วันพฤหัสบดี ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เส้นใต้บรรทัด
เส้นใต้บรรทัด

เส้นใต้บรรทัด

จิตกร บุษบา
วันอาทิตย์ ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
ม.112 ไม่ใช่คดีการเมือง

ดูทั้งหมด

  •  

ขอย้ำว่า การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ใช่ความผิดทางการเมืองครับ

ต่อให้คุณมีความคับแค้นทางการเมืองใดๆ คุณก็ไม่มีสิทธิที่จะ “ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย”แก่ผู้หนึ่งผู้ใด ไม่ว่าจะเป็น “ราษฎรด้วยกัน” หรือ “พระมหากษัตริย์” ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็น “ประมุขแห่งรัฐ”


1) เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดเชียงราย นัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในคดีของ “บัสบาส” นายมงคล ถิระโคตร พ่อค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์และนักกิจกรรมในจังหวัดเชียงรายวัย 30 ปีผู้ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการโพสต์เฟซบุ๊กรวม 27 โพสต์ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2564

คดีนี้ บัสบาสถูกจับกุมดำเนินคดีสองครั้ง ภายหลังเดินทางไปนั่งอดอาหารประท้วงเรียกร้องสิทธิการประกันตัวของผู้ต้องขังทางการเมือง หน้าศาลอาญา ในช่วงสงกรานต์ปี 2564 โดยมี พ.ต.ท.ปราโมทย์ บุญตันบุตร จากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เป็นผู้กล่าวหาในสองคดี ที่ถูกรวมการพิจารณาเข้าด้วยกัน

ในชั้นพิจารณา ศาลจังหวัดเชียงรายได้สั่งพิจารณาคดีนี้เป็นการลับ ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าฟังการพิจารณา และมีช่วงการพิจารณาที่ศาลใช้การสืบพยานโดยระบบการบันทึกภาพและเสียง

2) หลังจากสืบพยานเสร็จสิ้น วันที่ 26 ม.ค. 2566 ศาลจังหวัดเชียงรายมีคำพิพากษา โดยเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดในจำนวน 14 ข้อความ และยกฟ้องอีก 13 ข้อความ ในกรณีข้อความที่เกี่ยวกับอดีตพระมหากษัตริย์ (รัชกาลที่ 9) หรือข้อความที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ว่า โพสต์หมายถึงบุคคลใด และบางโพสต์แม้จะมีภาพรัชกาลที่ 10 แต่ศาลก็เห็นว่า ไม่เป็นการดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาท ทำให้ไม่เข้าองค์ประกอบมาตรา 112 ศาลจึงพิพากษาลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้เหลือกระทงละ 2 ปี ทั้งหมด 14 กระทง รวมโทษจำคุก 28 ปี

หลังพิพากษา ศาลชั้นต้นได้ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา และศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้มีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นเลย โดยอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ เนื่องจากเห็นว่าจำเลยไม่เคยผิดสัญญาประกัน แต่กำหนดเงื่อนไขการประกันตัว ได้แก่ ห้ามกระทำการที่เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

3) ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์คดี และอัยการโจทก์ก็ได้ยื่นอุทธรณ์เช่นกัน โดยขอให้ลงโทษในกระทงที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องทั้งหมด โดยทราบในภายหลังว่า ศาลได้ส่งหมายแจ้งการยื่นอุทธรณ์ของโจทก์ไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้านซึ่งจำเลยไม่ได้อาศัยอยู่ ทำให้ไม่เห็นหมายแจ้งอุทธรณ์ของโจทก์

18 ม.ค. 2567 มงคล พร้อมเพื่อนและครอบครัว เดินทางมาฟังคำพิพากษา โดยปรากฏว่าลิฟต์ของศาลจังหวัดเชียงรายเสีย ทำให้พ่อและแม่ของมงคล ซึ่งอายุมากแล้ว ไม่สามารถเดินขึ้นบันไดไปฟังคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาในชั้น 4 ได้ ต้องรออยู่ด้านล่าง

ศาลจังหวัดเชียงรายเริ่มอ่านคำพิพากษา โดยสรุปศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้วินิจฉัยในประเด็นอุทธรณ์ของจำเลย โดยเห็นว่า ศาลไม่อาจยึดถือตามคำยืนยันของจำเลย หรือความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ หรือนักวิชาการทางกฎหมายที่ฝ่ายโจทก์และจำเลยนำเข้าสืบเป็นหลักในการวินิจฉัย แต่ต้องรับฟังและพิจารณาความคิดเห็นนั้นประกอบการวินิจฉัยชี้ขาด

การกระทำของจำเลยในส่วนของการโพสต์ 14 ข้อความดังกล่าว ศาลเห็นว่า สามารถใช้ความรู้สึกและความเข้าใจของวิญญูชนทั่วไปก็เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาอย่างไรจำเลยย่อมทราบดีว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ประชาชนไทยให้ความเคารพสักการะ ทรงเป็นประมุขของประเทศ บุคคลผู้ให้ความเคารพสักการะต่อสถาบัน
พระมหากษัตริย์ จะไม่กระทำการอันเป็นการหมิ่นประมาทดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์

การที่จำเลยใช้ถ้อยคำที่จำเลยเองก็ยอมรับว่าหยาบคายลงในเฟซบุ๊ก ลงภาพการทำให้พระบรมฉายาลักษณ์เสียหายหรือภาพล้อเลียนรูปพระพักตร์ หรือภาพที่แสดงถึงความไม่เคารพ วิญญูชนทั่วไปย่อมเข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความเกลียดชังต่อองค์พระมหากษัตริย์ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงต่อเกียรติยศ ไม่อาจเข้าใจได้ว่าเป็นการแสดงออกทางการเมืองในเชิงสัญลักษณ์ หรือเป็นการล้อเลียนเชิงวิพากษ์ และไม่อาจเข้าใจว่าจะไม่ได้ทำให้พระมหากษัตริย์เสียหาย ศาลอุทธรณ์จึงเห็นว่าโพสต์ทั้ง 14 ข้อความ เป็นความผิดตามฟ้องของโจทก์ อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น

ส่วนในประเด็นอุทธรณ์ของโจทก์นั้น ศาลเห็นว่าการที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ความผิดตามมาตรา 112 นั้น ต้องเป็นการกระทำต่อพระมหากษัตริย์และพระราชินีในรัชกาลปัจจุบันเท่านั้น โดยข้อความ 9 โพสต์ของจำเลย เป็นการกล่าวถึงรัชกาลที่ 9 จึงขาดองค์ประกอบความผิด

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 6374/2556 วางหลักของความผิดตามมาตรา 112 พระมหากษัตริย์มิได้หมายความเฉพาะพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์อยู่ในขณะที่มีการกระทำความผิดเท่านั้น แต่หมายความรวมถึงพระมหากษัตริย์ที่สวรรคตไปแล้ว หรือมิได้ทรงครองราชย์ต่อไปแล้วด้วย ดังนั้นการกระทำของจำเลยทั้ง 9 โพสต์ ก็เป็นความผิดตามมาตรานี้ด้วย

ส่วนโพสต์ข้อความอีก 2 โพสต์ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ไม่ปรากฏแน่ชัดว่า จะหมายถึงพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบันหรือไม่นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เมื่อเข้าใจโดยชัดแจ้งว่า จำเลยได้กล่าวว่าองค์พระมหากษัตริย์ให้เสียหาย จึงเห็นว่ามีความผิดตามฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องโพสต์อีก 2 ข้อความ ที่เห็นว่ามิได้สื่อความหมายให้ผู้อ่านมีความรู้สึกดูหมิ่น หรือเกลียดชังพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด

ศาลอุทธรณ์ภาค 5 จึงเห็นว่าจำเลยมีความผิดในอีก 11 กระทง ที่ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นยกฟ้องลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษลงหนึ่งในสาม เหลือจำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 22 ปี เมื่อรวมกับโทษจำคุก 28 ปี ในอีก 14 กระทงก่อนหน้านี้ รวมเป็นโทษจำคุกรวม 50 ปี

4) หลังฟังคำพิพากษา นายมงคลได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปยังห้องขังใต้ถุนศาล และทนายความได้ยื่นขอประกันตัวระหว่างฎีกา ซึ่งต่อมาศาลจังหวัดเชียงรายอ่านคำสั่งของศาลฎีกา มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวจำเลย ระบุพิจารณาคำร้องของจำเลย พฤติการณ์แห่งคดีประกอบกับศาลอุทธรณ์ภาค 5 ลงโทษจำคุกจำเลยถึง 50 ปีหากปล่อยชั่วคราวเชื่อได้ว่าจะหลบหนี ให้ยกคำร้อง ทำให้มงคลจะถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางเชียงรายในระหว่างชั้นฎีกา

5) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า โทษจำคุกของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในคดีนี้ นับได้ว่าเป็นคดีมาตรา 112 ที่ถูกลงโทษสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเท่าที่ทราบข้อมูลก่อนหน้านี้ คดีที่ถูกลงโทษจำคุกสูงที่สุดคือ คดีของ “อัญชัญ” ศาลอาญาลงโทษจำคุกรวม 87 ปี จากการเผยแพร่คลิปเสียงของ “บรรพต” ดีเจผู้จัดรายการใต้ดิน จำนวน 29 กรรม โดยเธอให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษเหลือจำคุก 29 ปี 174 เดือน (คิดเป็นประมาณ 43 ปี 6 เดือน) โทษจำคุกที่ถูกลดหย่อนแล้วในกรณีของบัสบาส จึงสูงกว่าคดีของอัญชัญ

นอกจากสองคดีนี้ บัสบาสยังถูกฟ้องในคดีมาตรา 112 ที่ศาลจังหวัดเชียงรายในภายหลังอีกคดีหนึ่ง จากการโพสต์อีก 2 ข้อความ โดยในคดีที่สามนี้ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2566 ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาเห็นว่ามีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุก 4 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา คดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์คำพิพากษา

5) นายวีรนันท์ ฮวดศรี สส.ขอนแก่น พรรคก้าวไกลแสดงความเห็นกรณี “การนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง”หลังจากเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผานมา ศาลจังหวัดเชียงรายอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ลงโทษจำคุก นายมงคล ถิระโคตร หรือ บัสบาส นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงราย เป็นเวลารวม 50 ปี โดยนายวีรนันท์ กล่าวว่าโทษจำคุก 50 ปี ถือเป็นโทษสูงสุดที่ศาลได้พิพากษาความผิดตามมาตรานี้

เขากล่าวว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะหารือเพื่อหาทางออกของปัญหาความขัดแย้งเหล่านี้ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคดีที่อยู่ในศาลหลายคดีที่อยู่ชั้นตำรวจ และอีกหลายคดีที่จบไปแล้วนั้นมูลเหตุจูงใจของการกระทำมาจากมูลเหตุทางการเมือง เมื่อปัญหาเกิดขึ้นจากมูลเหตุทางการเมือง เราก็ควรใช้การเมืองคลี่คลายและหาทางออกของสถานการณ์นี้ เป็นโอกาสเหมาะที่จะนำวาระเรื่องนี้เข้ามาถกเถียงในพื้นที่แห่งการพูดคุยนั่นคือพื้นที่ของรัฐสภา

ก่อนหน้านี้ ช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2566 หลายพรรคมีความเห็นเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง ซึ่งขณะนั้นโดยหลักการมองไปทิศทางเดียวกัน ตนจึงขอย้อนเตือนความจำและฝากคำถามไปยังพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาล 2 ข้อ ว่า 1.จะเอาอย่างไรกับร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม เพื่อตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง พรรคเพื่อไทยจะยื่นหรือไม่ และ 2.หากยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง พรรคเพื่อไทยจะยื่นเมื่อไรและมีแนวทางต่อเรื่องนี้อย่างไร

นายวีรนันท์ กล่าวต่อว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะพูดคุยเรื่องการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองอย่างจริงจัง และใช้พื้นที่สภาฯ ร่วมกันพิจารณากฎหมายเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น เนื่องจากการตัดสินโทษที่เกิดขึ้นถูกตั้งคำถามอย่างกว้างขวาง

“ผมและพรรคก้าวไกลยังคงรอ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองจากทางพรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลที่จะยื่นเข้ามาในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาเนื้อหารายละเอียด และถอดสลักความขัดแย้งทางการเมืองไทยไปด้วยกัน” นายวีรนันท์ กล่าว

นายวีรนันท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนไม่อาจทนเห็นผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง ที่ใช้เสรีภาพในการแสดงออกต้องเดินเข้าคุกและจากไปทีละคน และหากไม่มีความชัดเจนเรื่องการนิรโทษกรรม เมื่อวันนั้นมาถึงก็สายเกินกว่าจะมาคุยกันในเรื่องนี้แล้ว

6) นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า กรณีนายวีรนันท์ ฮวดศรี สส.ขอนแก่น เขต 1พรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความเห็นหลังศาลจังหวัดเชียงราย อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ลงโทษจำคุก นายมงคล ถิระโคตร หรือ บัสบาส นักกิจกรรมใน จ.เชียงราย รวม 50 ปี โดยอ้างการกระทำความผิดมาตรา 112 มีมูลเหตุจูงใจมาจากการเมืองและเสนอใช้การเมืองคลี่คลายปัญหาผ่านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกลนั้น

นายธนกรกล่าวว่า ตนจึงขอเตือนนายวีรนันท์รวมไปถึงพรรคก้าวไกลด้วย ว่า อย่าเหมารวมคดีที่มีความร้ายแรงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่คนกระทำผิดจาบจ้วง ล่วงละเมิดพระมหากษัตริย์บุคคลสำคัญของชาติ มารวมอยู่ในคดีทางการเมือง เพราะเป็นคนละเรื่อง ไม่เกี่ยวกับการเมือง

เมื่อถามว่า ทางพรรคก้าวไกลเสนอให้สภาได้หาทางออกเรื่อง ม.112 ร่วมกัน ผ่านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะเป็นไปได้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า พรรคก้าวไกลต้องเข้าใจหลักการเรื่องกฎหมายคุ้มครองพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของชาติ เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน ซึ่งคนไทยรักและเทิดทูน มาตลอด ซึ่งคนที่ทำผิดกฎหมายดังกล่าวก็แสดงถึงว่ามีเจตนาคิดร้าย ถือเป็นเรื่องร้ายแรง จะมาเสนอนิรโทษกรรม ยกโทษให้โดยเหมารวม ให้เป็นคดีทางการเมืองไม่ได้ และเชื่อว่าเมื่อเสนอเข้ามาในสภา มั่นใจว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน

“เข้าใจว่าพรรคก้าวไกลมีความพยายามจะขับเคลื่อนและหาทางออกในเรื่องคดีมาตรา 112 เนื่องจากมีกลุ่มสนับสนุนพรรคของตัวเองรวมอยู่ด้วย แต่ขอให้ยึดหลักกฎหมายที่ถูกต้อง เพราะสถาบันไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และการจาบจ้วง หมิ่นประมาท เป็นกฎหมายอาญา ขนาดบุคคลทั่วไปยังไม่ยอมความกันเลย กฎหมายนี้จึงมีไว้เพื่อปกป้องสถาบันฯจากการถูกปองร้ายในรูปแบบต่างๆ ป้องกันไม่ให้กลุ่มที่คิดลดทอน หรือ คิดล้มล้างได้ จึงขอเรียกร้องไปยังนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ปรับทัศนคติความคิดของสส.ในพรรคเสียใหม่ ให้เข้าใจหลักกฎหมายนี้” นายธนกร ระบุ

7) ผมเห็นด้วยกับหลักคิดและคำอธิบายของนายธนกร จึงขอย้ำว่า “การดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย” ผู้หนึ่งผู้ใด ไม่ใช่เรื่องที่จะอ้าง “การเมือง”กลบเกลื่อนได้ แต่ไม่ต้อง “ตีฝีปาก” สร้าง “วาทกรรม” ว่า“ตนไม่อาจทนเห็นผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง ที่ใช้เสรีภาพในการแสดงออกต้องเดินเข้าคุกและจากไปทีละคน” เพราะการแสดงความเห็นต่างและการใช้เสรีภาพในการแสดงออก ต้องมีขอบเขต คือ จะไปละเมิดผู้หนึ่งผู้ใดมิได้เช่น ผมกับนายธนกรเห็นต่างจากนายวีรนันท์ ก็ไม่ได้แปลว่า ผมจะโพสต์ภาพหรือกล่าวถึงนายวีรนันท์ ที่ผิดไปจากความจริง ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายนายวีรนันท์ ยกตัวอย่างเช่น ด่านายวีรนันท์ว่า“ไอ้ลูกกะหรี่” เป็นต้น อย่างนี้ผมมีความผิดแน่

หากนายวีรนันท์กับพรรคก้าวไกลมองว่า การ“ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์” นั้น“มูลเหตุจูงใจของการกระทำมาจากมูลเหตุทางการเมือง”ก็ให้จำเลยพิสูจน์ให้ได้ว่า นักการเมือง หรือพรรคการเมืองใด ทำให้ตนพูดหรือโพสต์ภาพหรือข้อความเหล่านั้น โดยทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นเสรีภาพในการแสดงออก แล้วไปเอาโทษต่อนักการเมืองหรือพรรคการเมืองนั้นๆ แทน

การดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย อย่างไรเสียก็ต้องเอาโทษ เพราะเป็นการใช้เสรีภาพเกินขอบเขต

อยู่ที่จะเอาโทษใครเท่านั้นเอง!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:11 น. ‘ชูวิทย์’กลับมาแล้ว! ขยี้วงจร‘ธุรกิจการเมือง’เรื่องจริงที่น่าสมเพช
13:03 น. เกษตรฯร่วมงานJapan-ASEAN Startup Business Meeting Fair 2025
12:57 น. แค่ครึ่งเดือนยาบ้าทะลักเชียงราย 8 ล้านเม็ด ยึดอาวุธปืนรวบผู้ต้องหาเพียบ
12:57 น. จับช่างแอร์ต่างด้าว! หัวร้อนท้าทายตำรวจ อ้างเดี๋ยวลูกพี่คนไทยมาช่วย
12:55 น. ผบ.ทสส.เตรียมนำ'หน่วยปฏิบัติการพิเศษ' ซ้อมรับมือวิกฤตชาติ จำลองเหตุ'ก่อการร้าย'ในสถานีรถไฟฟ้าพรุ่งนี้
ดูทั้งหมด
'ญี่ปุ่น'อัปเกรดพันธมิตร! เตรียมส่ง'ยุทโธปกรณ์'เสริมเขี้ยวเล็บไทย-7ชาติ
วินาทีตัดสินใจของ'พีระพันธุ์' คือจุดเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย
กัมพูชาราคาน้ำมันพุ่ง เริ่มขาดแคลน 'พนักงานบ่อนปอยเปต'โอดบ่อนเตรียมปิดสิ้นเดือนนี้
นักวิชาการลงชื่อ‘ถวายฎีกา’ ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติบ้านเมือง
ดาวเทียมเปิดภาพช็อก! 3โรงงานนิวเคลียร์'อิหร่าน'พินาศ หลังโดนสหรัฐฯถล่มเจาะลึกใต้ดิน
ดูทั้งหมด
รัฐบาลโจร
ไทยต้องไม่สะทกสะท้านกับฮุนเซน
‘อุ๊งอิ๊งค์ออกไป’ไล่ส่ง‘สมศักดิ์เรียงหิน’
จบแบบลิเก
ดันก.ม.นิรโทษกรรมแบบใด?
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

จับช่างแอร์ต่างด้าว! หัวร้อนท้าทายตำรวจ อ้างเดี๋ยวลูกพี่คนไทยมาช่วย

จับตาพิพากษา‘คดีกบฏ กปปส.’ เสธ.นิด ลั่น 39 จำเลยพร้อมรับคำตัดสิน

แนวหน้าวิเคราะห์ : การันตี 3 ปราสาทเป็นของไทย ตรวจสอบประวัติความเป็นมา

หญิงกัมพูชาหน้าคุ้นๆ โวยหน้าด่านคลองลึก ที่แท้ลอบนั่งขอทานย่านบางกะปิ

‘วิรังรอง’เรียกร้อง‘ดร.อานนท์-55 นักวิชาการ’ยกเลิกถวายฎีกา

รวบแล้วหญิงกัมพูชาพิการ ทำตัวกร่างหน้าด่านคลองลึก ขบวนการแก๊งขอทานเถื่อน

  • Breaking News
  • ‘ชูวิทย์’กลับมาแล้ว! ขยี้วงจร‘ธุรกิจการเมือง’เรื่องจริงที่น่าสมเพช ‘ชูวิทย์’กลับมาแล้ว! ขยี้วงจร‘ธุรกิจการเมือง’เรื่องจริงที่น่าสมเพช
  • เกษตรฯร่วมงานJapan-ASEAN Startup Business Meeting Fair 2025 เกษตรฯร่วมงานJapan-ASEAN Startup Business Meeting Fair 2025
  • แค่ครึ่งเดือนยาบ้าทะลักเชียงราย 8 ล้านเม็ด ยึดอาวุธปืนรวบผู้ต้องหาเพียบ แค่ครึ่งเดือนยาบ้าทะลักเชียงราย 8 ล้านเม็ด ยึดอาวุธปืนรวบผู้ต้องหาเพียบ
  • จับช่างแอร์ต่างด้าว! หัวร้อนท้าทายตำรวจ อ้างเดี๋ยวลูกพี่คนไทยมาช่วย จับช่างแอร์ต่างด้าว! หัวร้อนท้าทายตำรวจ อ้างเดี๋ยวลูกพี่คนไทยมาช่วย
  • ผบ.ทสส.เตรียมนำ\'หน่วยปฏิบัติการพิเศษ\' ซ้อมรับมือวิกฤตชาติ จำลองเหตุ\'ก่อการร้าย\'ในสถานีรถไฟฟ้าพรุ่งนี้ ผบ.ทสส.เตรียมนำ'หน่วยปฏิบัติการพิเศษ' ซ้อมรับมือวิกฤตชาติ จำลองเหตุ'ก่อการร้าย'ในสถานีรถไฟฟ้าพรุ่งนี้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

รอพิกุลทองร่วงจากปาก ‘พีระพันธุ์

รอพิกุลทองร่วงจากปาก ‘พีระพันธุ์

25 มิ.ย. 2568

‘พ่อ’ นายกฯ

‘พ่อ’ นายกฯ

22 มิ.ย. 2568

‘หนี้’ ที่ไทยต้องทวง ‘กัมพูชา’

‘หนี้’ ที่ไทยต้องทวง ‘กัมพูชา’

18 มิ.ย. 2568

ประตู ‘คุก’ ยังเปิดรอ...นะพ่อนะ

ประตู ‘คุก’ ยังเปิดรอ...นะพ่อนะ

15 มิ.ย. 2568

ไม่ขึ้นศาลโลก ไม่เสียดินแดน

ไม่ขึ้นศาลโลก ไม่เสียดินแดน

11 มิ.ย. 2568

รัฐบาลไทย ‘หัวใจเขมร’

รัฐบาลไทย ‘หัวใจเขมร’

8 มิ.ย. 2568

รัฐบาลยังเดินหน้า ‘กาสิโน’

รัฐบาลยังเดินหน้า ‘กาสิโน’

4 มิ.ย. 2568

‘ฮุนเซน’ กร่าง...‘ไทย’ กระจอก

‘ฮุนเซน’ กร่าง...‘ไทย’ กระจอก

1 มิ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved