“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า/แนวหน้าออนไลน์ อุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมรู้เท่าทัน นักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ ติ่งแดงด้อมส้มส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี อย่างเท่าเทียม”...
nn เริ่มต้นฉบับนี้ ด้วย 1 ความดีใจ กับ 2 ความผิดหวังของสังคมไทยกับผลการประกวดนางงามเวที “มิสยูนิเวิร์ส คนที่ 72” ที่ “มิสยูนิเวิร์สปีนี้ยังไม่ใช่โอกาสสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการนางงามไทย” เมื่อ “แอนโทเนีย โพซิ้ว ลูกหลานย่าโมสาวลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก เจ้าของมงกุฎ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2566” ตัวแทนสาวงามไทยเข้าร่วมประกวด ไปไม่ถึงดวงดาวได้รับตำแหน่ง “รองมิสยูนิเวิร์ส 2023” อันดับหนึ่ง ทั้งที่ก่อนการตัดสินถูกสื่อแขนงต่างๆ ยกให้เธอเป็น “เต็งหนึ่ง” ของการประกวดครั้งนี้...
nn ถือเป็นความผิดหวังทั้งตัวของ แอนโทเนีย โพซิ้ว, วงการนางงามไทย, สังคมไทยที่นั่งลุ้นให้กำลังใจตั้งแต่เช้าวันหยุด (07.00 น. วันอาทิตย์) แต่เธอทำหน้าที่ของเธอได้สมศักดิ์ศรีเต็มร้อย แพ้แค่ “ทัศนคติของกรรมการ” กับการตอบคำถามเท่านั้น เพราะเป็นเรื่องของความชอบที่ทุกคนมีไม่เหมือนกัน ทำได้อย่างเดียวคือยอมรับมันแล้วค่อยว่ากันใหม่ในโอกาสต่อไปว่าทำอย่างไรการตัดสินเรื่องเหล่านี้ต้องเลิกใช้ “ทัศนคติ” ในการพิจารณา...
nn ผิดหวังที่สองก็เกิดกับการจัดการประกวดครั้งนี้ ที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ทั้งที่ลิขสิทธิ์กองประกวดเป็นของบริษัทสัญชาติไทย (กลุ่ม เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด หรือเจเคเอ็น ของนักธุรกิจไฮโซสาวข้ามเพศ-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์) แต่ตลอดเวลาการถ่ายทอดสดรัฐบาลข้ามขั้วก้าวข้ามความขัดแย้ง กับพฤติกรรมมะงุมมะงาหราอยู่กับการสร้างหนี้ให้กับประเทศและประชาชนไทยอย่างดื้อด้านไม่ฟังเสียงท้วงติง มุ่งมั่นเดินหน้ากู้เงินมาแจกจนลืมกำไรจากกิจกรรมนี้อย่างสิ้นเชิง...“สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” คงไม่ได้คาดหวังล่วงหน้าที่จะมารับตำแหน่งนี้ต่อจาก “พิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีตสมาชิกในบ้านเดียวกัน” จึงไม่ได้ประสานงานสร้างผลประโยชน์จากกิจกรรมนี้เผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยให้ทั่วโลกได้ตื่นตาตื่นใจน้ำลายหกน้ำลายไหลอยากมาสัมผัสอยากมาเห็นกับตาตนเอง ในช่วงไฮซีซั่น (High Season) สร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมและธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยแบบคนหาเงินได้ใช้เงินเป็นอย่างที่สำรอกสำรากไว้...
nn หนึ่งความดีใจจากกิจกรรมประกวดนางงาม “ไม้หน้าสาม” ขอแสดงความยินดีกับ “Sheynnis Palacios” สาวงามจากประเทศ “นิการากัว” ชาติยักษ์ใหญ่ในอเมริกากลางแถบทะเลแคริเบียน ที่เป็นสาวนิการากัวคนแรกของประเทศที่มีประชากรไม่มากนักคว้าตำแหน่งนี้ได้ และที่น่ายินดีกว่านั้นคือ เธอคือจบสื่อสารมวลชน เป็นนางแบบเป็นสื่อมวลชนและเป็นนักกีฬาตบลูกยางอีกต่างหาก ปีหน้า(2024)จะไปจัดเวทีประกวดที่ “เม็กซิโก” สาวไทยคงได้ลุ้น “คว้ามงกุฎ” สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการนางงามไทยอีกสักครา...
nn “ไม้หน้าสาม” หวังว่า “รัฐบาลข้ามขั้วก้าวข้ามความขัดแย้ง” ของ “ท่านผู้นำ- เศรษฐา ทวีสิน และพรรคเพื่อไทย” จักยังคงทำหน้าที่รัฐบาลอยู่ในเวลานั้น และ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” จะยังเป็น “สาวปุ๋ง-สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” หรือจะเป็นใครมาบริหารกระทรวงก็ตามที “ตั้งสติให้มีสมาธิจนเกิดปัญญา” เพื่อตริตรองวางแผนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์นี้หน่อยเถอะ!! วางแผนกับ “เจเคเอ็น กรุ๊ป” ล้างบาปนำสาวงามผู้เข้าร่วมการประกวดมาเข้าแคมป์เก็บตัวในประเทศไทยด้วยทริปสั้นๆ สัก 3-5 วัน สร้างความกระสันท่องเที่ยวประเทศไทยให้สาวงามนำไปเป็นกระบอกเสียงบอกต่อแก่ญาติพี่น้องเพื่อนและคนรอบข้างนางทั้งหลาย ก่อนที่จะเดินทางไปประกวดที่ “ประเทศเม็กซิโก” แดน “จังโก้” และ/หรือ หาทางบรรจุแหล่งท่องเที่ยวไทยไว้ในการถ่ายทอดสดกิจกรรมการประกวดที่ใช้เวลานานกว่า 3-5 ชั่วโมง ให้ชาวโลกได้เห็นบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวไทยบ้างงบประมาณลงทุนเพื่อการนี้คงไม่ใช่ 560,000 ล้านบาททว่าน่าจะเป็นการสร้างรายได้ให้ประเทศชาตินำมาผลาญแทนการไปกู้สร้างหนี้ให้ประเทศมาผลาญอย่างที่กำลังดำเนินการอยู่ทุกวันนี้ นั่นแหละ!! “หาเงินได้ ใช้เงินเป็น”...
nn “คนดีมีน้อย คนถ่อยมีมาก” จบกันเป็นที่เรียบร้อยอย่างสมศักดิ์ศรี “จตุรมิตร ของ 4 สถานศึกษาสุภาพบุรุษขาสั้น อย่าง “สวนกุหลาบ, เทพศิรินทร์, อัสสัมชัญ และกรุงเทพคริสเตียน” ที่ถูกสิ่งมีชีวิตไฟลัม “หิวแสง” ออกมาสร้างวาทกรรมบาป อ้างสุขภาพและความปลอดภัยของเด็กนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมประเพณี “ฟุตบอลจตุรมิตร” ที่สองปีมีขึ้น 1 ทัวร์นาเมนท์...
nn เป็นประเด็นที่ชัดเจนว่าไม่ทันได้ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาก็พล่ามก็เห่าหอนจนลืมคำว่า “เกียรติภูมิ&สามัคคี”... เกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของนักเรียนแต่ละโรงเรียนภายใต้คำขวัญและสัญลักษณ์อันทรงคุณค่าทางใจอย่างหาที่ประเมินมิได้ กับความสามัคคีในหมู่คณะที่ไม่ใช่โรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง แต่เป็นความสมานสามัคคีของนักเรียนทั้ง 4 โรงเรียนร่วมกันจัดกิจกรรมนี้ต่างหาก ถ้าไม่เคยถูกอบรมสั่งสอนเรื่องเหล่านี้ก็หัดศึกษาแล้วคิดเองบ้างก็ไม่มีใครติเตียนดอกหนา หมาเลียตูดไม่ถึงแล้วเยี่ยงนี้...
nn ทิ้งท้าย ฉบับนี้ ด้วยความสงสัย “พิธาคิโอ-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลกับพฤติกรรมที่ไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงรักษามาตรฐานได้อย่างสม่ำเสมอกับ “สันดานตอแหล”ไม่สิ้นสุด หลังถูกโห่ระหว่างนั่งอยู่บนอัฒจันทร์มีหลังคาปะปนกับบรรดาศิษย์เก่า “ชงโคม่วง-ทอง” ที่มาแสดงออกถึง “เกียรติภูมิ&ศักดิ์ศรี” ของความเป็น “ชงโคม่วง-ทอง” ในฐานะที่น้องๆ นักฟุตบอลของสถาบันสามารถฮึดสู้ชะตากรรมหลุดเข้ามาลงชิงชัยชิงชนะเลิศฟุตบอลศึกแห่งศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิกับทีม “สวนกุหลาบวิทยาลัย” ไม่ใช่แค่โดนโห่ ยังถูกนักเรียนจาก 4 สถาบันชูป้ายข้อความสั้นๆ แต่ได้ใจความถ่องแท้ที่น่าจะเจาะกะโหลกหนาๆ ให้ได้รู้สึกบ้างว่า “...อย่าเสือก... เรื่องแปรอักษรของพวกกู!!”...
nn ไฮไลท์ของฟุตบอลจตุรมิตรไม่ได้จบลงแค่เสียงโห่และชูป้าย “อย่าเสือก... !!” เพียงเท่านั้น เพราะต่อมา “พิธาคิโอ” ก็สร้างสีสันให้โลกออนไลน์เมื่อประกาศว่าตนเองเคยขึ้นสแตนด์เชียร์ระหว่างเป็น “ชงโคม่วง-ทอง” ถึงสองสมัย ทำให้โลกออนไลน์กระหน่ำวิพากษ์วิจารณ์หาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่ไปในทิศทางเดียวกันว่า “อิมพอสซิเบิ้ล-เป็นไปไม่ได้” เพราะการขึ้นสแตนด์เชียร์+แปรอักษรนั้นจะไม่ใช้เด็กประถมศึกษาที่อายุต่ำกว่า 11 ปีอย่างเด็ดขาด จึงมีคำถามที่ต้องการคำตอบอย่างตรงไปตรงมาจากปาก “พิธาคิโอ-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”ว่า “สำรอก-สำราก หอนเห่าโอ้อวดมดเท็จเพื่อ???” กรุณาท่องไว้เถิดว่า “สัจจัง เว อมตา วาจา-ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย”...“พิธาคิโอ–พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”เคยฟัง “พุทธพจน์ ซึ่งมีที่มาปรากฏในอิติวุตตกะ พระไตรปิฎกเล่มที่ 25 หน้า 243 โดยนัยแห่งพุทธพจน์” หรือไม่ที่ว่า “คนที่พูดโกหกจนเป็นนิสัยไม่สามารถลดละและเลิกได้ จะไม่ทำผิดศีลข้ออื่นๆ ย่อมไม่มี หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ คนโกหก ทำความชั่วได้ทุกประการ ไม่มีบาปกรรมอันใดที่คนโกหกทำไม่ได้”...nn
ตบท้ายวันนี้ ในขณะที่วันๆรัฐบาลมัวแต่จะยุ่งอยู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแจกเงิน 5 แสนล้านบาท แต่กลับลืมไปแล้วว่างบประมาณแผ่นดินปี 2567 ในกรอบวงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ยังไม่ได้เอาเข้าสภาเลยซะด้วยซ้ำ...ขณะนี้โครงการทุกอย่างของรัฐบาลสำหรับปีงบประมาณ 2567 ยังไม่ได้คลอดออกมาเลย ทุกภาคส่วนกำลังรองบประมาณปี 2567 อยู่ ฝากไปถึงรัฐบาลเศรษฐาด้วยว่า แม้ตามไทม์ไลน์ที่กำหนดเอาไว้จะลากยาวไปถึงเดือนเมษายน ปีหน้ากว่าที่งบปี 2567 จะแล้วเสร็จ แต่ถ้ารัฐบาลเร่งได้ก็ต้องเร่งให้ไวที่สุด เพราะตอนนี้ชะงักงันกันไปหมด
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี