วันอาทิตย์ ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')
คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')

คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')

วันพุธ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
พิการ (ไม่) พิเศษ : สำรวจปัญหาความเหลื่อมล้ำของผู้พิการกับการศึกษาในสังคมไทย

ดูทั้งหมด

  •  

ในปัจจุบัน โอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีประสิทธิภาพของกลุ่มผู้พิการที่ยังคงเป็นปัญหาทางการศึกษาสำคัญที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งแม้ว่าในทางกฎหมาย รัฐจะให้ความสำคัญต่อการศึกษาโดยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่าการศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนจะต้องได้รับและสามารถเข้าถึงได้ แต่ในทางปฏิบัติ การจัดการศึกษาสำหรับกลุ่มผู้พิการนั้นยังคงเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ยากและไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งในด้านหลักสูตรโครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษาสำหรับผู้พิการ ความสามารถในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ และทัศนคติของบุคลากรในระบบการจัดการศึกษาแบบพิเศษ โดยสถิติรายงานข้อมูลสถานการณ์การศึกษาคนพิการในประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2565 ไตรมาสที่ 1 ของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่ายังมีผู้พิการที่ยังไม่ได้รับการศึกษา เป็นจำนวน 38,242 คนคิดเป็นร้อยละ 1.82 ของผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวผู้พิการ โดยมีสัดส่วนของผู้พิการที่หลุดจากระบบการศึกษาจำนวน 13,155 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 34.40 ของผู้พิการที่ไม่ได้รับการศึกษา ซึ่งยังไม่นับรวมถึงผู้พิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวผู้พิการอีกจำนวนหนึ่งในสังคมที่ตกหล่นจากการสำรวจ ที่ยังขาดการเข้าถึงสิทธิในการศึกษาอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในสังคมที่พึงได้รับ 

ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีผู้พิการจำนวน 1,625,191 คนคิดเป็นร้อยละ 77.30 ของผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวผู้พิการ ที่ได้รับการระบุว่าเป็นผู้พิการได้รับการศึกษาในหลายระดับตั้งแต่ ประถมศึกษา มัธยมศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา และอุดมศึกษา หากแต่ตัวเลขในเชิงปริมาณเหล่านี้ กลับไม่ได้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำที่ผู้พิการต้องพบเจอจากระบบการศึกษาในรายละเอียดแต่อย่างใด ซึ่งในบทความนี้ ผู้เขียนจะได้ชวนทุกท่านสำรวจถึงปัญหาของผู้พิการกับการศึกษาในสังคมไทยใน 3 ประเด็นสำคัญ ที่ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำของผู้พิการกับการศึกษายังเป็นเรื่องที่น่ากังวลในสังคม 


แบบไหนถึงจะเรียกว่า “พิการ” ในสายตาของการศึกษา 

ในประการแรก คือ เรื่องของการตีตรา (Label) เด็กในระบบการศึกษาว่าผู้พิการคนใดบ้างที่จะถูกมองว่ามีความบกพร่องหรือไม่มีความบกพร่องต่อการเรียนรู้ในระบบการศึกษา โดยแนวคิดของ R.P. McDermott (1993) ได้ชี้ให้เห็นว่าระบบการศึกษาในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ยังมีปัญหาในเรื่องของการจัดแบ่งประเภทของผู้ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มอาการที่เป็นความพิการทางร่างกาย ได้แก่ อาการตาบอด อาการหูหนวก หรืออาการที่เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น กลุ่มอาการออทิสติก (Autistic Disorder) และให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาเฉพาะทางของเด็กกลุ่มนี้เป็นหลัก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการศึกษาของผู้ที่มีความบกพร่องในแง่ที่เป็นเชิงจิตวิทยา เช่น กลุ่มเด็กที่มีอาการความบกพร่องทางการคำนวณ การอ่าน หรือการเขียน (Learning Disabilities : LD) ยังเป็นกลุ่มที่ถูกละเลยจากการมองของรัฐในฐานะที่เป็นผู้พิการที่ไม่สามารถเข้าเรียนตามหลักสูตรการศึกษาภาคปกติได้ จึงทำให้เด็กที่มีความบกพร่องดังกล่าวยังถูกบังคับให้ต้องเรียนอยู่ในหลักสูตรการศึกษาแบบทั่วไป และไม่สามารถที่จะเข้าถึงเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

“ความรวย” และ “ความจน” ส่งผลกับ “โอกาส” ในการศึกษาที่ไม่เท่าเทียมกัน 

ในประการที่สอง คือ เรื่องของทุนที่มีผลต่อการผลิตซ้ำทางความเหลื่อมล้ำในสถาบันการศึกษา โดยจากแนวคิดของ Pierre Bourdieu (1986) เกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำในสถาบันการศึกษา ได้อธิบายว่าในความเป็นจริง สภาพสังคมที่ในแต่ละครอบครัวของผู้พิการนั้นมีทุนทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันนี้ แม้ว่ารัฐจะจัดให้มีการศึกษารูปแบบพิเศษขึ้นสำหรับผู้พิการ แต่ทุนที่ไม่เท่ากันทั้งในเรื่องของเงินทองและชื่อเสียง ยังคงทำให้โรงเรียนกลายเป็นพื้นที่ผลิตซ้ำทางความเหลื่อมล้ำของโอกาสในการประสบความสำเร็จทางการศึกษาที่ไม่เท่าเทียมกันในผู้พิการแต่ละคน โดยที่ครอบครัวของผู้พิการแต่มีทุนทรัพย์นั้น อาจสามารถส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสในการศึกษาที่ดีกว่าผู้พิการที่ไม่มีทุนทรัพย์ได้มากกว่า 

เพราะ “ครู” ก็เป็นส่วนหนึ่งของความเหลื่อมล้ำในการศึกษาของผู้พิการ 

ในประการสุดท้าย คือ เรื่องของบุคลากรที่อยู่ในระบบการศึกษา โดยจากแนวคิดของ George Dearborn Spindler (1960) เกี่ยวกับการอธิบายและจำแนกประเภทของครูในฐานะที่เป็นผู้ส่งผ่านทางวัฒนธรรม พบว่า ในระบบการศึกษาของไทยจะมีครูที่ปรากฏอยู่ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ (1) Reaffirmativetraditionalist หรือครูที่ต้องเผชิญกับระบบคุณค่าและรูปแบบการสอนแบบใหม่ที่ทำให้รู้สึกกดดัน และเกิดภาวะยึดเอาแนวทางการสอนที่ยึดโยงกับตัวผู้สอนเป็นหลัก และ (2) Compensatory Emergentist หรือครูที่เน้นการเรียนการสอนเป็นไปในรูปแบบที่เน้นความสอดคล้องกันของกลุ่มและปิดกั้นความแตกต่างหลากหลายของผู้เรียน ซึ่งครูทั้งสองรูปแบบในข้างต้น มีแนวโน้มที่จะทำให้การเรียนรู้ของกลุ่มผู้พิการในระบบการศึกษาถูกปิดกั้นโอกาสจากการที่ครูไม่มีความเข้าใจต่อวัฒนธรรมในชั้นเรียนของกลุ่มผู้พิการที่ต้องการรูปแบบการเรียนรู้ที่เน้นความเข้าใจเป็นพิเศษ และส่งผลให้การศึกษาในกลุ่มผู้พิการไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็น 

พลิกโฉมการศึกษาไทยที่ใส่ใจ “ผู้พิการ” มากขึ้น 

สำหรับข้อเสนอแนะในการพัฒนาและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบการศึกษาของกลุ่มผู้พิการในประเทศไทยนั้น ผู้เขียนได้มีข้อเสนอแนะที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบการศึกษาของไทยที่ใส่ใจผู้พิการมากขึ้น ใน 3 ประเด็นสำคัญ ดังนี้ 

(1) รัฐจะต้องจัดให้มีระบบการจัดการศึกษาแบบพิเศษสำหรับกลุ่มผู้พิการที่มีประสิทธิภาพ และเข้าถึงได้โดยกลุ่มผู้พิการทุกคนได้อย่างเท่าเทียมและเสมอภาคกัน ผ่านการอุดหนุนในด้านของงบประมาณด้านการศึกษาและการกระจายบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและมีความเฉพาะทางในด้านการศึกษาสำหรับกลุ่มผู้พิการให้เข้าถึงในสถานศึกษาสำหรับผู้พิการในพื้นที่ต่างๆเพื่อลดช่องว่างในเรื่องของทุนที่แตกต่างกันให้ได้มากที่สุดในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาของกลุ่มผู้พิการ  

(2) การพิจารณาปรับปรุงหลักสูตรโครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษาที่จะต้องทำความเข้าใจถึงความแตกต่างหลากหลายของกลุ่มผู้ที่มีความพิการและความบกพร่องในการเรียนรู้ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละกลุ่ม และจัดการเรียนการสอน รูปแบบเนื้อหา และทรัพยากรที่ใช้ในการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการพิเศษของผู้พิการในแต่ละกลุ่มที่มีความต้องการในการเรียนรู้ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ในกลุ่มผู้พิการที่มีภาวะออทิสติก จำเป็นที่จะต้องมีการจัดให้มีการเรียนในเรื่องของพัฒนาการทางด้านอารมณ์ (EQ) ที่เหมาะสม เป็นต้น  

(3) การพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นไปในลักษณะของครูที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการเรียนการสอนและระบบคุณค่าที่เปลี่ยนแปลงและแตกต่างไปจากแบบปกติ ซึ่งครูในลักษณะดังกล่าวจะสามารถเชื่อมโยงและสร้างแนวทางใหม่ในการส่งผ่านวัฒนธรรมและส่งเสริมการเรียนรู้บนพื้นฐานที่ยึดอยู่บนความแตกต่างหลากหลายของผู้เรียนเป็นหลัก และทำให้การเรียนการสอนในระบบของการจัดการศึกษาแบบพิเศษสำหรับกลุ่มผู้พิการเกิดประสิทธิภาพในการเรียนรู้มากที่สุด  

ในท้ายที่สุดแล้ว การพัฒนาทั้งในด้านการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียม การมีหลักสูตรการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้พิการในแต่ละกลุ่ม และการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ จะทำให้การพัฒนาทางด้านการศึกษาของกลุ่มผู้พิการในไทยเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และสร้างสังคมที่มีผู้พิการจะได้รับความสนใจที่ “พิเศษ” มากขึ้นจากคนในสังคม 

เจษฎา จงสิริจตุพร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:41 น. โพลชี้คนอุตสาหกรรมเชื่อมั่น 4 ผู้นำพรรคเล็ก–ตั้งใหม่ เปิดโอกาสขับเคลื่อนประเทศ
14:33 น. สถานการณ์น้ำนครพนม ไม่ถึงขั้นวิกฤต ประตูระบายยังรองรับได้เยอะ
14:31 น. ‘สวนดุสิตโพล’กว่า50%ไม่เชื่อมั่นครม.ใหม่ จี้เร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ มองรบ.ไม่น่าแก้ภาษีทรัมป์ได้
14:18 น. 'ทวี 'ลงพื้นที่'ปัตตานี'ขึงขังต้องปราบปรามกลุ่มปัญหา'ความไม่สงบ-ยาเสพติด-'จริงจัง
14:12 น. บุฟเฟต์ทุเรียนเบตง 90 นาที 400 บาท กินได้ทุกสายพันธุ์
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
อื้อหือ! เพจดังเปิดภาพ 'สีกากอล์ฟ' ย้อนอดีต 10 ปี ไม่แปลกใจทำไมพระหวั่นไหว
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
ดูทั้งหมด
การดูแลรักษาสุนัขมีค่าเอนไซม์ตับสูงกว่าปกติ
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติต้องมีกระดูกสันหลัง
บุคคลแนวหน้า : 13 กรกฎาคม 2568
ชีวิตประจำวันของผม-ความเก่ง
บทบรรณาธิการ : 13 กรกฎาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘สวนดุสิตโพล’กว่า50%ไม่เชื่อมั่นครม.ใหม่ จี้เร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ มองรบ.ไม่น่าแก้ภาษีทรัมป์ได้

บุฟเฟต์ทุเรียนเบตง 90 นาที 400 บาท กินได้ทุกสายพันธุ์

ปลอบอดีตพระสึกใหม่!! แนะทำมาหากินสุจริต กลับตัวในฐานะคนเคยผิดพลาดได้

‘กัมพูชา’แก้รธน.เปิดช่องรัฐบาลถอนสัญชาติ แม้ถูกมองใช้ปราบปรามผู้เห็นต่างการเมือง

‘วิสุทธิ์’เดือดแทนนาย!ฉะพวก’จ้องจับผิด‘ทักษิณ’จะพูดจะทำอะไรก็ฟ้องหมด กลัวอะไรขนาดนั้น

'อนุสรณ์'ขอหยุดตั้งแง่'ทักษิณ'ร่วมเจรจาภาษีทรัมป์ เชื่อรบ.ปิดดีลได้ต่ำกว่า 36%

  • Breaking News
  • โพลชี้คนอุตสาหกรรมเชื่อมั่น 4 ผู้นำพรรคเล็ก–ตั้งใหม่ เปิดโอกาสขับเคลื่อนประเทศ โพลชี้คนอุตสาหกรรมเชื่อมั่น 4 ผู้นำพรรคเล็ก–ตั้งใหม่ เปิดโอกาสขับเคลื่อนประเทศ
  • สถานการณ์น้ำนครพนม ไม่ถึงขั้นวิกฤต ประตูระบายยังรองรับได้เยอะ สถานการณ์น้ำนครพนม ไม่ถึงขั้นวิกฤต ประตูระบายยังรองรับได้เยอะ
  • ‘สวนดุสิตโพล’กว่า50%ไม่เชื่อมั่นครม.ใหม่ จี้เร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ มองรบ.ไม่น่าแก้ภาษีทรัมป์ได้ ‘สวนดุสิตโพล’กว่า50%ไม่เชื่อมั่นครม.ใหม่ จี้เร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ มองรบ.ไม่น่าแก้ภาษีทรัมป์ได้
  • \'ทวี \'ลงพื้นที่\'ปัตตานี\'ขึงขังต้องปราบปรามกลุ่มปัญหา\'ความไม่สงบ-ยาเสพติด-\'จริงจัง 'ทวี 'ลงพื้นที่'ปัตตานี'ขึงขังต้องปราบปรามกลุ่มปัญหา'ความไม่สงบ-ยาเสพติด-'จริงจัง
  • บุฟเฟต์ทุเรียนเบตง 90 นาที 400 บาท กินได้ทุกสายพันธุ์ บุฟเฟต์ทุเรียนเบตง 90 นาที 400 บาท กินได้ทุกสายพันธุ์
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เราสูญเสียโอกาสทางการศึกษามาแค่ไหน? เมื่อระบบถูกกัดกินด้วยก้อนเนื้อร้ายที่ชื่อว่าคอร์รัปชัน

เราสูญเสียโอกาสทางการศึกษามาแค่ไหน? เมื่อระบบถูกกัดกินด้วยก้อนเนื้อร้ายที่ชื่อว่าคอร์รัปชัน

9 ก.ค. 2568

พัฒนาทักษะการสื่อสารด้านการต่อต้านคอร์รัปชันผ่านการกระทำเชิงสัญลักษณ์

พัฒนาทักษะการสื่อสารด้านการต่อต้านคอร์รัปชันผ่านการกระทำเชิงสัญลักษณ์

25 มิ.ย. 2568

จีนกระจุก เทากระจาย: มอง ‘ทุนจีนเทา’ ที่กลืนกลายอยู่ในสังคมไทยผ่านมุมมองสังคมวิทยา

จีนกระจุก เทากระจาย: มอง ‘ทุนจีนเทา’ ที่กลืนกลายอยู่ในสังคมไทยผ่านมุมมองสังคมวิทยา

18 มิ.ย. 2568

องค์กรย้อนแย้งลักลั่นและเกมผักชีโรยหน้าในดินแดนมัชฌิมา

องค์กรย้อนแย้งลักลั่นและเกมผักชีโรยหน้าในดินแดนมัชฌิมา

11 มิ.ย. 2568

การแจ้งเบาะแส เทคโนโลยี และการแก้คอร์รัปชัน

การแจ้งเบาะแส เทคโนโลยี และการแก้คอร์รัปชัน

28 พ.ค. 2568

เมื่อผู้หญิงเผชิญหน้ากับคอร์รัปชัน : ความไม่เท่าเทียมทางเพศในมิติที่สังคมไทยมองข้าม

เมื่อผู้หญิงเผชิญหน้ากับคอร์รัปชัน : ความไม่เท่าเทียมทางเพศในมิติที่สังคมไทยมองข้าม

21 พ.ค. 2568

เลือกตั้งเทศบาล 68 : ประชาชนร่วมสร้างความโปร่งใสในการเลือกตั้งได้อย่างไรบ้าง

เลือกตั้งเทศบาล 68 : ประชาชนร่วมสร้างความโปร่งใสในการเลือกตั้งได้อย่างไรบ้าง

14 พ.ค. 2568

The Corruption ระบบแท้ คนเก๊: วิเคราะห์ปัญหาคอร์รัปชันที่ประเทศไทยไม่มีทางแก้?

The Corruption ระบบแท้ คนเก๊: วิเคราะห์ปัญหาคอร์รัปชันที่ประเทศไทยไม่มีทางแก้?

30 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved