จากกรณีนายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบราษฎร ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา ปรับอีก 2 หมื่นบาท จากการกระทำผิด ม.112 ปราศรัยหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ในการชุมนุมม็อบ 14 ตุลา 2563

ในชั้นอุทธรณ์ ศาลได้ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณานายอานท์ยังถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

1.ปรากฏว่า มีทั้ง สส. แกนนำพรรคก้าวไกล แกนนำคณะก้าวหน้าดาหน้าออกมาโจมตีคำพิพากษาของศาล

ไม่ว่าจะเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า, นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล, นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล แกนนำพรรคก้าวไกล ฯลฯ

พยายามอ้างเสรีภาพในการแสดงออก

อ้างว่าคิดต่างทำไมต้องผิด

อ้างว่าพูดแสดงความเห็นในเชิงหลักการ ฯลฯ

พวกนี้ หลับหูหลับตาอ้างเช่นนี้ ล้วนแต่บิดเบือน ยกข้ออ้างมั่วซั่วไม่รู้จักละอายต่อฟ้าดิน

เพราะคำพูดที่นายอานนท์ปราศรัยแล้วมีความผิดนั้น เป็นการใส่ร้ายกล่าวหาสถาบันพระมหากษัตริย์โดยปราศจากมูลความจริง

เข้าข่ายหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์

โดยนายอานนท์ได้ใช้เครื่องขยายเสียง กล่าวปราศรัยต่อประชาชนผู้เข้าร่วมการชุมนุม ว่า 

“...ข้อที่ 3 มาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ข้อเรียกร้องมีสามข้อเท่านั้น วันนี้ จะไม่เหมือนเมื่อวานเพราะพี่น้องที่มาจากต่างจังหวัดทยอยมาสมทบกันเรื่อยๆ และ นิสิตนักศึกษาก็ทยอยมาเรื่อยๆ ถ้ามีการสลายการชุมนุมวันนี้ คนที่จะสั่งสลายการชุมนุมมีเพียงคนเดียว คือ... ถ้ามีการสลายการชุมนุม ไม่ต้องไปหาคนอื่นใด”

“อย่างที่ผมเรียนไว้ ถ้ามีการสลายการชุมนุม คนอื่นจะสั่งไม่ได้นอกจาก...”

“อย่างที่บอกถ้าวันนี้มีการสลายการชุมนุม คนที่จะสั่งได้คนเดียว คือ....ให้รู้ไว้เช่นนั้น” 

เรียกว่า ปรักปรำให้ร้ายกันดื้อๆ เลย

ข้อความดังกล่าวที่นายอานนท์ปราศรัยขึ้นนั้น มิใช่การกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เป็นการหมิ่นประมาทใส่ร้าย ทําให้พระมหากษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง ทําให้ประชาชนที่หลงเชื่อข้อความที่จําเลยได้พูดปราศรัยดังกล่าวเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย

จะเห็นได้ว่า ในคำฟ้องอัยการนั้นได้ระบุอย่างชัดเจนว่า คำปราศรัยประโยคใดของนายอานนท์ ที่เป็นการหมิ่นประมาทใส่ร้าย ทําให้พระมหากษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง

มิใช่การคิดต่าง หรือแสดงความเห็นในเชิงหลักการ อย่างที่นายธนาธรและพวก พยายามออกมาบิดเบือนอยู่ในเวลานี้เลยแม้แต่น้อย

2. ประเด็นต่อมาเรื่องสิทธิประกันตัวผู้ต้องหาคดีทางการเมือง

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บรรดาม็อบ 3 นิ้วที่ทำผิดกฎหมายทั้งข้อหา
ม.112 หรือข้อหาอื่นๆ ศาลได้เมตตาให้ประกันตัวในหลายคดี

แต่หลายคนต้องถูกถอนประกัน เพราะฝ่าฝืนเงื่อนไขการประกันตัวของศาล

อีกทั้งหลายคนก็ไม่ถูกศาลสั่งถอนประกันตัว แม้ว่าจะมีพฤติกรรมฝ่าฝืนเงื่อนไขของศาลอย่างชัดเจน

สถานีข่าวท็อปนิวส์ ได้รวบรวมข้อมูลนำเสนอให้เห็นอย่างชัดเจน ดังนี้

“กรณีที่ม็อบ 3 นิ้วได้ประกันตัว อาทิ

-คดีนายศุทธวีร์ สร้อยคำ หรือ บังเอิญ พ่นสีสเปรย์ใส่กำแพงรั้ววัด
พระแก้ว ตำรวจคัดค้านการประกัน แต่ศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว

-คดีนายพรชัย วิมลศุภวงศ์ แนวร่วมม็อบ 3 นิ้ว ถูกเอาผิดข้อหา ม.112 - ม.116 ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 12 ปี แต่ให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์

-คดีนางสาวพิมชนก ใจหงษ์ แนวร่วมม็อบ 3 นิ้ว ถูกเอาผิดข้อหา ม.112 ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา แต่ให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์

-คดีนายวรพล อนันตศักดิ์ อายุ 27 ปี อดีตผู้สมัคร สส. เลือกตั้งซ่อมจังหวัดชุมพร พรรคก้าวไกล ผิด ม.112 ศาลได้มีคำสั่งให้ประกันตัว หลังอัยการสั่งฟ้อง

-คดีนางสาวเงินตา คำแสน หรือ “มานี” และ นางสาวจิรัชยา สกุลทอง หรือ “จินนี่” แนวร่วมม็อบ 3 นิ้ว ดูหมิ่นศาล ศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือนไม่รอลงอาญา แต่ให้ประกันในชั้นอุทธรณ์

กรณีที่ม็อบ 3 นิ้วได้ประกันตัว แต่ต่อมาถูกถอนประกันตัว เพราะทำผิดเงื่อนไขศาล อาทิ

-กรณี “ใบปอ” ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ และ “บุ้ง” เนติพร เสน่ห์สังคม สองแกนนำ
กลุ่มทะลุวัง เคยถูกศาลสั่งถอนประกันตัวคดี 112 จากการทำโพลล์ขบวนเสด็จฯ แต่ไปทำผิดเงื่อนไขศาล เนื่องจากเพจของกลุ่ม “ทะลุวัง” ได้เชิญชวนให้ประชาชนมาเข้าร่วมการชุมนุม จนทำให้เกิดความไม่สงบวุ่นวาย

-กรณี “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ แนวร่วมกลุ่มทะลุวัง เคยถูกศาลสั่งถอนประกันตัวคดี 112 จากการทำโพลล์ขบวนเสด็จและไลฟ์สดก่อนมีขบวนเสด็จฯ เพราะไปทำผิดเงื่อนไขศาล ด้วยการโพสต์และแชร์ข้อความในเฟซบุ๊ก และพยายามขับรถเข้าใกล้พื้นที่ที่มีขบวนเสด็จฯในช่วงค่ำของวันที่ 17 มีนาคม 2565

-คดีนายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท โสภณ แกนนำกลุ่มโมกหลวงริมน้ำถูกเอาผิดข้อหา ม.112 เคยถูกถอนประกันตัว เพราะระหว่างได้รับการประกันนายโสภณไปทำผิดเงื่อนไขศาลด้วยการไปชุมนุมประท้วงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565

กรณีทำผิดเงื่อนไขศาล แต่ศาลไม่ได้สั่งถอนประกัน อาทิ

-กรณีนายอานนท์เคยถูกตำรวจยื่นขอถอนประกันตัวในคดี 112 จากการปราศรัยหมิ่นสถาบันฯ ในการชุมนุมหน้าสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ หลังเจ้าตัวประกาศเชิญชวนประชาชนให้ออกมาชุมนุมในช่วงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 และวันที่ 16 กรกฎาคม 2566 ที่สกายวอล์กปทุมวัน แต่ศาลก็ไม่ได้มีคำสั่งให้ถอนประกันตัวแต่อย่างใด”

3. สำหรับนายอานนท์ นำภา มีพฤติกรรมจาบจ้วงให้ร้ายสถาบันอย่างซ้ำซาก จึงถูกดำเนินคดีในข้อหาผิด ม.112 และข้อหาอื่นๆ หลายคดีด้วยกัน

เฉพาะคดี ม.112 นายอานนท์ถูกดำเนินคดีทั้งหมดถึง 14 คดี

มีคำพิพากษาไปล่าสุด 1 คดี

อีก 13 คดี ได้แก่

1.คดีชุมนุมม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ หน้าแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 นายอานนท์ ถูกเอาผิดในข้อหา ม.112, ม.116 และอีกหลายข้อหารวม 6 ข้อหา จากการปราศรัยในเวทีชุมนุมและโพสต์ข้อความที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบัน คดีนี้อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2564

2.คดีชุมนุมที่ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 ซึ่งนายอานนท์ได้ปราศรัยถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพในการพูดถึงสถาบันกษัตริย์ และประเด็นทรัพย์สินของกษัตริย์ คดีนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของอัยการ

3.คดีชุมนุม 19 กันยายน 2563 ทวงอำนาจคืนราษฎร นายอานนท์ พร้อมแกนนำราษฎรอีก 3 คน ถูกเอาผิดข้อหา มาตรา 112, 116 รวมทั้งข้อหาอื่นๆ อีกหลายข้อหา โดยนายอานนท์ปราศรัยสร้างความเสื่อมเสียสู่สถาบันพระมหากษัตริย์ คดีนี้อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 และไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ต่อมาทั้งหมดทยอยได้รับการประกันตัวภายใต้การกำหนดเงื่อนไขของศาล ขณะนี้ยังอยู่ในชั้นการสืบพยานของศาล

4.คดีชุมนุมปลดอาวุธศักดินาไทย ที่หน้า ราบ 11 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 คดีนี้นายอานนท์และแกนนำม็อบราษฎร รวม 8 คน ถูกดำเนินคดี ม.112 และ ม.116 และอีกหลายข้อหา ยกเว้น “ทราย” อินทิรา เจริญปุระ ที่ไม่ถูกเอาผิดข้อหา ม.112 โดยนายอานนท์ปราศรัยตั้งคำถามถึงการโอนกองกำลังทหารให้ไปอยู่ใต้องค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564

5.คดีชุมนุม “ปาร์ตี้ริมเขา เป่าเค้กวันเกิด พลเรือเอกก๊าบๆ” ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 คดีนี้นายอานนท์และเพนกวิน ถูกเอาผิดข้อหา ม.112 จากการปราศรัยดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ คดีนี้เมื่อเดือนมกราคม 2566 ศาลให้ประกันตัวระหว่างการพิจารณาคดีด้วยหลักทรัพย์คดีละ 1.5 แสนบาท

6.คดีปราศรัยในการชุมนุมกูสั่งให้มึงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 คดีนี้นายอานนท์ถูกเอาผิดข้อหา ม.112 กับเพนกวิน ซึ่งอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564

7.คดีโพสต์ในเฟซบุ๊กราษฎรสาส์น จดหมายถึงกษัตริย์ วิจารณ์การขยายพระราชอำนาจเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 คดีนี้นายอานนท์ถูกเอาผิดข้อหา ม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565 ขณะนี้ยังอยู่ในชั้นการสืบพยานของศาล

8.คดีปราศรัยในการชุมนุมม็อบ 25 พฤศจิกายน 2563 ที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ คดีนี้นายอานนท์ถูกเอาผิดข้อหาม.112 พร้อมกับแกนนำม็อบรวมทั้งหมด 8 คน ซึ่งอัยการได้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564

9.คดีปราศรัยในการชุมนุม 2 ธันวาไปห้าแยกลาดพร้าว บริเวณห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 คดีนี้นายอานนท์ถูกเอาผิดข้อหาม.112 ร่วมกับแกนนำม็อบรวม 7 คน โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564

10.คดีปราศรัยหน้า สน.บางเขน ระหว่างการเข้ารับทราบข้อหาคดีม.112 ของทราย เจริญปุระ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 คดีนี้นายอานนท์ถูกเอาผิดข้อหาม.112 ร่วมกับเพนกวิน และไบรท์-ชินวัตร โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564

11.คดีโพสต์ข้อความวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ ช่วงระหว่างวันที่ 1-5 มกราคม 2564 มีเนื้อหาเกี่ยวกับการตั้งคำถามถึงการบริหารราชการแผ่นดินของรัชกาลที่ 10 คดีนี้นายอานนท์ถูกเอาผิดข้อหา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564

12.คดีชุมนุมม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ 2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 คดีนี้นายอานนท์ถูกเอาผิดข้อหา ม.112 จากการปราศรัยหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อ 14 ตุลาคม 2564

13.คดีโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก 2 ข้อความ วิพากษ์วิจารณ์ ในหลวง รัชกาลที่ 10 ใช้อำนาจบริหารประเทศ เมื่อวันที่ 11 มกราคม และวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 คดีนี้นายอานนท์ถูกเอาผิดข้อหา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยอัยการยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565

4. เห็นข้อมูลความจริงแล้ว ได้แต่เวทนาคนที่ถูกนักการเมืองบางกลุ่มบิดเบือนปั่นหัว ให้เกลียดชังสถาบัน ให้เข้าใจผิดต่อมาตรา 112

หลับหูหลับตาปั้นแต่งวาทกรรม แบบไม่แหกตาดูความจริงว่า
คนทำผิด มันตั้งใจทำผิดอย่างไร

เมื่อไหร่นักการเมืองพวกนี้ จะถึงคิวติดคุกบ้าง?