั๊ม 4 นัดดับคาที่ อ้างขัดแย้งมานานแล้ว
  • รัฐบาลยันยังคงเดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐ ย้ำไม่เกี่ยวกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยันยังคงเดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐ ย้ำไม่เกี่ยวกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

สหรัฐ อังกฤษ เกาหลีใต้ ปราบไซเบอร์สแกมกัมพูชากระเทือนถึงไทย

สหรัฐ อังกฤษ เกาหลีใต้ ปราบไซเบอร์สแกมกัมพูชากระเทือนถึงไทย

15 พ.ย. 2568

ระงับปฏิญญาไทย-กัมพูชา ยุติแผนการของผู้มีอิทธิพลนอกกฎหมาย

ระงับปฏิญญาไทย-กัมพูชา ยุติแผนการของผู้มีอิทธิพลนอกกฎหมาย

14 พ.ย. 2568

เจ้าพ่อสแกมลอยนวลอยู่ได้อย่างไร

เจ้าพ่อสแกมลอยนวลอยู่ได้อย่างไร

11 พ.ย. 2568

ก่อนยกย่องเกาหลีชื่นชมอเมริกาด่าไทยควรให้มองความจริงรอบด้าน

ก่อนยกย่องเกาหลีชื่นชมอเมริกาด่าไทยควรให้มองความจริงรอบด้าน

8 พ.ย. 2568

‘มีส้มไม่มีเทา’แคมเปญการเมืองบ้าน้ำลายคล้าย‘มีเราไม่มีลุง’

‘มีส้มไม่มีเทา’แคมเปญการเมืองบ้าน้ำลายคล้าย‘มีเราไม่มีลุง’

7 พ.ย. 2568

รัฐบาลมีวุฒิภาวะนำประเทศไทย กลับสู่เรดาร์ในสายตาโลก

รัฐบาลมีวุฒิภาวะนำประเทศไทย กลับสู่เรดาร์ในสายตาโลก

4 พ.ย. 2568

เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

1 พ.ย. 2568

ผู้นำประท้วงเนปาล ถ้าเป็นกล้าไม้ก็ตายตั้งแต่อยู่ในกระถาง

ผู้นำประท้วงเนปาล ถ้าเป็นกล้าไม้ก็ตายตั้งแต่อยู่ในกระถาง

31 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved