ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีของบ้านเมือง

เป็นรูปธรรมจับต้องได้ อาทิ ถนนหนทาง ระบบราง โครงสร้างพื้นฐานที่ลงทุนในยุครัฐบาลลุงตู่ ทยอยเปิดให้ใช้บริการ

ยกตัวอย่าง

1. มอเตอร์เวย์ บางปะอิน-นครราชสีมา

จะเปิดให้ใช้บริการชั่วคราว(ฟรี) ช่วง อ.ปากช่อง-ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ระยะทาง 77.493 กม. ทั้ง 4 ช่องทางไปกลับ (ทิศทางละ2ช่อง)

ตั้งแต่เวลา 00.01 วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ตลอด 24 ชม.และเปิดบริการฟรีตลอดไปประมาณ 2 ปีจนถึงประมาณปลายปี 2568 (จนกว่าจะก่อสร้างโครงการและด่านเก็บค่าผ่านทางเสร็จสมบูรณ์)

โครงการ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทางรวม 196 กิโลเมตร (กม.) งานโยธาแบ่งก่อสร้าง 40 ตอน ก่อสร้างแล้วเสร็จ 29 ตอน อยู่ระหว่างก่อสร้าง 11 ตอน คาดเสร็จตลอดสายทาง มิ.ย.2568

ขณะนี้ ได้ก่อสร้างกำแพงบังสายตา พร้อมวัสดุปิดคลุมแบบสมบูรณ์ ช่วงผ่านเรือนจำกลางคลองไผ่ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหวเสร็จแล้ว เป็นอุโมงค์มอเตอร์เวย์ลอยฟ้า

ช่วงทดลองให้บริการฟรี อนุญาตเฉพาะรถยนต์ 4 ล้อเท่านั้น ใช้ความเร็วห้ามเกิน 80 กม. ต่อ ชม.

รวมทั้งห้ามจอดรถลงมาถ่ายรูปเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยและลดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ

คาดว่าจะช่วยแบ่งเบาปริมาณการจราจรบนถนนมิตรภาพได้ 30% หรือวันละ 30,000 คัน

จากปริมาณจราจรช่วงเทศกาลอยู่ที่ 100,000-120,000 คันต่อวัน (ปริมาณการจราจรช่วงเดินทางปกติอยู่ที่ 50,000-60,000 คันต่อวัน)

2. มอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี

พร้อมเปิดใช้ฟรี ช่วง 28 ธ.ค. 2566 ถึง 3 ม.ค. 2567 เพื่อช่วยลดเวลา-ปริมาณรถที่มุ่งหน้าออกไป จ.กาญจนบุรีในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567

จะเปิดให้ใช้ช่วงที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ตั้งแต่บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก จนถึงบริเวณด่านกาญจนบุรี ระยะทาง 51 กิโลเมตร (กม.)

โดยจะเปิดบริการทั้ง 4 ช่องจราจร ทิศทางละ 2 ช่อง

โครงการนี้ (M81) ระยะทางทั้งหมด 96 กิโลเมตร ความคืบหน้าล่าสุด การก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ 17 สัญญา (จากทั้งหมด 25 สัญญา คิดเป็น 95.962%)

มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับถนนวงแหวนรอนนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ด้านตะวันตก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จุดสิ้นสุดอยู่บริเวณทางหลวงหมายเลข 324 (ถนนกาญจนบุรี  อ.พนมทวน)

คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตลอดสายทางในปี 2568 การเปิดM81จะช่วยแบ่งเบาการจราจรบน ทล.323 (ถนนแสงชูโต) ตั้งแต่ช่วง จ.นครปฐม ถึง จ.กาญจนบุรี ประมาณ 20% หรือ 9,000 คันต่อวัน จากช่วงปกติอยู่ที่ 35,000 คันต่อวัน และช่วงเทศกาลอยู่ที่ 45,000 คันต่อวัน

ช่วยลดระยะเวลาเดินทางบนถนนแสงชูโต ที่ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. 10 นาที (70 นาที) เมื่อใช้ M81 จะลดเหลือ 51 กม. ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที ประหยัดเวลาได้ถึง 40 นาที

หลังปีใหม่ อาจขยายเวลาเปิดบริการจนกว่าจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี68 เหมือนสายM6บางปะอิน-นครราชสีมา ต่อไป

3. รถไฟทางคู่สายใต้ และสถานีหัวหินแห่งใหม่

เริ่มเริ่มใช้สถานีรถไฟหัวหินแห่งใหม่ เป็นสถานียกระดับ ตั้งแต่วันนี้ (11 ธันวาคม 2566) เป็นต้นไป

ส่วนสถานีหัวหินเดิมเป็นสถานีอนุรักษ์ นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายภาพและใช้จัดกิจกรรมต่างๆไ ด้

ประการสำคัญ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2566 ร.ฟ.ท.ปรับเวลาเดินรถสายใต้ทั้ง 60 ขบวน (ที่ผ่านทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม-ชุมพร ช่วงแรกระหว่างสถานีบ้านคูบัว จ.ราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จ.ชุมพร 348 กิโลเมตร) ทำให้ผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าใช้เวลาเดินทางน้อยลงถึงจุดหมายปลายทางเร็วขึ้นประมาณ 1.30 ชั่วโมง ไม่ต้องเสียเวลารอหลีกขบวนรถ เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเดินรถ

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพรระยะทางทั้งหมด 421 กม. คืบหน้าผลงาน 99% คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์เปิดบริการตลอดทั้งสายเดือนมิ.ย.2567

เมื่อเส้นทางสายใต้เปิดเดินรถไฟทางคู่ตลอดเส้นทาง จะเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง ลดระยะเวลาเดินทาง เช่น จากเดิมเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงหัวหินใช้เวลาประมาณ 4-5 ชม. ลดลงเหลือเพียง 3 ชม.

ลดต้นทุนการขนส่งระบบโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

4. รถไฟทางคู่สายอีสาน ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ

ร.ฟ.ท.มีแผนเปิดบริการรถไฟทางคู่สายอีสาน ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 135 กม. (ช่วงบันไดม้า-คลองขนานจิตร 23 กม.) หลังเทศกาลสงกรานต์เดือน เม.ย.ปี 2567

แน่นอนว่าจะทำให้การเดินทางสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยมากกว่าเดิม (ทางคู่สายอีสานเสร็จไปก่อนแล้ว คือช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น ที่สถานีขอนแก่นยกระดับ มีทางรถไฟยกระดับ 

วันที่อดีตนายกฯ ลุงตู่ไปติดตามงาน จึงได้บอกไว้ว่า โครงการเหล่านี้ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ได้วางแผนและเร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ระบบราง

เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และรองรับการพัฒนาประเทศตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่รัฐบาลได้วางแผนไว้

หากโครงการฯ แล้วเสร็จจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการเดินขบวนรถได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว

โดยขบวนรถโดยสาร จะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เฉลี่ย 100-120 กม./ชม. จากเดิม 50 กม./ชม.

ขบวนรถสินค้า จะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เฉลี่ย 60 กม./ชม. จากเดิม 29 กม./ชม.

ลดระยะเวลาการเดินทาง ลดต้นทุนการขนส่งด้านโลจิสติกส์ และประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางมากยิ่งขึ้น

5. รถไฟทางคู่สายใหม่ ก่อสร้างเดินหน้าต่อเนื่อง

โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายบ้านไผ่-ร้อยเอ็ด-มหาสารคาม-มุกดาหาร-นครพนม กำลังอยู่ในขั้นตอนก่อสร้างแล้ว

ภาพในอนาคต สถานีรถไฟเชียงของ จะเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า เชื่อมโยงระหว่างประเทศ จะมีทั้งสถานีรถไฟโดยสาร โรงซ่อมบำรุง และจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า เชื่อมโยง ไทย-ลาว-พม่า-จีน

ในปีแรกที่เปิด 2573 ประเมินว่าปริมาณสินค้าที่ขนส่งผ่านพื้นที่เชียงของ ทั้งหมด 1.7 ล้านตัน/ปี

ขณะเดียวกัน การขนสินค้าทางรถไฟสายอีสาน ปัจจุบัน ก็สามารถจัดส่งได้ไปจนถึงประเทศจีนแล้ว

ในอนาคต จะมีการสร้างสะพานทางรถไฟข้ามแม่น้ำโขงโดยเฉพาะ

ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น - หนองคาย ล่าสุด ครม.เศรษฐาได้อนุมัติให้การรถไฟฯ ดำเนินการก่อสร้างโครงการไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 คาดแล้วเสร็จปี 2570

โครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา -หนองคาย ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงรายงานการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) และอยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติโครงการ คาดว่าเปิดให้บริการปี 2572

6. สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ)

ขณะนี้ งานถนนฝั่งไทย คืบหน้า 99% คาดแล้วเสร็จ ม.ค. 2567

งานสะพานข้ามแม่น้ำโขงฝั่งไทย คืบหน้า 65.141% คาดแล้วเสร็จ พ.ย.2567

ส่วนฝั่งลาว คืบหน้า 71.940% และ 95.4% คาดแล้วเสร็จ ม.ค.2567

การก่อสร้างสะพานทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว จะเสร็จทั้งหมดภายในปี 2567

คาดว่าจะเปิดบริการให้ประชาชนทดลองใช้ชั่วคราว(ฟรี) ประมาณปลายปี 2567

7. รถไฟฟ้าหลากสีใน กทม.

รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร เปิดให้บริการฟรี (คนใช้ประมาณกว่า 9 หมื่นคนต่อวัน)

ส่วนทางขึ้นลงในบางสถานีที่ยังไม่เปิดให้บริการครบทุกทางขึ้นลงนั้น ทาง NBM อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ จะแล้วเสร็จก่อนเปิดบริการเชิงพาณิชย์แบบเก็บค่าโดยสาร 15-45 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2567

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ก็มีประชาชนใช้บริการหนาแน่น

ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ก่อสร้างคืบหน้า 24% คาดเสร็จปี 2570

ฯลฯ

ผลิดอกออกผล คนคิดถึงลุงตู่

ทั้งหมด เป็นเพียงบางส่วน ยังมีโครงการถนนชนบท ทางหลวง สนามบิน อาคารผู้โดยสาร ระบบชลประทาน แหล่งน้ำการส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ ฯลฯ

เมื่อผลงานเริ่มผลิดอกออกผล คนไทยจึงคิดถึงลุงตู่

ทำงานเพื่อประเทศไทย ไม่สนเสียงก่นด่าบิดเบือนด้อยค่า จากไปให้คนคิดถึง

สันติสุข มะโรงศรี